ลงต่อ

ลงต่อ

เก็งกำไรที่แนวรับ โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Negative และคาดดัชนีฯ ลงต่อ แนวรับ 1325 / 1310 จุด แนวต้าน 1355 / 1366 จุด ประเด็นที่คาดว่าจะมีผลต่อตลาด ได้แก่ 1) ประธานเฟดส่งสัญญาณพร้อมออกมาตรการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ ช่วยทาให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลดช่วงลบในวันศุกร์ Goldman Sachs คาดว่าเฟดมีโอกาสปรับลดดอกบี้ยถึง 3 ครั้ง ขณะที่ยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ ต่าสุดเป็นประวัติการณ์ 1.17% สะท้อนตลาดคาดเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 50bps ในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค. 2) WHO เตือนการแพร่ระบาดของ COVID-19 สู่ระบาดทั่วโลก โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงระบาดหนักในประเทศนอกจีน โดยเฉพาะเกาหลีใต้ อิตาลี ฯลฯ ส่วนวานนี้ไทย สหรัฐฯ ออสเตรเลีย รายงานพบผู้เสียชีวิตเป็นรายแรก 3) COVID-19 ส่งผลกระทบต่อตัวเลขภาคการผลิตและบริการจีนเดือน ก.พ. ต่าสุดเป็นประวัติการณ์และต่ากว่าคาดการณ์มาก สะท้อน 1Q20E GDP จีน จะหดตัวแรง 4) Ex-Dividend effect มีผลต่อดัชนีฯ วันนี้ -0.18 จุด (หลักๆ มาจาก TU BLAND)

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: ไทย-เงินเฟ้อเดือน ก.พ. คาด 0.9% YoY (Vs เดือน ม.ค. 1.05%) Core Inflation เดือน ก.พ. คาด 0.56% YoY (Vs เดือน ม.ค. 0.47%) จีน-ภาคการผลิตเดือน ก.พ. (Caixin) คาด 45.7 (Vs เดือน ธ.ค. 51.1) ญี่ปุ่น (Jibun Bank) คาด 47.6 (Vs เดือน ธ.ค. 48.8) EU (Markit) คาด 49.1 (Vs เดือน ธ.ค. 47.9) USA (Markit) คาด 50.8 (Vs เดือน ธ.ค. 51.9) USA (ISM) คาด 50.4 (Vs เดือน ธ.ค. 50.9)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันศุกร์

- ตลาดหุ้นไทยกลับมาร่วง: การดิ่งลงแรงของตลาดหุ้นโลก ส่งผลให้ดัชนีฯ ทำจุดต่ำสุดที่ 1337 จุด ในช่วงชั่วโมงแรกของการซื้อขาย ก่อนที่จะแกว่งตัวออกด้านข้างก่อนมาปิดที่ 1340.52 จุด -54.56 จุด -3.91% วอลุ่ม 8.65 หมื่นล้านบาท ทุกกลุ่มอุตฯ ปรับลงนำโดย ไฟแนนซ์ -7.51% ปิโตรฯ -6.66% ชิ้นส่วนอิเล็กฯ -6.52% พลังงาน -5.99%

- ตลาดหุ้นโลกร่วงต่อ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงต่อเป็นวันที่ 7 แต่มีการลดช่วงลบลงหลังจาก ประธานเฟดส่งสัญญาณว่าสหรัฐฯ ยังคงมี strong fundamental และจะใช้เครื่องมือที่มีเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ DJ -1.39% (-12.4% WoW) S&P500 -0.82% (-11.5% WoW) Nasdaq +0.01% (-10.5% WoW) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปร่วงต่อเนื่อง DAX -3.9% (-12.4% WoW) FTSE -3.2% (-11.1% WoW) CAC40 -3.4% (-11.9% WoW) (สรุปเดือน ก.พ. DAX -8.4% MoM CAC40 -8.5% MoM FTSE100 -9.7% MoM และสัปดาห์ที่ผ่านมาร่วง 12.7% WoW ลดลงมากสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2008)

- น้ำมันร่วงเป็นวันที่ 6 และทองคำลงต่อเป็นวันที่ 4: WTI -USD2.33 ปิดต่ำสุดรอบ 14 เดือน ที่ USD44.76/บาร์เรล Brent -USD1.66 ปิดต่ำสุดรอบ 31 เดือน ที่ USD50.52/บาร์เรล วิตกอุปสงค์โลกลดลง และทองคำดิ่ง USD75.80 -4.6% เป็น USD1566.70/ออนซ์ จากแรงขายทำกำไร เพื่อชดเชยผลขาดทุนของตลาดหุ้น

ประเด็นสำคัญ

- Fund Flow: นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6 ชาติในเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) เพิ่มขึ้น -USD7.71bn (สัปดาห์ก่อนหน้าขายสุทธิ -USD1.41bn) ส่วนตลาดหุ้นไทยถูกขายต่อเป็นสัปดาห์ที่ 7 –USD132mn (Vs สัปดาห์ก่อน –USD199mn)

- Coronavirus Update: WHO รายงาน ณ วันที่ 1 มี.ค. พบผู้ติดเชื้อทั่วโลก 87,137ราย (+1739 รายใหม่) ผู้เสียชีวิต 2,977 ราย (+53 รายใหม่) และเพิ่มความเสี่ยงของ COVID-19 เป็นระดับสูงสุด ทั้งในด้านของการกระจายและผลกระทบ

- ไทย: สธ. แจ้งคนไทยติดเชื้อใหม่เพิ่ม 1 ราย เป็น 42 ราย และเสียชิวิตเป็นครั้งแรก 1 ราย โดยรักษาหายแล้ว 28 ราย และรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 13 ราย

- USA Earnings: Goldman Sach ปรับลดเป้าหมายเติบโตผลกำไรบจ. คำนวณในดัชนี S&P 500 เหลือ 0% จากเดิมโต 7% ส่วนกรณีแย่สุด ผลกำไรอาจร่วงลง -13% หากการแพร่ระบาดรุนแรงไปทั่วโลก

- ตัวเลขเศรษฐกิจที่ผ่านมา: จีน-ภาคการผลิตและภาคบริการเดือน ก.พ. ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดย PMI Mfg. Index อยู่ที่ 35.7 (Vs เดือน ม.ค. 50 และคาด 46) PMI Non-Mfg. Index เดือน ก.พ. อยู่ที่ 29.6 (Vs เดือน ม.ค. 54.1 และคาด 47) ไทย-ดุลบัญชีเดินสะพัด เดือน ม.ค. เกินดุล +USD3.44bn (Vs เดือน ธ.ค. +USD4.1bn)

+ ไทย: การเมือง-สภาฯ มีมติโหวตอภิปรายไว้วางใจนายกฯ และ 5 รัฐมนตรี

+ สหรัฐฯ: สหรัฐฯ ลงนามข้อตกลงสันติภาพครั้งประวัติศาสตร์กับกลุ่มตาลีบัน

กลยุทธ์: เก็งกำไรที่แนวรับ โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนารายสัปดาห์: STEC TU TTW

หุ้นโมเมนตัมบวก: MFEC YGG VIBHA THG

หุ้นโมเมนตัมลบ: BAM EA GULF BEAUTY BFIT CRC PTTEP GPSC HANA JMART SYNTEC ANAN

Derivatives: รอเปิด Long หรือ Short S50H20 เก็งกาไร หลัง 10:30น. ตามเงื่อนไขที่ให้ (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)