HMPRO - ถือ

HMPRO - ถือ

ประมาณการ 1Q63: ลดลง YoY และ QoQ

Event

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ HMPRO ใน 1Q63 จะอยู่ที่ 1.1 พันล้านบาท (-24% YoY, -39% QoQ) คิดเป็น 17% ของประมาณการปีนี้ที่ 6.2 พันล้านบาท โดยกำไรที่ลดลง YoY จะเป็นเพราะ SSSG อ่อนแอตามภาวะเศรษฐกิจ ในขณะที่กำไรที่ลดลง QoQ จะเป็นผลจากปัจจัยฤดูกาล

lmpact

SSSG ติดลบในระดับปานกลาง

HMPRO ในมาเลเซีย (~2% ของรายได้รวม) ปิดให้บริการชั่วคราว (18 มีนาคม – 14 เมษายน 2563) เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ในขณะที่สาขาในประเทศไทยก็ปิดตามคำสั่งผู้ว่าราชการกทม. และผู้ว่าฯ ของแต่ละจังหวัด (23 มีนาคม – 30 เมษายน 2563) เราคาดว่าการปิ ดสาขาชั่วคราว และการจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภคที่ชะลอตังลงมาตั้งแต่ต้นปีนี้จะกดดันให้ SSSG ของ HMPRO ติดลบหนักขึ้น ดังนั้น เราจึงคาดว่า SSSG ใน 1Q63 จะติดลบที่ -4.0% โดยไม่มีการเปิ ดสาขาใหม่เลยในไตรมาสแรก และเนื่องจากยอดขายอ่อนแอ เราจึงคาดว่า EBIT margin ก็จะลดลงเหลือ 10.3% ใน 1Q63 จาก 12.1% ใน 1Q62

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2563 ลง 39% และปี 2564 ลง 8% เพื่อสะท้อนสถานการณ์โรคระบาด

ในปัจจุบัน 70% ของสาขาห้าง HMPRO ต้องปิดบริการชั่วคราว (6 สาขาในมาเลเซีย และอีกกว่า 70 สาขาในประเทศไทย) ดังนั้น เพื่อสะท้อนถึงสถานการณ์ปัจจุบัน เราจึงใช้สมมติฐานว่าทุกสาขาจะปิดเป็นเวลาสองเดือน และปรับลดสมมติฐานดังต่อไปนี้ i) ปรับลด SSSG ปี 2563 ลง 2 ppts เหลือ -4.0% ii)
ปรับลด GPM ปีนี้ลง 0.4 ppts เหลือ 25.7% และปี 2564 ลง 0.3 ppts เหลือ 25.9% และ iii) ปรับลด EBIT margin ปี 2563 ลงเหลือ 9.8% และปี 2564 เหลือ 12.1% ซึ่งหลังจากปรับสมมติฐานต่าง ๆ แล้วทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ของเราลดลง 39% และปี 2564 ลดลง 8% ดังนั้น ฐานกำไรปี นี้ของ HMPRO จึงต่ำโดยคาดว่าจะลดลงถึง 39% YoY เราประเมินว่าแต่ละเดือนที่ต้องปิ ดบริการสาขานานขึ้นจะส่งผลกระทบกับกำไรสุทธิของ HMPRO ประมาณ 800 ล้านบาท

Valuation & Action

เราปรับลดราคาเป้าหมาย DCF ปี 2563 ลงเหลือ 14.50 บาทจากเดิมที่ 15.40 บาท โดยใช้ WACC ที่ 8.3%R(f) ที่ 3.1% และ TG ที่ 2.0% ถึงแม้ว่าราคาปิดล่าสุดจะมี upside ถึงราคาเป้าหมายของเราอีกถึง 31.8%แต่เราคิดว่าราคาหุ้น HMPRO ค่อนข้างแพงโดยคิดเป็น PER ที่ 38.4X ในขณะที่ผลประกอบการ 2Q63 ก็จะถูกกดดันจากการปิดห้างชั่วคราว และกำไรใน 3Q63 ก็มักจะต่ำตามปัจจัยฤดูกาล ดังนั้น เราจึงแนะนำให้รอดูสถานการณ์ไปก่อน และคงคำแนะนำ “ถือ”

Risks

เศรษฐกิจชะลอตัวลง เกิด disruption เพราะเทคโนโลยีใหม่ ภาวะโลกร้อน ขยายสาขาได้ช้ากว่าที่คาดไว้