ARROW - ซื้อ

ARROW - ซื้อ

ผลประกอบการปี 20 ชะลอตัวจากผลกระทบของโควิด 19

ประเด็นสำคัญในการลงทุน :

  • คาดกำไรสุทธิ 1Q20 ได้แรงหนุนจากราคาวัตถุดิบเหล็กที่ลดลง

เราคาดรายได้จากการดำเนินงานงวด 1Q20 ที่ระดับ 356.4 ล้านบาท ปรับตัวขึ้น 8.7%QoQ จากการตื่นตัวของผู้บริหารหลังทราบข่าวการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงใช้กลยุทธ์ปรับลดราคาเพื่อเร่งยอดขายตั้งแต่ช่วงปลายเดือนม.ค. แต่หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนรายได้ยังลดลงเล็กน้อย -1.7%YoY ในส่วนของ Gross Margin คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสู่ระดับ 27.0% จาก 24.6% ในไตรมาสก่อน และ 20.1% ใน 1Q19 แม้ค่าเงินบาทจะได้รับผลกระทบจากเงินบาทอ่อนค่า แต่ได้แรงหนุนจากราคาวัตถุดิบเหล็กจากจีนที่ปรับตัวลดลงจาก 24-26 บาท/กก. ใน 4Q19 เหลือ 18-22 บาท/กก. ด้าน %SG&A /Sales คาดว่าจะสามารถรักษาระดับไว้ที่ 12.5-12.7% ได้ตามนโยบายของบริษัท นอกจากนั้นยังคาดว่าจะมีรายการพิเศษจากหนี้สงสัยจะสูญของบริษัทย่อยเมฆา-เอส อีกราว 5 ล้านบาท  ส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิ 1Q20 ราว 50.5 ล้านบาท ยังเติบโต +27.8%QoQ และ +18.6%YoY

  • คาดกำไรปี 20 หดตัว -11.3% ตามปริมาณงานก่อสร้างที่ลดลง

ทิศทางผลประกอบการปี 20 มีแนวโน้มชะลอตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ปริมาณงานก่อสร้างอาคารสำนักงาน และโรงแรม ชะลอตัวลง ประกอบกับงานโครงการใหม่ๆจากภาครัฐอาจล่าช้ากว่าแผน จากความจำเป็นในการจัดสรรงบประมาณเพื่อเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีงานหลักที่เป็นงานโครงสร้างพื้นฐาน เช่น  งานรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีชมพู และสายสีเหลือง ประกอบกับมียอด Backlog มีระดับสูงราว 1 พันล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ตลอดทั้งปี เราคาดรายได้ปี 20 ราว 1,302.7 ล้านบาท ชะลอตัวลง -10.2%YoY ขณะที่ Gross Margin ปี 20 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเป็น 26.5% จาก  25.6% ในปีก่อน ตามทิศทางราคาวัตถุดิบเหล็กที่ลดลง ส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 20 ที่ราว 182.2 ล้านบาท ลดลง -11.3%YoY

  • แนะนำ ซื้อราคาเหมาะสมปี 20 เท่ากับ 00 บาท

แม้ ARROW จะได้รับผลกระทบจากธุรกิจก่อสร้างที่ชะลอตัวลง แต่ราคาวัตถุดิบเหล็กที่ปรับตัวลงยังสามารถช่วยพยุงผลประกอบการได้บางส่วน เราแนะนำ ซื้อ โดยประเมินราคาเหมาะสมอิง PER ที่ 14 เท่า ภายใต้สมมติฐานประมาณการปี 20 ราคาเหมาะสมเท่ากับ 10.00 บาท ซึ่งยังมี Upside จากราคาปัจจุบันราว 40%

ความเสี่ยง

  1. การเปลี่ยนแปลงมาตรฐาน มอก.ในสินค้าเหล็กอาบสังกะสี
  2. ราคาวัตถุดิบเหล็กผันผวน

    3. การลงทุนภาครัฐล่าช้ากว่าแผน