‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ที่ 32.83 บาทต่อดอลลาร์

‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ที่ 32.83 บาทต่อดอลลาร์

นักลงทุนทั่วโลกยังปิดรับความเสี่ยง ลุ้นธปท.ขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้ หนุนบาทแข็งค่าต่อได้

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.83 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจาก 32.90 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงสิ้นวันทำการก่อน

ส่วนของตลาดการเงินในสัปดาห์นี้ทั้งค่าเงินเอเชีย ราคาน้ำมัน และหุ้นจะได้รับแรงหนุนจากการยุติสงครามการค้าชั่วคราว 90 วันระหว่างสหรัฐและจีน มองว่าการลงทุนฝั่งสหรัฐน่าจะได้รับแรงหนุนมากที่สุดในระยะสั้น เพราะมุมมองระยะยาวยังไม่ปลอดภัย นักลงทุนทั่วโลกจึงยังไม่เปิดรับความเสี่ยงเต็มที่ การดีดตัวกลับของตลาด อาจเกิดขึ้นในกลุ่มที่ปรับตัวลงแรงในช่วงก่อนหน้านี้ก่อน และรอดูตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐเพื่อยืนยันทิศทางเศรษฐกิจต่อไป

ในส่วนของค่าเงินบาทก็คงรับแรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เงินบาทจะไม่ใช่สกุลเงินที่ได้รับแรงบวกมากนักเนื่องจากราคาน้ำมันก็ฟื้นตัวขึ้นด้วย สิ่งที่ต้องจับตาต่อคือ ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานในไทย ถ้าเห็นสัญญาณการฟื้นตัวต่อ น่าจะสนับสนุนให้ตลาดมั่นใจมากขึ้นว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะขึ้นดอกเบี้ยได้แน่ในเดือนนี้ และจะหนุนให้เงินบาทแข็งค่าได้อีก

มองกรอบเงินบาทระหว่างวัน 33.80-32.90 บาทต่อดอลลาร์และกรอบเงินบาทในสัปดาห์ 32.60-33.10 บาทต่อดอลลาร์ 

ในสัปดาห์นี้แนะนำจับตาไปที่ตัวเลขเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐทั้งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและสถานการณ์ตลาดแรงงานโดยในวันจันทร์ รายงานตัวเลขผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหรัฐ (ISM Manufacturing PMI) คาดว่าจะยังอยู่ที่ระดับ 57.5จุด สะท้อนภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐที่ชะลอตัวไม่มากแม้จะมีความกังวลเรื่องการค้าระหว่างประเทศ

ขณะที่ฝั่งไทย ตลาดมองว่าตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือนพฤศจิกายนที่จะมีการรายงานในวันนี้ มีโอกาสอ่อนค่าลงมาที่ระดับ 1.02% จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานยังอยู่ที่ระดับ 0.75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

วันศุกร์ การจ้างงานนอกภาคการเกษตรในสหรัฐ (US Nonfarm Payrolls) คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.85 แสนตำแหน่ง ชะลอตัวลงจากค่าเฉลี่ยหกเดือนที่ระดับ 2.16 แสนตำแหน่งจากผลกระทบของนโยบายการเงินที่เข้มงวด อย่างไรก็ตาม การจ้างงานระดับดังกล่าวเพียงพอที่จะหนุนให้ตัวเลขการว่างงานทรงตัวอยู่ได้ที่ระดับ 3.7% และมองว่าค่าจ้างเฉลี่ยรายสัปดาห์จะปรับตัวขึ้นได้ต่อที่ 0.3% ในเดือนพฤศจิกายน ย้ำภาพตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งหนุนเศรษฐกิจ

นักบริหารเงินธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า ตลาดมีแนวโน้มที่จะกล้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังสหรัฐฯและจีนสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าได้ ส่งผลให้สหรัฐฯจะยังไม่เพิ่มกำแพงภาษีกับสินค้าจีนในปีหน้า และจีนจะนำเข้าสินค้า อาทิ ถั่วเหลือง จากสหรัฐฯเพิ่มขึ้น  อย่างไรก็ดี ข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้ยุติสงครามการค้าอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นนักลงทุนและผู้ประกอบการจึงควรติดตามความคืบหน้าของการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯอย่างใกล้ชิด  

มองเงินบาทมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้น และแกว่งตัวในกรอบ 32.60-33.00 บาทต่อดอลลาร์  ได้สัปดาห์หน้า หลังตลาดเริ่มกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินเอเชียมีแนวโน้มกลับมาแข็งค่าขึ้นได้  อนึ่งตลาดอาจจะกลับมาผันผวนมากขึ้นหากตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาแย่กว่าคาด  

สำหรับวันนี้มองเงินบาทมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในช่วงกรอบ 32.75-32.90บาทต่อดอลลาร์