GFPT - ถือ

GFPT - ถือ

ผลประกอบการ 2Q20 ยังได้รับผลกระทบจาก COVID-19

เราประมาณการกำไรปกติใน 1Q20F ลดลงเหลือ 198 ล้านบาท (-13% yoy, -21% qoq) เนื่องจาก (1) กำลังการผลิตที่ลดลงจากเหตุไฟไหม้โรงงาน (2) ผลด้าน seasonal (3) ผลกระทบจาก COVID-19 ในเดือนมีนาคม เราคาดว่ากำไรใน 2Q20F จะยังคงอ่อนแอจากปริมาณการขายที่ลดลงเราถึงราคาเนื้อไก่ที่ลดลง ในขณะที่เราทดสอบ Stress Test และพบว่าบริษัทจะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้แม้อาจอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เราคงคำแนะนำ “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 11 บาทต่อหุ้น (จาก 12.3 บาทต่อหุ้น)

 

คาดว่ากำไรปกติใน 1Q20F จะลดลง 13% yoy

เราคาดว่า GFPT จะรายงานกำไรปกติของ 1Q20F ที่ 198ล้านบาท (-13% yoy, -21% qoq) เราคาดว่ารายได้ของ 1Q20F จะลดลง 8% จาก (1) กำลังการผลิตที่ลดลงจากเหตการณ์ไฟไหม้ (2) ผลด้านseasonal (3) ผลกระทบจาก COVID-19 ในเดือนมีนาคม ในขณะที่เราคาดว่าว่ากำไรขั้นต้นจะคงที่อยู่ที่ระดับ 13% จากต้นทุนอาหารที่ต่ำ

 

คาดว่าผลการดำเนินงานจะลดลงใน 2Q20F

เราคาดว่าปริมาณขายและราคาเนื้อไก่ในประเทศจะลดลงจากความต้องการที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบาง ราคาไก่เนื้อหน้าฟาร์มล่าสุดลดลงไปสู่ระดับ 33 บาทต่อกิโลกรัมเทียบกับราคาตอนต้นปีที่ 36 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ราคาลูกไก่ลดลงสู่ระดับ 6.5 บาทต่อตัวจาก 14.5 บาทต่อตัว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2012 ซึ่งสะท้อนความต้องการเนื้อไก่ที่ลดลง

 

ผ่านการทดสอบ Stress Test จากหนี้สินที่ต่ำและเงินสดที่สูง

เราทำการทดสอบภาวะวิกฤตหรือ Stress Test ของ GFPT โดยสมมติว่าอัตรากำไรขั้นต้นลดลงไปสู่ 6.5% และ 3.5% ตามลำดับและค่าใช้จ่ายในการบริหารและค่าใช้จ่ายด้านการเงินคงที่ ผลลัพธ์แสดง GFPT ยังคงดำเนินการธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องตามปกติหนุนโดยเงินสดในงบดุลราว 1.1 พันล้านบาทและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ต่ำ

 

คงคำแนะนำ ถือ พร้อมราคาเป้าหมายใหม่ที่ 11 บาทต่อหุ้น (จาก 12.3 บาทต่อหุ้น)

เราปรับประมาณการกำไรของปี FY20F และ FY21F ลง 6% และ 7% สู่ระดับ 1.0 พันล้านบาทและ 1.2 พันล้านบาทตามลำดับเพื่อสะท้อนผลกระทบจาก Covid-19 เราปรับสมมติฐานการเติบของรายได้ในปี FY20F และ FY21F ลง -3.7% และ 4.6% จาก -0.9% and 6.6% ตามลำดับ รวมทั้งเราปรับสมมติฐานราคาไก่เนื้อปี 2020F ลงสู่ระดับ 35 บาทต่อกิโลกรัมจาก 36 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ปรับสมมติฐานเงินบาทสู่ระดับ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ นี้ปีนี้และปีหน้าจากระดับ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ (FY20F) และ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ (FY21F) เนื่องจากบริษัทไม่มีปัจจัยบวกใหม่ เราจึงคงคำแนะนำ “ถือ” พร้อมราคาเป้าหมายใหม่ที่ 11.0 บาทต่อหุ้น (จาก 12.3 บาทต่อหุ้น) อิง PE 14 เท่า