ท่องเที่ยวชี้เสี่ยง 'ปิดกิจการ' วอนรัฐรับ 'ทัวริสต์' ไม่กักตัว

ท่องเที่ยวชี้เสี่ยง 'ปิดกิจการ' วอนรัฐรับ 'ทัวริสต์' ไม่กักตัว

“สทท.” เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส 3ฟื้นรับคลายล็อค แต่แนวโน้มไตรมาสสี่ยังทรุด ชี้ธุรกิจท่องเที่ยวเสี่ยงปิดกิจการอีกครั้ง ด้าน “แอตต้า”วอนรัฐกล้าอ้าแขนรับทัวริสต์ทั่วไปแบบไม่กักตัวธ.ค.นี้ ชี้ดีมานด์พร้อมเข้าไทย 1แสนคนต่อเดือน

นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว 700 ราย พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวในไตรมาส 3/2563 อยู่ที่ 60 (ระดับปกติเท่ากับ 100) แม้ว่าจะสูงกว่าที่ผู้ประกอบการได้คาดการณ์ไว้ที่ 37 เมื่อไตรมาส 2/2563 และดีกว่าดัชนีความเชื่อมั่นฯของไตรมาส 2/2563 ซึ่งอยู่ที่ 12 เนื่องจากมีการคลายล็อกดาวน์กิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ยังถือว่าต่ำกว่าไตรมาส 3/2562 ในระดับมาก ซึ่งมีดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวอยู่ที่ 91 เพราะยังมีปัจจัยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลกกดดันอยู่

รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยในไตรมาส 3/2563 ยังระบุเพิ่มเติมว่า เมื่อจำแนกตามประเภทของสถานประกอบการ พบว่าผู้ประกอบการสถานบันเทิงประเมินสถานการณ์ท่องเที่ยวในไตรมาสดังกล่าวอยู่ที่ 42 ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมามากกว่าธุรกิจประเภทอื่นๆ แต่ดีขึ้นกว่าไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งประเมินไว้เป็นศูนย์ เพราะมีคำสั่งล็อกดาวน์

รองลงมาคือธุรกิจที่พักแรมอยู่ที่ 48, สวนสนุกและธีมพาร์ค 50 ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผลประกอบการยังอยู่ในระดับลดลงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาในระดับมากที่สุด ส่วนธุรกิจนวดและสปาอยู่ที่ 60, ธุรกิจนำเที่ยว 68, ร้านอาหาร 73 และธุรกิจขนส่ง 74 ประเมินสถานการณ์การท่องเที่ยวในไตรมาสนี้อยู่ในระดับต่ำกว่าปกติมาก ด้านธุรกิจสินค้าที่ระลึกอยู่ที่89 ประเมินสถานการณ์การท่องเที่ยวในไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับต่ำกว่าปกติ

นายชัยรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านคาดการณ์สถานการณ์ท่องเที่ยวในไตรมาส 4/2563 พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นฯคาดการณ์อยู่ที่ 63 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการคาดหวังว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวในไตรมาสนี้จะดีขึ้นกว่าไตรมาส 3/2563 เล็กน้อย เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น แต่ยังคาดว่าผลประกอบการจะอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติมาก โดยเมื่อไตรมาส 4/2562 ดัชนีความเชื่อมั่นฯอยู่ที่ระดับ 88

ทั้งนี้ สทท.คาดว่าในไตรมาส 4/2563 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเบื้องต้น 5 หมื่นคน ลดลง 99.52%จากช่วงเดียวกันของปี 2562 คาดว่ามีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 4,500 ล้านบาท ลดลง 99.11%จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และคาดด้วยว่าสิ้นปี 2563 ประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีประมาณ 6.74 ล้านคน ลดลง 83.07%จากปี 2562 มีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 336,513 ล้านบาท ลดลง 82.59%ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของรัฐบาลในไตรมาส 4 นี้

โดยทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.กำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติประเภทพิเศษ หรือSpecial Tourist VISA (STV)ที่ 1,200 คนต่อเดือน เข้ามาพำนักแบบระยะยาว (ลองสเตย์) เริ่มเดือน ต.ค.นี้ สทท.มองว่าการแง้มประตูเปิดประเทศด้วยจำนวนเพียงเท่านี้ ไม่มากพอจะหล่อเลี้ยงผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วประเทศ ส่งผลให้ภาคธุรกิจสุ่มเสี่ยงกลับไปปิดกิจการอีกครั้ง (Reclose)โดยเฉพาะกิจการในพื้นที่ที่มีฐานลูกค้านักท่องเที่ยวต่างชาติสูง อาทิ ภูเก็ต สมุย พัทยา และเชียงใหม่ จึงต้องการให้รัฐบาลพิจารณาผ่อนคลายมาตรการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวอย่างจำกัดทันที หลังเห็นผลการนำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยตลอดเดือน ต.ค.นี้

นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวเสริมว่า แอตต้าจะเสนอให้รัฐบาลพิจารณาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วไปจากประเทศหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำ ปลอดโควิดมากกว่า 60 วันขึ้นไป เช่น จีน และไต้หวัน เข้ามาเที่ยวไทยแบบไม่กักตัว เพราะถ้ายังกำหนดให้มีการกักตัว ไม่มีนักท่องเที่ยวทั่วไปคนไหนอยากมา โดยสามารถใช้มาตรการดูแลอย่างคุมเข้ม กำหนดให้มีการเดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยวเท่านั้น ควบคุมพื้นที่ที่พานักท่องเที่ยวไปเที่ยว และสามารถติดตามตัวได้

“เราต้องกล้าเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว หากเป็นไปได้อยากให้เริ่มตั้งแต่เดือน ธ.ค.นี้เป็นต้นไป ซึ่งมีดีมานด์ชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 1 แสนคนต่อเดือน พำนักราว 5-7 วัน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทต่อเดือน สร้างกระแสการเดินทางที่ดีไปถึงช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีนในต้นปีหน้า”