"Utilities" Sector (7 ต.ค.63)

"Utilities" Sector (7 ต.ค.63)

ชอบ WHAUP มากกว่า TTW

WHAUP และ TTW มีธุรกิจน้ำและพลังงานที่คล้ายกัน รวมถึงงบดุลที่แข็งแกร่งด้วย อย่างไรก็ตามจากกลยุทธ์การซื้อและควบรวมกิจการ (M&A) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการเติบโตไปพร้อมกับบริษัทแม่ WHAUP มีการเติบโตของกำไรที่ดี (8%) ในช่วงปี 2020-2023 ซึ่งมากกว่า TTW (3%) เนื่องจาก TTW ไม่มีโครงการใหม่ในอนาคตอันใกล้ เราประเมินมูลค่าของ WHAUP ที่ 5 บาท/หุ้น และ TTW ที่ 12 บาท/หุ้น จากราคาปิดล่าสุด WHAUP จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าที่ 34% เทียบกับ 2% สำหรับ TTW  เราแนะนำซื้อ WHAUP และขาย TTW 

 

WHAUP มีการเติบโตที่ดีกว่า

เราคาดการณ์การเติบโตของกำไรของ WHAUP ที่ 8% ต่อปีในช่วงปี 2020-2023 จากความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าทีใช้น้ำปริมาณมาก (โรงไฟฟ้า IPP, SPP และปิโตรเคมี) และการเข้าซื้อกิจการล่าสุดของบริษัท Duong River ในเวียดนามร่วมกับการขยายโซล่าบนหลังคาที่รวดเร็ว ส่วนการเติบโตของกำไรของ TTW ค่อนข้างน้อยที่ 3% ในช่วง 2020-2023 จากการเติบโตเพียงเล็กน้อย ของความต้องการในภาคครัวเรือน และกำไรของ TTW จะลดลงอย่างมาก 20% yoy ในปี2024 จากการหมดสัญญาการซื้อขายน้ำของ PTW โดย PTW มีกำไรคิดเป็น 30% ของกำไรรวมปี 2019 และจากการประเมินค่าด้วยวิธี DCF เราประเมินมูลค่า WHAUP ที่ 5 บาท/หุ้น และ TTW ที่ 12 บาท/หุ้น

 

WHAUP มีโอกาสขยายธุรกิจ

นอกจาก WHAUP จะขยายธุรกิจไปกับ WHA แล้ว บริษัทยังมีการเติบโตโดย M&A ขณะนี้ WHA มีนิคมอุตสาหกรรม 15 แห่ง ในประเทศไทยซึ่งมีที่ดินในมือกว่า 7,000+ ไร่และนิคม Nghe An ในเวียดนามกว่า 20,000 ไร่  WHAUP จะขยายกำลังการผลิตโซล่าบนหลังคาเป็น 100MW ใน 2022 จาก 20MW และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าซื้อกิจการ solar farms สามแห่งและกิจการผลิตน้ำและบำบัดน้ำเสียในเวียดนาม ส่วน TTW ไม่มีแผนการขยายงาน การเติบโตของกำไรจะขึ้นกับโครงการปัจจุบัน ถึงแม้ว่าบริษัทกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการน้ำประปาในพม่า แต่ก็ยังไม่มีความแน่นอน

 

WHAUP ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า

อ้างอิงจาก DCF, เราประเมินมูลค่า WHAUP ที่ 5 บาท/หุ้น และ TTW ที่ 12 บาท/หุ้น  ณ ราคาปิดล่าสุด WHAUP ให้ผลตอบแทนรวมที่ 34% เทียบกับ TTW ที่ 2% ประกอบกับแผนการขยายของ WHAUP ที่ชัดเจนกว่ารวมถึงโอกาส M&A  เราจึงชอบ WHAUP มากกว่า TTW