ทางหลวงชนบท ทุ่ม 5 พันล้าน ผุดอุโมงค์ใต้ทะเล

นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่าในปี 2563  ทช.จะศึกษาความเหมาะสมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสุนนแหล่งท่องเที่ยวแถบชายฝั่งทะเลภาคใต้ 2 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 5 พันล้านบาท  คือโครงการก่อสร้างอุโมงค์เชื่อมเกาะลันตา ตำบลเกาะกลาง ตำบลเกาะลันตาน้อย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ วงเงินลงทุน 2 พันล้านบาทอและโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาระหว่างจังหวัดพัทลุงและจังหวัดสงขลา วงเงินลงทุน 3 พันล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาความเหมาะสม 1 ปี หลังจากนั้น ทช.จะเสนอโครงการให้กระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติต่อไป

ในระหว่างนี้ ทช.จะทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) คู่ขนานไปด้วย คาดว่าจะเปิดประมูลงานก่อสร้างทั้ง 2 โครงการพร้อมกันในปี 2565 โดยงานก่อสร้างจะใช้เวลาประมาณ 2 ปีครึ่ง ดังนั้นจึงคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการพร้อมกันได้ทั้ง 2 โครงการในปี 2568

สำหรับการก่อสร้างอุโมงค์ใต้ทะเลเชื่อมเกาะลันตาน้อยไปยังเกาะลันตาใหญ่ ระยะทาง 1 กิโลเมตร (กม.) จะรองรับความต้องการการเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันใช้แพขนานยนต์ สามารถบรรทุกรถได้ประมาณ 60 คันต่อเที่ยว ไม่เพียงพอต่อความต้องการ และใช้เวลาในการเดินทางนานถึง1-2 ชั่วโมง ทำให้รถติดสะสม โดยเฉพาะช่วงฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่เดือน ธ.ค. – พ.ค.ของทุกปี

ทั้งนี้การสร้างอุโมงค์ใต้น้ำจะมีขนาด 2 ช่องจราจร ลึกจากระดับผิวน้ำทะเล 4-5 เมตร ไม่บดบังทัศนียภาพ เป็นไปตามความต้องการของชาวบ้านในพื้นที่ โดยโครงการนี้ ทช.อาจจะเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุน

อย่างไรก็ตาม ทช. จะศึกษาการก่อสร้างในรูปแบบของสะพานคานขึง หรือสะพาน Extradosed Bridge ขนาด2ช่องจราจร  เพิ่มด้วย เนื่องจากมีต้นทุนถูกกว่า แต่มีข้อเสีย คือบดบังทัศนียภาพเป็นปัญหาที่ชาวบ้านกังวลมาก

ส่วนการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา ระหว่างจังหวัดพัทลุงและจังหวัดสงขลาระยะทาง 6 - 7 กม.  ที่ผ่านมาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผลักดันมาโดยตลอด เพื่อเชื่อมต่อการเดินทาง และลดระยะการเดินทางระหว่างจังหวัดได้ 80 กม. 

ทั้งนี้ตัวสะพานเบื้องต้นจะออกเป็นสะพานคานขึง หรือสะพาน Extradosed Bridge มีรูปร่างคล้ายสะพานขึง (Cable-stayed Bridge) มีเสาสะพาน และเคเบิ้ลขึงจากบนเสาสูงไปยังคานสะพาน