ผันผวนรอปัจจัยใหม่

ผันผวนรอปัจจัยใหม่

คาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อติดตามรายงานการประชุมเดือนก.ค.ของ FED ในวันที่ 20 ส.ค.

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ลดลง 6 จุด (-0.46%) ปิดที่ 1,321 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.78 หมื่นล้านบาท ผิดหวังตัวเลข GDP ไตรมาส 2/20 หดตัว 12.2% หดตัวมากสุดในรอบ 22 ปี นอกจากนี้สภาพัฒน์ยังปรับลดคาดการณ์ GDP ในปีนี้ลงอีกเป็น -7.8% ถึง -7.3% จากเดิมคาด -6% ถึง -5% หุ้นกลุ่มธนาคารถูกเทขายและเป็นกลุ่มกดตลาด

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

มองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัว 1,315 - 1,330 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยกระตุ้นการลงทุนหลังผ่านช่วงประกาศงบ 2Q20 ไปแล้ว นอกจากนี้ คาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อติดตามรายงานการประชุมเดือนก.ค.ของ FED ในวันที่ 20 ส.ค. เพื่อหาจับสัญญาณอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ส่งผลให้ดัชนีมีความผันผวน 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • PTTEP PTTGC TOP IVL ราคาน้ำมันดิบยังทรงตัวเหนือระดับ 42 US/Barrel
  • CRC CPN HMPRO GLOBAL COM7 DOHOME AOT MINT CENTEL ERW อานิสงส์การผ่อนปรน Lockdown และพัฒนาการวัคซีนป้องกัน Covid-19

หุ้นแนะนำวันนี้

  • CPF (ปิด 33.25 ซื้อ/เป้า 42.2) คาดงบ 2H20 ดีต่อจากราคาเนื้อสัตว์ยังทรงตัวในระดับสูง คลาย lockdown หนุนดีมานด์ และข่าวจีนพบไวรัส Covid-19 ในไก่นำเข้าจากบราซิล เป็นโอกาสของ CPF ในการเข้าชิงส่วนแบ่งการตลาด
  • COM7 (ปิด 37 ซื้อ/เป้าสูงสุด IAA Consensus 46) แนวโน้มงบ 3Q และ 4Q โตต่อหลังทุกสาขากลับมาเปิดทำการเต็มไตรมาส และ ยังมี Sentiment บวกจากข่าว iphone เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่วงเดือน ก.ย.ถึง ต.ค.นี้

บทวิเคราะห์วันนี้

CRC, TOP, TRUE

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) น้ำมันดิบ WTI ปิดทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือน: น้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ (+2.1%) ปิดที่  42.89 $/bbl จาก 1)จีนเตรียมนำเข้าน้ำมันดิบจากสหรัฐประมาณ 20 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ส.ค.-ก.ย. และ 2) กลุ่ม OPEC+ ปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังการผลิตอย่างดีเยี่ยมโดยมีอัตราการปฏิบัติตาม 97%
  • (+/-) GDP 2Q20 ไทยหดตัว 12.2% หดตัวมากสุดในรอบ 22 ปี: สภาพัฒน์ประกาศ GDP 2Q20 หดตัว 12.2% น้อยกว่าที่ Consensus ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ -13% นับเป็นการหดตัวหนักสุดใกล้เคียงกับวิกฤติต้มยำกุ้งที่หดตัว 12.5% เราคงมุมมองเดิมคาดเศรษฐกิจไทยผ่านจุดทำสุดแล้ว การคลาย lockdown จะหนุนให้กิจกรรมเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวในระยะถัดไป
  • (-) ความขัดแย้งจีนสหรัฐยังคงอยู่ ล่าสุดสหรัฐเตรียมยกระดับแบนหัวเว่ยเพิ่ม: โดยสหรัฐต้องการปิดการเข้าถึงชิปและเทคโนโลยีทั้งหมดของหัวเว่ย นอกจากนี้สหรัฐยังประกาศขึ้นบัญชีดำบริษัทในเครือหัวเว่ยเพิ่มอีก 38 แห่ง ส่งผลปัจจุบันมีบริษัทในเครือหัวเว่ยทั้งหมดถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำแล้วกว่า 152 แห่ง