WHA - ซื้อ

ราคาต่ำมูลค่าสินทรัพย์...น่าเข้าซื้อ
ประเด็นการลงทุน
เรากลับมาวิเคราะห์หุ้น WHA อีกครั้ง โดยจุดเด่นของบริษัทมาจากที่ดินที่บริษัทถืออยู่ จากการคาดการณ์ในเชิงอนุรักษ์นิยมมูลค่าตลาดสำหรับที่ดินของ WHA ขนาด 8,800 ไร่ (โดยที่มูลค่าสินทรัพย์อื่นๆคงที่) ตัวเลขมูลค่าทรัพย์สินสุทธิจะอยู่ที่ 54,387 ล้านบาท หรือ 3.80 บาทต่อหุ้น ในขณะที่ราคาปิดเมื่อวานนี้อยู่ที่เพียง 3.18 บาท นอกจากนี้ราคาหุ้น WHA เมื่อเทียบกับค่า PBV ระยะยาวยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์น่าสนใจ ซึ่งเราเชื่อว่าตลาดยังไม่สะท้อนปัจจัยต้นทุนทางการเงินที่ปรับตัวลดลง การฟื้นตัวของการโอนย้ายที่ดินที่ดีขึ้นในปีนี้ กำไรของ WHAUP ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หรือแนวโน้มอัพไซด์ต่อยอดขายที่ดินและการปล่อยเช่า (และมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ) จากนโยบายโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของรัฐบาล ดังนั้นคำแนะนำของเรา คือ ซื้อ!
ยอดจองซื้อที่ดินขนาดใหญ่...ยอดการโอนปีนี้น่าจะพุ่งขึ้นอย่างมีนัยยะ
ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมมีการโอนแค่ราว 500 กว่าไร่ ในปีที่ 2559 เทียบกับยอดจองซื้อที่ดินขนาด 834 ไร่ (และ 1,043 ไร่ ในปี 2558) เรามองว่ายอดการโอนมีโอกาสแตะ 1,100 ไร่ในปี 2560 (ประมาณ 2 เท่าจากปีที่แล้ว) นอกจากนั้นเรามองการเติบโตของอุปสงค์จะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หนุนราคาขายปรับตัวสูงขึ้นตาม ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจมีแนวโน้มขยายตัว
กำลังการผลิตที่ขยายตัวจาก WHAUP ต่อยอดกำไรให้ WHA
จากการออก IPO WHA ยังคงเป็นผู้ถือหุ้น 70% ในบริษัท WHA Utilities & Power Plc โดย WHAUP มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตโรงไฟฟ้า SPP ในช่วงระหว่างปีนี้ถึงปี 2561 ซึ่งจะหนุนกำลังการผลิตบริษัทขึ้น 54% นอกจากนี้โรงไฟฟ้าใหม่ที่เข้ามาจะช่วยหนุนยอดขายไอน้ำและน้ำประปาเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ต้นทุนทางการเงินที่ลดลง = กำไรที่เพิ่มขึ้น
การออก IPO ของ WHAUP ทำให้ WHA สามารถนำเงินไปชำระหนี้สินจากการซื้อ HEMRAJ ในปี 2558 โดยบริษัทวางแผนที่จะรีไฟแนนซ์สินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยที่สูง ด้วยพันธบัตรมีอัตราดอกเบี้ยต่ำ หากเป็นเช่นนั้นต้นทุนทางการเงินจะปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิขยายตัวมากขึ้น เราคาดการณ์ว่ากำ ไรสุทธิในปี 2560 จะอยู่ที่ 3,187 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% YoY จากเดิมอยู่ที่ 2,898 ล้านบาท อัพไซด์ต่อประมาณการของเราจะมาจากการที่บริษัทสามารถทำยอดเช่าโกดังตามเป้าที่ตั้งไว้
แนวโน้มอัพไซด์จากยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 และ โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)
โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ( จ.ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, ระยอง) เป็นศูนย์กลางของรัฐบาลในการยกระดับพื้นที่เขตเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยที่ดินอุตสาหกรรมส่วนมากรวมทั้งโกดังของ WHA อยู่ในพื้นเขต EEC อยู่แล้ว (มากกว่า 85%) ยิ่งไปกว่านั้น ฐานลูกค้าก็อยู่ในอุตสาหกรรมที่รัฐบาลส่งเสริมเพื่อการยกระดับเศรษฐกิจในประเทศเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ความสำเร็จของยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 คาดว่าจะเป็นอัพไซด์ต่อประมาณการระยะยาว ของเราและมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ WHA อีกด้วย (เนื่องจากมูลค่าที่ดินใน EEC จะปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว)







