แกว่งตัวรอปัจจัยใหม่

ตลาดหุ้นวานนี้

ดัชนี SET index +5.45 จุด ปิดที่ 1,243 จุด (+0.44%) ด้วยปริมาณซื้อขาย 3.9 หมื่นลบ. ตอบรับจากข่าวปธน.ทรัมป์มีอาการดีขึ้นและคาดว่าจะออกจากรพ.ได้ในเร็วๆนี้ รวมถึงข่าวการแต่งตั้งรมต.คลังคนใหม่ของไทยซึ่งช่วยหนุนให้ดัชนีปิดบวก

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,235 – 1,250 จุด จากปัจจัยบวก/ลบที่คละเคล้า โดยแม้จะได้แรงหนุนจากความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ ศบศ.เตรียมถกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงท้ายปี รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้น แต่ความกังวลงบ 3Q20 กลุ่มธนาคาร รวมถึงแรงขาย Foreign ยังคงกดดัน

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

• PTTEP TOP PTTGC อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น
• BANPU AGE อานิสงส์อุปสงค์จีนแข็งแกร่งหนุนราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นในช่วงนี้
• กลุ่มเดินเรือ PSL TTA RCL อานิสงส์ค่าระวางเรือพุ่งขึ้นแรง  

หุ้นแนะนำวันนี้

• PTTEP (ปิด 76.75 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 96) ราคามันดิบฟื้นเป็น Sentiment บวกกับ PTTEP โดยตรง (Oil link) แนวโน้ม 3Q20 มีโอกาสเพิ่มขึ้น qoq ไม่มีแรงกดดันจาก Stock gain /Stock loss เหมือนโรงกลั่น
• PLANB (6.2 ซื้อ/เป้า 7.8) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ปีหน้าคาดกำไรพุ่งทำ All time high จากรายได้ OOH เพิ่มขึ้น, รับรู้รายได้จาก MACO, 7-11 และรายได้จากสัญญาใหม่ของสมาคมฟุตบอลเข้ามาเต็มปี

บทวิเคราะห์วันนี้

AP (ปิด 5.9 ซื้อ/เป้า 8.7 บาท), TU (ปิด 14.1 ซื้อ/เป้า 17.6), Thailand Strategy

ประเด็นสำคัญวันนี้

• (+) ข่าว ปธน. ทรัมป์ ออกจากโรงพยาบาลยังหนุนตลาด : ล่าสุดมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้วในช่วงเช้าวันนี้ และนักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าจากนี้ไปทรัมป์จะรีบเดินหน้าและพรรคดันให้วุฒิสภาฝั่งรีพับลิกันผ่านร่างกฏหมายกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่มูลค่า 2.2 ล้านล้านเหรียญ
• (+) WTI พุ่ง 6% จากข่าวทรัมป์อาการดีขึ้น, แรงงานบ่อน้ำมันนอร์เวย์หยุดงานประท้วง : ตลาดคาดหวังทรัมป์ออกจากโรงพยาบาลเดินหน้าผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ และ คนงานบ่อน้ำมันในนอร์เวย์หยุดงานประท้วงเพื่อต่อรองค่าจ้างทำให้นอร์เวย์หยุดบ่น้ำมันจำนวน 6 แห่ง ทำให้กำลังการผลิตลดลงประมาณ 3.3 แสนบาร์เรลต่อวัน คิดเป็น 8% ของกำลังการผลิตรวมของนอร์เวย์
• (+/-) พรุ่งนี้ติดตาม ศบศ. ออกมาตรการฯ ชุดใหม่ และ ดีเบตของรอง ปธน. สหรัฐ: 7 ต.ค. ศบศ. จะนัดประชุมเพื่อเสนอออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี (คล้ายช้อปช่วยชาติ) และในวันเดียวกันสหรัฐจะมีการดีเบตระหว่างรอง ปธน. กับผู้ท้าชิง นอกจากนี้ Fed จะเปิดเผยรายงานการประชุม (Fed minutes)