‘ศรีสวัสดิ์’ หวัง5ปีลูกค้า 3 ล้านราย

“ศรีสวัสดิ์” วางเป้า 3-5 ปี ดันสินเชื่อ-เงินฝากโต 20-30% กวาดลูกค้าแตะ 2-3 ล้านราย พร้อมขายธุรกิจไปยัง “ซีแอลเอ็มวี” เพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเป็น 15-20% เผยครึ่งปีหลังรุกธุรกิจเต็มสูง เล็งออกหุ้นกู้อีก 2-4 พันล้าน ใช้ขยายกิจการ

การปรับโครงสร้างธุรกิจของ บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) ซึ่งภายหลังเปลี่ยนสถานะมาเป็น บริษัทโฮลดิ้ง โดยใช้ชื่อ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หลังจากรวมกับ บริษัทเงินทุน (บง.) กรุงเทพธนาทร จำกัด (มหาชน) หรือ “บีฟิท” ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น บง.ศรีสวัสดิ์ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างขออนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อจัดตั้งกลุ่มธุรกิจการเงินเป็นสถาบันการเงินทางเลือกใหม่ ที่ให้เงินกู้แก่คนในชุมชนที่ต้องการใช้เงินด่วน ภายใต้การกำกับของธปท.

นางสาวธิดา แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนดำเนินงานธุรกิจในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาให้ครบ 3,500 สาขาทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่มีสาขาอยู่ที่ 2,300 สาขา และคาดว่าจะมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอยู่ที่ 2-3 ล้านราย จากปัจจุบันบริษัทมีลูกค้า Active รวมอยู่ทั้งสิ้น 400,000 ราย

อย่างไรก็ตาม ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ประมาณ 20-30% ต่อปี จากปีก่อนที่มีการปล่อยสินเชื่อใหม่เติบโต 50% หรือ 18,000 ล้านบาท โดยยังคงนโยบายปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวังไว้ก่อน และคาดว่ายังมีโอกาสเติบโตได้เช่นเดียวกับปีก่อน อีกทั้งคุณภาพหนี้ยังดีปัจจุบันอยู่ที่ 3% และทั้งปีนี้จะคุมไว้ไม่เกินระดับนี้

“ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวและธนาคารพาณิชย์ยังเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อจากหนี้เสียที่ยังเพิ่มขึ้น ทำให้ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาและแนวโน้มครึ่งปีหลัง เรายังเห็นความต้องการใช้เงินเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเจ้าของกิจการขนาดกลางถึงเล็ก ที่ต้องการใช้เงินเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง"

ส่วนทางด้านบริการเงินฝาก ทาง บง.ศรีสวัสดิ์ จะนำเสนอรูปแบบของตั๋วเงินฝาก โดยจะดำเนินการที่สำนักงานของ บง.ศรีสวัสดิ์ ที่ถนนสาทร เท่านั้น ล่าสุด ขณะนี้อยู่ระหว่างของ ธปท. อนุมัติออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบเงินฝากระยะยาว ดอกเบี้ยเงินฝากมากกว่า 1 ปีขึ้น โดยตั๋วเงินฝาก ที่ให้ดอกเบี้ยเงินฝากน่าสนใจมากกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ เจาะกลุ่มคนมีเงินรายได้ระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป

อย่างไรก็ดีภายในสิ้นปีนี้คาดว่า จะมียอดเงินฝากเติบโตในระดับเดียวกับสินเชื่อที่คาดว่าปีนี้จะเติบโต 20-30% จากปัจจุบันมีเงินฝากทั้งสิ้น 2,000-3,000 ล้านบาท โดยมีดอกเบี้ยเงินฝาก 6 เดือน เฉลี่ยขั้นต่ำ 1.45% สำหรับบุคคลธรรมดาและ 1.35% สำหรับนิติบุคคล รวมถึงถ้าเงินฝากระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป ดอกเบี้ยเฉลี่ยขั้นต่ำ 1.55% สำหรับบุคคลธรรมดาและ 1.45% สำหรับนิติบุคคล ขณะที่ดอกเบี้ย 16-18 เดือนเฉลี่ยขั้นต่ำ 1.70%

นอกจากนี้ มีแผนขยายตลาดต่างประเทศในกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในอีก 3-5 ปีข้างหน้า เป็น 15-20% จากปัจจุบันอยู่ที่ 1%

สำหรับการขยายธุรกิจปีนี้ บริษัทได้เตรียมแผนการออกหุ้นกู้ โดยได้ขออนุมัติวงเงินทั้งปีนี้ไว้ประมาณ 10,000 กว่าล้านบาทนั้น โดยในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้เพื่อรองรับการขยาย กิจการวงเงินประมาณ 2,000-4,000 ล้านบาท อายุเฉลี่ยหุ้นกู้ 2-4 ปี

ส่วนทางด้านแผนการซื้อพอร์ตหนี้จากธนาคารพาณิชย์มาบริหารนั้น ในปีนี้บริษัทได้เตรียมวงเงินประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท กำลังอยู่ระหว่างศึกษาและเข้าประมูลซื้อพอร์ตสินเชื่อบัตรเครดิตมาบริหารเพิ่มเติม น่าจะทำกำไรดี จากปกติเป็นการซื้อพอร์ตสินเชื่อที่มีหลักประกันที่เป็นบ้านและที่ดิน