BDMS - ซื้อ

BDMS - ซื้อ

ประมาณการ 4Q62: กำไรแข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ YoY

Event

ประมาณการ 4Q62 และแนวโน้มระยะต่อไป

lmpact

คาดว่าผลประกอบการ 4Q62 จะแข็งแกร่ง

เราคาดว่า กำไรสุทธิของ BDMS ใน 4Q62 จะอยู่ที่ 2.23 พันล้านบาท (+65.4% YoY, -22.7% QoQ) คิดเป็น 14% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2562 ของเราที่ 1.602 หมื่นล้านบาท ในขณะที่กำไรจากธุรกิจหลักใน 4Q62F จะคิดเป็น 22.5% ของประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักปี 2562 ที่ 9.92 พันล้านบาท ทั้งนี้กำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง YoY เป็นเพราะมีการบันทึกค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รอตัดบัญชี (deferred tax) 727 ล้านบาทที่เกิดจากการขายหุ้น Ramkhamhaeng Hospital Plc (RAM.BK/RAM TB) ใน 4Q61 ซึ่งต้องบันทึกตามมาตรฐานบัญชีไทยฉบับที่ 12 ก่อนที่จะรับรู้กำไรจากการขายหุ้นใน 1Q62 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q62 จะลดลง QoQ จากผลของปัจจัยฤดูกาล เราคาดว่ารายได้ใน 4Q62 จะอยู่ที่ 2.04 หมื่นล้านบาท (+8.0% YoY, -5.8% QoQ) ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ BDMS ใน 4Q62 จะอยู่ที่ 35.0% ลดลงจาก 35.4% ใน 4Q61 แต่เพิ่มขึ้น core gross margin (หักรายการ deferred tax ออกไป) จาก 29.6% ใน 4Q61 นอกจากนี้ เราคาดว่าค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะลดลง YoY เหลือประมาณ 200 ล้านบาท (-31.8% YoY และ +15.7% QoQ) รวมทั้งคาดว่าสัดส่วน 70% เป็นผู้ป่ วยชาวไทย ขณะที่อีก 30% เป็นผู้ป่วยต่างชาติ

คาดว่าผลประกอบการใน 1Q63 จะชะลอตัวลงทั้ง YoY และ QoQ

สำหรับแนวโน้มใน 1Q63 เราคิดว่าผลประกอบการของ BDMS จะชะลอตัวลง YoY จากการระบาดของ coronavirus โดยคาดว่ารายได้จากผู้ป่ วยต่างชาติที่เดินทางจากต่างประเทศมาใช้บริการของโรงพยาบาลซึ่งคิดเป็นประมาณ 15% ของรายได้จากโรงพยาบาลรวมจะถูกกระทบจากความกังวลเรื่องการระบาด
ของโคโรน่าไวรัส ส่วนรายได้จากผู้ป่ วยต่างชาติที่โรงพยาบาลในประเทศไทย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15% จะไม่ถูกกระทบจากความกังวลในประเด็นนี้ ดังนั้น เราจึงคาดว่าผลประกอบการจึงน่าจะถูกกระทบเพียงในระยะสั้นเท่านั้น

อาจจะปรับลดประมาณการกำไรปี FY63F ลง

เรายังคงประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักปี 2562F เอาไว้ที่ 9.9 พันล้านบาท (ทรงตัว YoY) และปี 2563F ที่ 1.06 หมื่นล้านบาท (+6.6% YoY) อย่างไรก็ตาม เราคิดว่ายังมีความเสี่ยงด้าน downside ประมาณ 3.0-4.5% ในปี 2563 หากจำนวนผู้ป่ วยต่างชาติที่เดินทางมาลดลง 10-15% และ margin ลดลง 1% จากเดิม

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2563 ที่ 31.00 บาท (คำนวณโดยวิธี DCF ใช้ WACC ที่ 7.5% และ TG ที่ 2.0%) จากเดิมที่ 30.30 บาท (อิงกลางปี 2563)

Risks

การแทรกแซงของรัฐบาล ปัญหาเสถียภาพทางการเมืองของไทย และเกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่