ย่อตามเพื่อนบ้าน

ย่อตามเพื่อนบ้าน

ศบค.เตรียมเสนอให้ทดลองยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วประเทศ 15 วัน และเตรียมปลดล็อกกิจกรรมเศรษฐกิจเฟส 4 ในช่วงสัปดาห์นี้จะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ในช่วงอ่อนตัวได้

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index บวก 10 จุด (+0.74%) ปิดที่ระดับ 1,419 จุด มูลค่าซื้อขาย 7.7 หมื่นล้านบาท โดยดัชนีฟื้นตัวขึ้นจากที่ร่วงแรงกว่า 2% ในวันก่อนหน้า ซึ่งมากกว่าหากเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลกที่ลดลงเฉลี่ยเพียง 1-1.5% ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยบวกจากข่าว ศบค. เตรียมเสนอให้ทดลองยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิวทั่วประเทศเป็นเวลา 15 วัน ช่วยหนุน Sentiment การลงทุนพลิกกลับมาเป็นบวก ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 859 ล้านบาท  , ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 3,040 ล้านบาท และ Net Long TFEX SET50  13,767 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

เรามีมุมมองเป็นลบตามทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้านคาด SET อ่อนตัวทดสอบ 1,400 – 1,410 จุด  โดยแม้ว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0 – 0.25% และจะตรึงดอกเบี้ยจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวจากผลกระทบไวรัส Covid-19 อย่างไรก็ตามการคาดการณ์ของ FED ที่ว่า GDP สหรัฐจะหดตัวลง 6.5% ในปีนี้ รวมถึงมีความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานว่าอัตราว่างงานจะอยู่ที่ระดับ 9.3% ในปีนี้นั้นส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงรุนแรงและเป็นลบต่อทิศทางตลาด อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังศบค.เตรียมเสนอให้ทดลองยกเลิกเคอร์ฟิวทั่วประเทศ 15 วัน และเตรียมปลดล็อกกิจกรรมเศรษฐกิจเฟส 4 ในช่วงสัปดาห์นี้จะช่วงหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ในช่วงอ่อนตัวได้

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • หุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET 50 / 100 รอบใหม่   BPP  TTW  ACE  DOHOME  RBF  SIRI  SISB   TVO  WHAUP
  • กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q20 จะเติบโตขึ้น  ( CKP TASCO STA RS )
  • กลุ่ม Finance (KTC SAWAD MTC JMT BAM) ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยทรงตัวระดับต่ำ

หุ้นแนะนำวันนี้

  • CPALL (ปิด 72 ซื้อ/เป้า 88) ได้ Sentiment บวกโดยตรงจากข่าวภาครัฐเตรียมยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ส่งผลให้ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้ตลอด 24 ชั่วโมง จากเดิมเปิด 05.00 – 22.00 น. คาดปัจจัยดังกล่าวจะช่วยหนุนยอดขาย CPALL ทยอยฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับปกติ
  • AOT (ปิด 66.5 ซื้อ/เป้าสูงสุด IAA Consensus 78) เก็งกำไรภาครัฐเตรียมพิจารณาอนุญาติให้เครื่องบินโดยสารเข้าประเทศไทยได้ หลังจากที่มาตรการห้ามบินดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในช่วงวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ส่วนผลประกอบการระยะสั้นยังได้ Sentiment บวกจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าทำให้ AOT อาจมีกำไรจาก FX Gain เนื่องจากมีหนี้เป็นสกุลดอลลาร์และยูโรเป็นสัดส่วนหลัก

บทวิเคราะห์วันนี้

AP (ปิด 5.95 ซื้อ/เป้า 8.50), BEM (ปิด 10.0 ปรับลดเป็นถือ/เป้า 10.5), CPF (ปิด 30.5 ซื้อ/เป้า 36.25)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) Fed คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% ตามคาด และส่งสัญญาณจะลดอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงปี 2022: คณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ (FOMC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% ตามเดิม และสัญญาณจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำจนกว่าเศรษฐกิจและตลาดแรงงานสหรัฐจะกลับสู่ภาวะการจ้างงานเต็มที่และอาจจะคงดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวไปจนถึงสิ้นปี 2022 ส่วนโครงการ QE เฟดจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล 8 หมื่นล้านเหรียญ/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน (MBS) ที่วงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ด้านมุมมองเศรษฐกิจเฟดกลับมาคาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐอีกครั้งหลังจากที่ระงับการคาดการณ์ไปในช่วงวิกฤติ Covid-19 โดยเฟดคาด GDP สหรัฐจะหดตัว 6.5% ในปีนี้และคาดว่าจะกลับมาเพิ่มขึ้น 5% ในปีหน้า 
  • (+) น้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ ปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ตอบรับเงินดอลลาร์อ่อนค่าหลังเฟดส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยไปจนถึงปี 2022: การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยราคาลดลงในช่วงแรกหลังจาก EIA รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 5.7 ล้านบาร์เรลสวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตามท้ายตลาดราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัวและปิดตลาดในแดนบวกหลังจากเฟดออกมาส่งสัญญาณจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% ไปจนถึงปี 2022 ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับ 6 สกุลหลัก โดย Dollar index ลดลงเป็น 96.1 เทียบจากเดือนพ.ค.อยู่ที่ระดับ 100 ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าหนุนให้นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อเก็งกำไรราคาน้ำมันโดยเชื่อราคาขายจะลดลงในสายตาของผู้ซื้อ 
  • (+/-) ปัจจัยที่ต้องติดตาม พรุ่งนี้ติดตาม ศบค. (ชุดใหญ่) พิจารณาปลดล็อกกิจกรรมเศรษฐกิจเฟส 4 และเตรียมยกเลิกเคอร์ฟิว: วานนี้ที่ประชุม ศบค. (ชุดเล็ก) มีมติเตรียมเสนอให้รัฐบาลพิจารณาปลดล็อกกิจกรรมเศรษฐกิจในระยะที่ 4 หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ค่อนข้างผ่อนคลายโดยเฉพาะจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศที่ไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเลยในระยะ 15 วันที่ผ่านมา โดยกิจกรรมที่คาดว่าจะได้รับการปลดล็อกในระยะที่ 4 คือ โรงเรียนนานาชาติ สถาบันกวดวิชา กิจกรรมการกีฬา สนามมวย และการจัดงานคอนเสิร์ต นอกจากนี้ ศบค.ยังเสนอให้ภาครัฐเตรียมยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิวเป็นการชั่วคราวเพื่อทดลองใช้ในระยะ 15 วัน โดยพรุ่งนี้ ศบค.ชุดใหญ่จะประชุมพิจารณาข้อเสนอดังกล่าวและจะนำเสนอที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า