ลุ้น“กลุ่มอสังหา”กำไรฟื้นครึ่งปีหลัง

ลุ้น“กลุ่มอสังหา”กำไรฟื้นครึ่งปีหลัง

ผู้ประกอบการอสังหาฯ หวังกำลังซื้อฟื้นครึ่งปีหลัง หนุนกำไร เหตุแบงก์ผ่อนคลายการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ORI กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2560 เชื่อว่าจะฟื้นตัวขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากความต้องกับจำนวนคอนโดมิเนียมสอดคล้องกันมากขึ้น ขณะเดียวกันสถาบันการเงินเริ่มผ่อนคลายเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้ยอดการปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้าอยู่ในระดับทรงตัว

“การฟื้นตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เราเชื่อว่าจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนได้ในช่วงครึ่งปีหลัง โดยปัจจุบันปริมาณห้องที่เกินความต้องการเริิ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ผลจากผู้ประกอบการหลายรายชะลอการเปิดโครงการใหม่ ส่วนการปล่อยสินเชื่อนั้น ธนาคารเริ่มผ่อนคลายความเข้มงวดลง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นตลาดในอนาคต”

ทั้งนี้ จากปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ตลาดอสังหาริมรัพย์ ยังไม่ฟื้นตัว แต่บริษัทยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากรายได้ในปี 2559 ที่ 3,199 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนราว56 % โดยบริษัทมียอดพรีเซลได้ 70 % ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ระดับ30 % และมีการปฏิเสธสินเชื่อที่ 6-8 % จากอุตสาหกรรมที่ 20 % สาเหตุจากการเลือกพื้นที่ตั้งโครงการในเขตที่ไม่มีผู้ประกอบการรายใดเข้าไปทำตลาดก่อนนั้น เป็นพื้นที่มีการเติบโตของรายได้ที่สูง โดยมีลูกค้ากว่า 30 % ที่เลือกจ่ายเงิน เพื่อซื้อคอนโดมิเนียมเป็นเงินสด
แผนธุรกิจในปีนี้วางเป้าหมายรายได้ที่ 6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 88 % โดยจะมาจากงานในมือที่รอรับรู้รายได้ ประมาณ 1.28 หมื่นล้านบาท และการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ 9 โครงการ มูลค่ารวม 1.5 หมื่นล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 33 % แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 8 โครงการ และโครงการแนวราบ 1 โครงการ โดยจะทำโครงการเกาะแนวรถไฟฟ้า ทั้ง 5 เส้นทาง

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนจะกระจายรายได้ หันไปพัฒนาโครงการในรูปแบบโรงแรม อาคารสำนักงาน และพื้นที่ให้บริการเชิงพาณิชย์ วัตถุประสงค์เพื่อสร้างรายได้ประจำ โดยปัจจุบันมีสัญญาการก่อสร้างโรงแรมแล้ว 2 แห่ง คาดว่าจะเริ่มสร้างรายได้ให้กับบริษัทในระดับ 5-10 %ช่วงปี 2562 - 2565

นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) SC กล่าวว่า บริษัทจะเข้ามาทำตลาดในกลุ่มลูกค้าขนาดกลางมากขึ้น แม้ว่าในปัจจุบันจะมีปัญหาในหลายด้าน ทั้งยอดการปฏิเสธสินเชื่อในระดับสูง และจำนวนห้องที่เกินความต้องการ แต่ประเมินว่า ตลาดดังกล่าวเป็นตลาดมีการเติบโตสูง

โดยบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมโครงการที่จะออกมาขายในกลุ่มราคาระดับกลาง คาดว่าน่าจะเริ่มดำเนินการได้ช่วงครึ่งปีหลัง 2 โครงการ ยอมรับว่าการลงมาแข่งตลาดกลางอาจส่งผลให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อขยับเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 6-7 % แต่ประเมินว่าสัดส่วนการเพิ่มขึ้นไม่มาก เนื่องจากฐานลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทยังอยู่ในกลุ่มระดับบน

อย่างไรก็ตาม การลงมาทำตลาดกลาง ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงนั้น เพื่อตอบรับกับแผนของบริษัทที่ต้องการมีรายได้ทะลุ 2 หมื่นล้านบาทในปี 2562 ทำให้บริษัทต้องขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น โดยปีนี้ บริษัทวางเป้าหมายรายได้ที่ 1.48 หมื่นล้านบาท โดยจะมีโครงการใหม่ทั้งสิ้น 7 โครงการ

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บริษัทให้น้ำหนักกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เท่ากับตลาด มองว่า การฟื้นตัวของที่อยู่อาศัยโดยรวมยังไม่โดดเด่น ส่วนที่คาดว่าน่าจะเติบโตได้ดีคือ ความต้องการคอนโดมิเนียม ทั้งโครงการที่เปิดใหม่ในพื้นที่ที่ดี ฝ่ายวิจัยคาดว่าแนวโน้มของผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี2560 จะไม่โดดเด่นเท่าครึ่งปีหลังของปี 2559

บล.ฟินันเซียไซรัส ระบุว่ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีกำไรปกติในไตรมาส 4ปี2559เพิ่มขึ้น50%จากไตรมาส3ปี2559 เพราะผู้ประกอบการต่างเร่งโอนก่อนสิ้นปี แต่ลดลง9%จากงวดเดียวกันปีก่อน เพราะหมดมาตรการรัฐที่ทำให้ยอดโอนกระจุก ซึ่งกำไรทั้งปี2559 โตเพียง 2%จากปีก่อน ซึ่งความลำบากในปีก่อนคือกำลังซื้อในตลาดกลาง-ล่างที่หายไป ผู้ประกอบการไปแข่งกันที่ตลาดบนและพึ่งพาสินค้าแนวราบมากกว่าแนวสูง (ถูกกดดันอีกด้านจากที่ดินแพงขึ้น) สถานการณ์ยังต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน บวกกับการขายโครงการใหม่ได้น้อยในปีก่อนทำให้งานในมือรอที่จะโอนปีนี้มีไม่มาก