ADVANC - ถือ

ADVANC - ถือ

รายได้บริการเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง

ประเด็นการลงทุน

ถึงแม้ว่ากำไรไตรมาส 1/60 ออกมาสูงกว่าที่เราคาดก่อนหน้าเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาด (โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการตลาด) แต่เราเห็นปัจจัยลบในแง่ของรายได้ในไตรมาส 1/60 ซึ่งได้แก่ รายได้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ต่ำกว่าคาด (ซึ่งเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง YoY) การพลิกกลับไปเป็นจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิที่ติดลบ การ
ลดลงของส่วนแบ่งตลาดของทั้งรายได้บริการและจำนวนผู้ใช้บริการ และ จำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิของธุรกิจบรอดแบนด์ประจำที่ซึ่งชะลอตัวลง ถึงแม้ว่าบริษัทจะเปลี่ยนกลยุทธ์โดยหันมาเน้นทำตลาดลูกค้าโพสต์เพด (จากก่อนหน้าที่มุ่งไปยังลูกค้าพรีเพด) แต่เรายังคงไม่แน่ใจว่า ADVANC จะสามารถดึงกลับส่วนแบ่งรายได้บริการโพสต์เพดกลับมาได้ในระยะสั้นจนถึงระยะกลางหรือไม่ เนื่องจากการแข่งขันลูกค้าโพสต์เพดที่จะ กลับมารุนแรงมากขึ้น เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” เพื่อรอรับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 4%

สรุปผลประกอบการไตรมาส 1/60 — กำไรสูงกว่าคาด

ADVANC รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/60 ที่ 7.69 พันล้านบาท ลดลง 5% YoY แต่เพิ่มขึ้น 19% QoQ ถ้าไม่รวมรายการพิเศษในไตรมาส 1/60 ได้แก่ กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 150 ล้านบาท และผลประโยชน์ทางภาษีจากสินทรัพย์ถาวรบางรายการ 209 ล้านบาท กำไรหลักไตรมาสนี้อยู่ที่ 7.33 พันล้านบาท ลดลง 18% YoY แต่เพิ่มขึ้น 30% QoQ กำไรสุทธิและกำไรหลักสูงกว่าคาด 22% และ 20% ตามลำดับส่วนใหญ่เนื่องจากต้นทุนอุดหนุนค่าเครื่องโทรศัพท์ที่ลดลงต่ำกว่าคาด (ภายใต้ค่าใช้จ่ายด้านการตลาด) แต่ถึงแม้ว่ากำไรไตรมาส 1/60 ออกมาดีกว่าที่คาดก่อนหน้า และต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลงมากกว่าที่คาดก่อนหน้า แต่เรามองว่ามีปัจจัยลบด้านรายได้ในไตรมาสนี้ รายได้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงเหลือ 2.6% YoY ในไตรมาส 1/60 เทียบกับที่เติบโต 4.7% ในไตรมาส 4/59 ในขณะที่จำนวนลูกค้ารายใหม่สุทธิกลับมาติดลบ (ติดลบ 3.83 แสนรายในไตรมาส 1/60 จากบวก 1.16 ล้านรายในไตรมาส 4/59) เนื่องมาจากการมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าโพสต์เพดที่มีคุณภาพและการใช้แคมเปญโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเลือกเฉพาะกลุ่มลูกค้า (ดูรายละเอียดได้ในหน้าที่ 4)

เป้าผลการดำเนินงานปี 2560 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

บริษัทยังคงเป้าอัตราการเติบโตของรายได้บริการในปี 2560 (ที่ไม่รวมไอซี) ที่ 4-5% YoY ซึ่งจะมุ่งเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าโพสต์เพดที่มีคุณภาพ โดยใช้แคมเปญอุดหนุนค่าเครื่อโทรศัพท์และกลยุทธ์ด้านราคาแบบเฉพาะเจาะจงลูกค้า ในขณะที่แคมเปญการทำตลาดและการให้เงินอุดหนุนค่าเครื่องโทรศัพท์สำ หรับลูกค้าระบบพรีเพดได้ปรับตัวลดลง และ
ท่ามกลางภาวะการแข่งขันที่ยังคงมีอยู่และรุนแรงต่อไป แพ็กเกจการใช้บริการข้อมูลอย่างไม่จำกัดได้ถูกนำมาใช้เพื่อดึงกลุ่มลูกค้าที่มีมูลค่าการใช้งานสูง รวมถึงให้ลูกค้าทำการโอนย้ายจากระบบพรีเพดมาเป็นระบบโพสต์เพดมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้รายได้รวมเฉลี่ยต่อรายให้เพิ่มสูงขึ้น เป้าหมายหลักของธุรกิจบรอดแบนด์ประจำที่ได้แก่ การหันมาเน้นลูกค้าที่มีคุณภาพ
มากขึ้นและการให้ส่วนลดการขายที่น้อยลงเนื่องจากแบรนด์ที่ให้บริการเป็นที่รู้จักมากขึ้น เป้าอัตราส่วนของ EBITDA มาร์จิ้นยังคงไว้เท่าเดิมที่ 42-44% ในปี 2560 (เพิ่มขึ้นจาก 39.9% ในปี 2559) และงบลงทุนที่ 4-4.5 หมื่นล้านบาทในปี 2560 (จาก 4.8 หมื่นล้านบาทในปี 2559)


ปรับกำไรปี 2560 เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง

เนื่องจากการเริ่มนำเอาแผนการลดต้นทุนการดำเนินงานมาใช้ และการลดลงของเงินอุดหนุนค่าเครื่องโทรศัพท์ ส่งผลให้เราคาดว่าโครงสร้างต้นทุนโดยรวมมีแนวโน้มลดลงไปอีกในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้า ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากต้นทุนคอนเท้นต์ที่เพิ่งจะซื้อมาเมื่อเร็วๆ นี้ และความผันผวนที่เป็นไปได้ของค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่อาจจะกลับมาเพิ่มสูงขึ้น (ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสภาพการแข่งขันเป็นสำคัญ) ดังนั้นเราจึงทำการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2560 เพิ่มขึ้นอีก 5% (มาอยู่ที่ 2.98 หมื่นล้านบาท) เพื่อสะท้อนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง (โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านโครงข่ายและค่าใช้จ่ายด้านการบริหารงานทั่วไป) ซึ่งส่งผลให้ราคาเป้าหมายของเราเพิ่มขึ้นอีก 6% (ไปอยู่ที่ 167 บาท) ถึงแม้ว่า ADVANC จะยังคงเป้าหมายส่วนแบ่งรายได้บริการที่อย่างน้อย 50% แต่เราเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับ ADVANC เราประเมินว่ายังคงมีความเสี่ยงที่ การมุ่งเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าโพสต์เพดที่มีคุณภาพระดับบนและให้มาร์จิ้นในระดับสูง อาจจะส่งผลให้อัตราการออกจากระบบของลูกค้าโดยภาพรวมปรับตัวสูงขึ้น และนำไปสู่การสูญเสียส่วนแบ่งรายได้บริการในระยะสั้นจนถึงระยะกลาง เรายังคงใช้สมมติฐานว่าบริษัทจะไม่ทำการปรับอัตราการจ่ายเงินปันผลให้มากไปกว่า 70% ก่อนที่จะมีการเปิดประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ใหม่ของกสทช.ในปี
2561