“อมตะ" แนะรัฐเร่งสร้างเสถียรภาพ เพิ่มสิทธิประโยชน์ ดึงเงินลงทุนต่างชาติหลังโควิด

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า การระบาดของโรคโควิด-19 คาดว่าจะส่งผลให้ภาพของการลงทุนและการผลิตทั่วโลกเปลี่ยนไป โดยเฉพาะหลังจากที่ประเทศส่วนใหญ่สามารถควบคุมได้ จะทำให้เกิดการตัดสินใจการย้ายฐานการลงทุนมากขึ้น และการเลือกลงทุนในแต่ละพื้นที่ของนักลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ(FDI) จะเปลี่ยนไปจากเดิม โดยจะมองเรื่องความมีเสถียรภาพของรัฐบาลและนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่ชัดเจนมากขึ้น

“แม้ว่าไทยจะได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ แต่ความพร้อมที่จะเปิดรับการลงทุน ทั้งในด้านสิทธิประโยชน์ แรงงาน และนโยบายของรัฐบาล ที่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็น อินโดนีเซีย เวียดนาม ลาว กัมพูชาและเมียนร์มาจะเป็นสิ่งที่นักลงทุนมอง ฉะนั้น ไทยต้องปรับสิทธิประโยชน์ให้ตอบโจทย์นักลงทุน"

ทั้งนี้ รัฐบาลจะต้องเร่งออกนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ โดยเริ่มต้นจากการกระตุ้นการบริโภค ตามที่รัฐบาลที่ได้ออกมาตรการอัดฉีดเงินเข้าระบบวงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท รวมถึงเดินหน้ามาตรการยกระดับรายได้ของภาคเกษตร ให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว

สำหรับ อมตะฯ มีแผนรองรับกับเปลี่ยนแปลงของภาพการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งในเรื่องของพื้นที่รองรับการลงทุนที่มีอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะชิตี้ ชลบุรี และ นิคมฯอมตะชิตี้ ระยอง ที่ปัจจุบันมีอยู่ที่ 14,000 ไร่ โดยจะพิจารณาเปิดรับการเข้ามาลงทุน ตามเงื่อนไขของนักลงทุนทั้งการชื้อและเช่าที่ดิน เนื่องจากนักลงทุนยังให้ความสนใจในการเข้ามาซื้อที่ดินเพื่อการลงทุนในระยะยาวในนิคมฯของกลุ่มอมตะอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าโควิด-19 จะทำการเข้ามาของนักลงทุนเกิดการชะลอตัว เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส ซึ่งนับว่าเป็นจังหวะเดียวกับช่วง Low season ของกลุ่มบริษัท อมตะที่เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วในช่วงไตรมาส 1-2 ของทุกปี