วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (18 ก.ค.61)

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (18 ก.ค.61)

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังอุปทานมีแนวโน้มตึงตัว

+ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ในเวเนซุเอลา 2 ราย ประกาศการปิดซ่อมบำรุงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังเลื่อนการปิดซ่อมบำรุงมาจากเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยทั้ง 2 รายมีกำลังการผลิตรวมราว 700,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นการผลิตน้ำมันดิบชนิดหนักเพื่อการส่งออกเป็นหลัก

+ ลิเบียประกาศหยุดการส่งออกน้ำมันดิบด้วยเหตุสุดวิสัย (force majeure) ของท่าเทียบเรือ Zawiya หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่ง Sharara ลดลงเหลือเพียง 125,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเพียงพอสำหรับโรงกลั่น Zawiya เท่านั้น

-/+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 13 ก.ค. ปรับเพิ่มขึ้นราว 629,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง ในขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ณ จุดส่งมอบ คุชชิ่ง โอกลาโฮม่าปรับลดลงราว 1.3 ล้านบาร์เรล

+ จีนยังคงมั่นใจว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศในปี 2561 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ร้อยละ 6.5 ถึงแม้ตัวเลขเศรษฐกิจประจำไตรมาส 2 จะเติบโตช้าลงจากไตรมาส 1 ก็ตาม โดยย้ำถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ประกอบกับนโยบายภาครัฐด้านการลงทุนยังขยายตัวต่อเนื่อง

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจีนมีแนวโน้มส่งออกน้ำมันเบนซินมากขึ้น ในขณะที่อุปสงค์ยังคงอยู่ในระดับต่ำ

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับอุปสงค์ที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

         ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 66-71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

         ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 70-75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  • แรงกดดันในสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ได้เพิ่มความรุนแรงมากขึ้นและมีแนวโน้มส่งผลกดดันต่อเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน หลังนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรวมมูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ในอัตราร้อยละ 10 ซึ่งคาดจะมีผลบังคับใช้ปลายเดือนสิงหาคมนี้ ล่าสุดทางจีนออกมาตอบโต้ว่าจะเตรียมออกมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ ในเร็วนี้
  • ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียคาดจะปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากท่าเรือส่งออกน้ำมันดิบ Zueitina และ Hariga ได้กลับมาทำการปกติอีกครั้ง หลังได้มีการประกาศเหตุสุดวิสัยในวันที่ 14 มิ.ย. 61  อย่างไรก็ตาม ท่าเรือส่งออกน้ำมัน Ras Lanuf และ Es Sider ได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก จึงต้องมีปิดซ่อมบำรุงไปอีกระยะหนึ่ง
  • ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดจะปรับลดลงต่อเนื่อง หลังความต้องการใช้น้ำมันของสหรัฐฯ อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง รวมถึงปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบจากแคนาดาที่มีทิศทางปรับลดลง

-----------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)          

         โทร.02-797-2999