พักตัว..รอปัจจัยใหม่

พักตัว..รอปัจจัยใหม่

คาด SET แกว่งตัว 1,620 - 1,630 จุด โดยคาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อติดตามความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ปรับตัวขึ้น +4.08 จุด (+0.25%) ปิดที่ระดับ 1,626 จุด ด้วย Volume 4.5 หมื่นล้านบาท โดยเป็นแรงซื้อ Technical rebound หลังจากทรุดตัวลงแรงเมื่อวันก่อนรวมถึงได้ Sentiment บวกจากทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ดีดตัวขึ้นตามความคาดหวังความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ทั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นแรงซื้อในกลุ่ม ICT BANK และ PETRO ส่วนนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,036 ล้านบาท รวมถึง Net Long TFEX จำนวน 8,910 สัญญา แต่ขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,181 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET แกว่งตัว 1,620 - 1,630 จุด โดยคาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อติดตามความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน หลังวานนี้ปธน.ทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐและจีนใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกแต่ไม่ได้ระบุถึงการยกเลิกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนส่งผลให้การเจรจายังมีความไม่แน่นอน อีกทั้งประเด็นสหรัฐจะเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าจาก EU ยังเป็นความกังวลด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ความผันผวนของหุ้นรายตัวจากการประกาศงบ 3Q19 ที่เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายจะส่งผลให้ดัชนีแกว่งตัว อย่างไรก็ตามทิศทาง Fund Flow ต่างชาติที่กลับมาเป็น Net Buy ต่อเนื่อง 2 วันราว 3 พันลบ.จะช่วยหนุนต่อ sentiment ตลาดให้ดีดตัวขึ้นได้

** วันนี้ติดตามการประกาศงบ 3Q19 ของ GULF, BGRIM, CPF, JMT, JMART, SAWAD   

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • MSCI rebalance มีผล 26 พ.ย. : Global Standard เพิ่ม BGRIM, GPSC, OSP, SAWAD 

                Small Cap CENTEL, DOHOME, JMT, SPRC, STPI, TPIPP, TQM

  • หุ้นที่คาดว่างบ 3Q19 จะเติบโตขึ้น BGRIM, CHG, EPG, PRM, JMT, WORK, MINT ,SAWAD
  • Defensive stock AOT, INTUCH, ADVANC, BEM, BTS, BDMS, BCH, CHG, GPSC, TTW, CPALL

หุ้นแนะนำวันนี้

  • ADVANC (ปิด 233 ซื้อ เป้า 260 บาท) ปลอดภัยจาก Trade war, มีมุมมองเป็นบวกจากการเปิดประมูลคลื่น 5G ของภาครัฐซึ่งมีกฏเกณฑ์ที่ผ่อนคลายมากกว่าเมื่อเทียบกับประมูลคลื่น 4G อาทิ ราคาประมูลตั้งต้นที่ลดลง, Term การจ่ายเงินที่ผ่อนคลาย ทำให้ไม่กระทบ Cash flow ของผู้ประกอบการรวมถึงการจ่ายปันผลเรายังเลือก ADVANC เป็น Top pick ของกลุ่ม
  • SABINA (ปิด 26.25 ซื้อเก็งกำไร/เป้า IAA Consensus 36.8 บาท )  แจ้งงบ 3Q19 ไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดกังวล โดยมีกำไรสุทธิ 117 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%qoq และ 6%yoy ยอดขายทรงตัวแต่บริหารต้นทุนทำได้ดีส่งผลให้ GPM ยังทรงตัวในระดับสูงที่ระดับ 54% ขณะเดียวกัน SABINA ยังเป็นแบรนด์อันดับ 1 ที่ทำยอดขายสูงสุดในกลุ่มสินค้าแฟชั่น ของ LAZADA ผ่านแคมเปญ 11.11

บทวิเคราะห์วันนี้

AP (ปิด 6.75 ถือ/เป้า 7.6), CENTEL (ปิด 25.5/อยู่ระหว่างทบทวนราคาเป้าหมายและคำแนะนำ), ERW (ปิด 5.8/อยู่ระหว่างทบทวนราคาเป้าหมายและคำแนะนำ), MINT (ปิด 37.25 ซื้อ/เป้า 47), PSH (ปิด 15.6 ปรับลดเป็นถือ/เป้าใหม่ 17 เดิม 23.2), PTT (ปิด 45.25 ถือ/เป้าใหม่ 47 เดิม 48), WORK (ปิด 20.2 ปรับลดเป็นถือ/เป้าใหม่ 20 เดิม 35)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+/-) ทรัมป์ ยังมองบวก คาดสหรัฐและจีนใกล้บรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกแล้ว พร้อมกล่าวเรียกร้องเฟด ลดดอกเบี้ย: ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม Economic Club of New York โดย ทรัมป์ ยังพูดในโทนบวกว่า การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐใกล้บรรลุข้อตกลงการค้าในเฟสที่ 1 แล้ว อย่างไรก็ตามโดนัล ทรัมป์ ไม่ได้ลงรายละเอียดของข้อตกลงและไม่ได้กำหนดเวลาที่ชัดเจนสำหรับลงนาม ส่งผลให้ตลาดตอบรับในโทนเป็นกลางหรือแทบไม่เปลี่ยนแปลงทั้งในฝั่งของตลาดหุ้น และ ตลาดน้ำมัน นอกจากนี้โดนัล ทรัมป์ ยังกล่าวเรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหรืออาจต้องใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับภาคเศรษฐกิจของสหรัฐ
  • (+) กลุ่มค้าปลีก และท่องเที่ยว - ครม.อนุมัติมาตรการ ชิมช้อปใช้ เฟส 3 ให้สิทธิ์ประชาชนลงทะเบียนเพิ่มอีก 2 ล้านราย ใช้สิทธิ์ Cash back ได้ในทุกจังหวัด: วานนี้ที่ประชุม ครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม อาทิ มาตรการชิมช้อปใช้ เฟส 3 มาตรการนี้จะต่างจาก 2 เฟสแรก เพราะจะมุ่งให้ประชาชนออกไปใช้สอย โดยใช้เงินของตัวเอง (กระเป๋า 2) ไม่มีการให้เงิน 1,000 บาท โดยจะให้สิทธิประชาชนลงทะเบียนเพิ่มอีก 2 ล้านราย เริ่ม 14 พ.ย.2562 นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงเงื่อนไขซึ่งเดิมให้ใช้เฉพาะในจังหวัดที่ลงทะเบียนแต่มาตรการรอบนี้จะสามารถใช้ได้ในทุกจังหวัด โดยมีอายุมาตรการทั้ง 3 เฟส ไปจนถึง 31 ม.ค.2563 เรามองว่ามาตรการกระตุ้นให้ประชาชนใช้จ่ายมากขึ้นด้วยการให้สิทธิ์ Cash back จะส่งผลบวกต่อระบบเศรษฐกิจไม่มาก เนื่องจากมองว่าประชาชนส่วนใหญ่มีกำลังซื้อต่ำอยู่แล้วทำให้มาตรการนี้ไม่เพียงพอที่จะดึงให้ประชาชนออกไปใช้จ่าย
  • (+) กลุ่มสื่อสาร - 5G ยังเป็นไปตาม Road map ล่าสุด กสทช.มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์การประมูลแล้ว: วานนี้ที่ประชุม กสทช.มีมติเห็นชอบในหลักเกณฑ์หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่าน 700 MHz, 1800 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz เพื่อใช้สำหรับการประมูลคลื่น 5G แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นไปตาม Road map ที่ทางกสทช.เคยประกาศไว้ในช่วงก่อนหน้า โดยขั้นตอนถัดไปจะเข้าสู่ช่วงของการจัดทำประชาพิจารณ์ (13 พ.ย.-12 ธ.ค.62) จากนั้นจะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 27 ธ.ค. 62 และเปิดประมูลจริงในวันที่ 16 ก.พ.63 เรายังมองภาพเป็นบวกต่อการประมูล 5G ในครั้งนี้ จาก1)ภาครัฐกำหนดราคาประมูลตั้งต้นลดลงหรือไม่ได้แพงเมื่อเทียบกับประมูล 4G และ 2) Term การชำระเงินค่อนข้างผ่อนคลาย โดยกำหนดให้จ่ายค่าไลเซนต์เพียง 10% ในปีที่ 1 และให้พักชำระค่าใบอนุญาติในปีที่ 2-4 จากนั้นกลับมาชำระในอัตรา 15% ในงวดที่ 5-10 ซึ่งจะทำให้ต้นทุนและ Cash flow ของผู้ประกอบการไม่ตึงตัวมากเกินไปส่งผลดีต่อการให้บริการและผลประกอบการในระยะยาว Top pick ADVANC และ DTAC