กรมที่ดิน แจงปัญหาเวนคืนที่ดินดีเลย์ รถไฟทางคู่ ‘บ้านไผ่–มุกดาหาร–นครพนม’

กรมที่ดิน แจงปัญหาเวนคืนที่ดินดีเลย์ รถไฟทางคู่ ‘บ้านไผ่–มุกดาหาร–นครพนม’

กรมที่ดิน ชี้แจงกรณีโครงการรถไฟทางคู่ “บ้านไผ่–มุกดาหาร–นครพนม” เร่งแก้ปัญหาเอกสารสิทธิ “เวนคืนที่ดินดีเลย์” ยืนยันเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

“กรมที่ดิน” ชี้แจงกรณีโครงการรถไฟทางคู่ “บ้านไผ่–มุกดาหาร–นครพนม” เร่งแก้ปัญหาเอกสารสิทธิ “เวนคืนที่ดินดีเลย์” ยืนยันเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

กรมที่ดิน แจงปัญหาเวนคืนที่ดินดีเลย์ รถไฟทางคู่ ‘บ้านไผ่–มุกดาหาร–นครพนม’

ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวกรณีรถไฟทางคู่บ้านไผ่-นครพนม 5.5 หมื่นล้าน สะดุด เวนคืนที่ดินดีเลย์ นั้น กรมที่ดิน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นแล้ว ขอชี้แจงว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงบ้านไผ่–มุกดาหาร–นครพนม ระยะทางประมาณ 355 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้างกว่า 55,401 ล้านบาท ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการเชื่อมโยง 6 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร และนครพนม เพื่อยกระดับระบบคมนาคมและเศรษฐกิจของภูมิภาค

อย่างไรก็ตาม ตลอดแนวเส้นทางโครงการมีแปลงที่ดินที่ต้องเวนคืนมากกว่า 8,760 แปลง ส่งผลให้เกิดประเด็นด้านการรังวัด การออกเอกสารสิทธิ และการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน โดยเฉพาะเอกสาร ร.ว.9 และ ส.ร.5 ซึ่งในบางช่วงมีความล่าช้าและพบข้อมูลคลาดเคลื่อน ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในสังคมว่าโครงการอาจติดขัดจากการดำเนินงานของกรมที่ดิน  ซึ่งกรณีดังกล่าวกรมที่ดินได้ประสานแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด ข้อเท็จจริงปรากฏว่า การรังวัดเวนคืนได้ดำเนินการโดย               
 

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมกับสำนักงานที่ดินในพื้นที่รวม 5 สำนักงาน โดยบางแห่งดำเนินการรังวัดเอง 100% และบางแห่งเป็นการรังวัดร่วมกัน ซึ่งผลการรังวัดโดยรวมสามารถดำเนินการได้ครบถ้วน ไม่มีปัญหาในการจัดทำและส่งเอกสาร ร.ว.9 แต่อย่างใด และกรมที่ดินได้ปิดงานในส่วนที่รับผิดชอบแล้ว พร้อมส่งคืนงบประมาณที่เหลือทั้งหมดให้แก่การรถไฟฯ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2568 โดยหากมีการดำเนินงานเพิ่มเติม เจ้าของที่ดินจะต้องยื่นคำขอรายแปลงต่อสำนักงานที่ดินในพื้นที่ตามขั้นตอน

สำหรับประเด็นการประชุมติดตามงานกับทีมรังวัดของสำนักมาตรฐานและส่งเสริมการรังวัดที่ถูกกล่าวอ้างว่า เป็นการหารือเพื่อแก้ปัญหาความล่าช้าในการออกเอกสารสิทธินั้น ข้อเท็จจริงคือการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นโดยสำนักงาน ป.ป.ท. เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 เพื่อหารือภาพรวมความก้าวหน้าโครงการ ซึ่งไม่ได้มีการกล่าวถึงหรือกล่าวโทษว่ากรมที่ดินส่งเอกสารล่าช้า   

แต่อย่างใด ความล่าช้าเกิดจากขั้นตอนเวนคืนพื้นที่พิเศษ โดยสาเหตุของความล่าช้าในบางช่วง เกิดจากกระบวนการเวนคืนที่ดินของรัฐในเขตป่าไม้ ส.ป.ก. อุทยานแห่งชาติ และพื้นที่หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ซึ่งต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายหลายหน่วยงาน ขณะที่เจ้าหน้าที่การรถไฟและผู้รับเหมาไม่ได้ติดตามหรือประสานงานในส่วนนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าเป็นหน้าที่ของกรมที่ดินทั้งหมด ทั้งที่กรมที่ดินเกี่ยวข้องเฉพาะขั้นตอนด้านเอกสารสิทธิเท่านั้น
 

ปัจจุบัน งานรังวัดในหลายจังหวัดมีความคืบหน้าอย่างชัดเจน เช่น จังหวัดนครพนม ยังมีเรื่องค้างตรวจประมาณ 100 เรื่อง ขณะที่จังหวัดร้อยเอ็ด สาขาโพนทอง ค้างจดทะเบียนเกือบ 400 แปลง และจังหวัดยโสธร สาขาเลิงนกทา มีคำขอเกิด 423 แปลง ค้างจดทะเบียน 50 แปลง ซึ่งสำนักงานที่ดินได้แจ้งให้การรถไฟฯ เร่งดำเนินการจดทะเบียนแล้ว ส่วนพื้นที่เวนคืนในเขตหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง จำนวน 10 แปลง ได้รังวัดแล้วเสร็จทุกแปลง และอยู่ระหว่างขั้นตอนจัดทำประชาคม 

โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่า โครงการรถไฟทางคู่สายบ้านไผ่–มุกดาหาร–นครพนม ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง และทุกฝ่ายพร้อมเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นบนพื้นฐานของข้อเท็จจริง เพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือและประเทศโดยรวม

กรมที่ดิน แจงปัญหาเวนคืนที่ดินดีเลย์ รถไฟทางคู่ ‘บ้านไผ่–มุกดาหาร–นครพนม’