Daily Market Outlook (3 ก.พ.60)

Daily Market Outlook (3 ก.พ.60)

ระมัดระวังก่อนตัวเลขว่าจ้างงานสหรัฐและก้าวต่อไป Trump

คาดหุ้นไทยไม่ไปไหนไกลวันนี้ นักลงทุนน่าจะระมัดระวังตัวรอดูก้าวต่อไปของ Trump และก่อนการประกาศตัวเลขการว่าจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ที่อาจจะบ่งชี้การขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปของ Fed ได้ ข่าวดีในต่างประเทศคือผลประกอบการที่ดีของ บจ.ในยุโรปและแนวโน้มที่ดีด้วย ปัจจัยบวกในประเทศได้แก่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค. สูงสุดในรอบ 11 เดือนและโครงการทวายจะกลับมาเริ่มใหม่ได้ในเร็ววัน ข่าวลบคือการส่งออกข้าวปีนี้มีแนวโน้มลดลงจากการแข่งขันที่สูงขึ้น

หุ้นเด่นวันนี้: PLANB (ราคาปิด 6.30 บาท,NR, ราคาเป้าหมาย ปี 60 ของ Bloomberg 6.78 บาท)

บมจ. แพลน บี มีเดีย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการพื้นที่สื่อโฆษณานอกบ้านที่มีแพลตฟอร์มหลากหลายและมีนวัตกรรมมากที่สุดรายหนึ่งของไทยน่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของค่าใช้จ่ายโฆษณาในประเทศหลังหดตัวมาโดยตลอดปีที่แล้ว ค่าใช้จ่ายโฆษณาโดยรวมน่าจะดีขึ้น 4% YoYปีนี้ ขับเคลื่อนโดยภาวะเศรษฐกิจโดยรวม การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ทั้งจากภาครัฐและเอกชน และโอกาสที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า น่าจะช่วยให้พลิกฟื้นจากการหดตัว 12% ในปี 59 ตามที่ Neilson ระบุ สำหรับค่าใช้จ่ายโฆษณาบนสื่อนอกบ้านที่จริงยังเติบโตได้แข็งแกร่งถึง 34% ในปี 59 ดีที่สุดรองมาจากการเติบโตของช่องทางอินเทอร์เน็ตในขณะที่ช่องทางอื่นเติบโตไม่เป็นที่น่าพอใจ เราเชื่อว่ากำไรของ PLANB ถึงจุดต่ำสุดแล้วปีก่อนและน่าจะพลิกตัวกลับมาแข็งแรงปีนี้และปีหน้า ล่าสุด PLANB ได้ตั้งบริษัทย่อยเพื่อผลิตแอพมือถือสำหรับคนที่ต้องการวางแผนเดินทางโดยรถเมล์ รถไฟฟ้า แท็กซี่และมอเตอร์ไซค์ เราเห็นว่าเป็นก้าวที่ดีที่จะเข้าสู่การโฆษณาผ่านอินเทอร์เน็ตและแอพ ผู้บริหารมั่นใจว่ารายได้จากสิทธิประโยชน์ทางธุรกิจทั้งหมดของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยและไทยพรีเมียร์ลีกน่าจะเท่ากับ 800 ล้านบาทต่อปีเพิ่มเติมจากรายได้ต่อปีที่ 2.2 พันล้านบาท ตามค่าเฉลี่ยของ Bloomberg แม้คาดการณ์กำไรของ PLANB จะหดตัว 9% ในปี 59 แต่น่าจะเติบโตถึง 54% ในปี 60 และเติบโต 23% ในปี 61Price Pattern ของ PLANB มีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลางจากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal และหาก Price Pattern ของ PLANB ยังมีความแข็งแกร่งมากพอ โดยสามารถปิดตลาดรายเดือนได้เหนือ 6.40 บาท ก็จะทำให้แนวโน้มหลักที่เคยอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) กลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) ทันที โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ PLANB มีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 6.80 บาท ทั้งนี้ PLANB มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 6.05 บาท (แนวต้าน: 6.35, 6.40, 6.45; แนวรับ: 6.25, 6.20, 6.15)

ปัจจัยสำคัญ

ประเด็นในประเทศ:

• หอการค้าเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. สูงขึ้นเป็นเดือนที่สองสูงสุดในรอบ 11 เดือนมาอยู่ที่ระดับ 74.5 จาก 73.7 ในเดือนธ.ค. สนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นต่างๆ ของภาครัฐ การฟื้นตัวของภาคการส่งออก รวมถึงการปรับตัวสูงขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Bangkok Post)

• ไทยและเมียนมาร์บรรลุ MoU 18 ฉบับไทยและเมียนมาร์วานนี้ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกัน 18 ฉบับ โดย 16 ฉบับเซ็นโดยภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ ขณะที่ส่วนที่เหลือเซ็นโดยภาครัฐ เป็นส่วนหนึ่งของแผนเชิงรุกภาครัฐที่จะเพิ่มการลงทุนของไทยในเมียนมาร์ MoUครอบคลุมการพัฒนา SME พัฒนานิคมฯ และการร่วมทุนเป็นหลัก (Bangkok Post)

• โครงการทวายในประเทศเมียนมาร์จะกลับมาเริ่มต้นใหม่: เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายที่มีความล่าช้ายาวนานจะกลับมามีความคืบหน้า ตามคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของรัฐบาลเมียนมาร์ที่มีความหวังว่าโครงการจะกลับมาเริ่มต้นใหม่ในเร็ว ๆ นี้ (บางกอกโพสต์)ความเห็น:ITD ได้ลงนามในสัญญาสัมปทานกับรัฐบาลเมียนมาร์ในปี 2558 ในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย โดยมี ROJNA เข้าร่วมด้วย แต่โครงการนี้ก็หยุดการดำเนินงานไปประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมาภายใต้รัฐบาลใหม่ล่าสุดของเมียนมาร์ ซึ่ง ITD ต้องการที่จะแก้ไขบางส่วนของสัญญา แต่เป็นเรื่องที่ทางรัฐบาลเมียนมาร์ยังไม่ได้ตัดสินใจ ทั้งนี้โครงการทวายได้กลายเป็น Overhang สำหรับ ITD หลังจากที่ ITD ได้ลงทุนไปแล้วกว่า 6,300 ล้านบาท และโครงการถูกระงับไว้ เรื่องที่จะกลับมาดำเนินการต่อเรามองเป็นมุมมอง Neutral สำหรับ ITD

• การส่งออกข้าวเจอการแข่งขันที่แรงขึ้นปีนี้ สมาคมผู้ส่งออกข้าวคาดว่าการส่งออกข้าวจากไทยน่าจะลดลง 4% เทียบปีก่อนสู่ 9.5 ล้านตันท่ามกลางการแข่งขันในภูมิภาคโดยเฉพาะจากเวียดนาม ขณะที่กรมการเกษตรสหรัฐล่าสุดได้คาดว่าการบริโภคข้าวของโลกยังต่ำกว่าปริมาณการผลิตเป็นปีที่ 12 ในปีนี้ (Bangkok Post)

• SIRI และ SCB ลงทุน 100 ล้านบาทสำหรับการตั้ง Property Technology:เพื่อสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการ startup กว่า 300 ราย และผู้ใช้บริการราว 100,000 ราย ในปี 2563 สำหรับพัฒนาไลฟ์สไตล์สำหรับที่อยู่อาศัย โดยให้ SIRI เป็นแกนนำในการดำเนินการสำหรับการลงทุนในครั้งนี้ (ทันหุ้น)ความเห็น: ปัจจุบันผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ได้เปิดตัวนำ Startup เข้ามาร่วมพัฒนาในรูปแบบเช่นเดียวกันนี้หลายรายแล้ว

ต่างประเทศ:

• จะมีการเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้นราว 170,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นจากที่เพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. อัตราการว่างงานคาดว่าจะยังไม่เปลี่ยนแปลงที่ 4.7% ในเดือนม.ค. ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปี ตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งกอปรกับอัตราการเติบโตของค่าจ้างที่สูงสุดอาจทำให้การประชุมเฟดในวันที่ 15 มี.ค. มีความคิดเห็นขัดแย้งกันเกี่ยวกับการพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ย (Reuters)

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐทรงตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนรอข้อมูลการจ้างงานประจำเดือนม.ค. ที่จะประกาศในวันนี้ ซึ่งจะถูกนำไปประเมินเป็นสัญญาณใหม่ ๆ ว่าเฟดมีแนวโน้มจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งหน้าเมื่อใด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยอยู่ที่ระดับ 2.47% หลังจากก่อนหน้านี้ที่ลดลงอยู่ที่ระดับ 2.43% (Reuters)

• ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนพ.ย. เทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันพฤหัส หลังเฟดไม่ส่งสัญญาณชัดเจนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ในแถลงการณ์ล่าสุด ในขณะที่คำพูดของทรัมป์ทำให้นักลงทุนเป็นกังวล ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับแต่เดือนพ.ย. ที่ระดับ 99.233 เงินยูโรแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์เทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0828 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 1% เทียบกับเงินเยนที่ระดับ 112.06 เยน (Reuters)

สหรัฐ:

• ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทรงตัวเมื่อวันพฤหัส หลังจากการปรับตัวขึ้นของตลาดในช่วงที่ผ่านมาชะงักลงหลังจากความเห็นและคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์บ่งชี้ถึงนโยบายปกป้องทางการค้าและนโยบายประชานิยมอย่างสุดโต่ง ซึ่งอาจเป็นผลเสียต่อเศรษฐกิจโลกและขัดแย้งกับบรรทัดฐานและค่านิยมของชาวอเมริกัน (Reuters)

• จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสหรัฐลดลงมากกว่าที่คาดในสัปดาห์ก่อน บ่งชี้ภาวะตลาดแรงงานตึงตัวซึ่งน่าจะช่วยหนุนเศรษฐกิจในปีนี้ จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 ราย สู่ระดับ 246,000 ราย ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ม.ค. จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย ซึ่งแสดงว่าตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง เป็นสัปดาห์ที่ 100 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970 นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะต่ำกว่าระดับ 250,000 ราย (Reuters)

• ข้อมูลผลิตภาพแรงงานการผลิตสหรัฐฯ ชะลอตัวในไตรมาส 4/59 ข้อมูลผลิตภาพแรงงานการผลิตสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 1.3% YoYในไตรมาส 4/59 ชะลอตัวจากที่เพิ่มขึ้น 3.5% ในไตรมาส 3/59 ในขณะที่ผลิตภาพแรงงานปรับตัวดีขึ้นในครึ่งหลังของปี 59 หลังจากที่หดตัวในครึ่งแรกของปี 59 โดยที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในปี 2016 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับแต่ปี 2011 ในปี 2015 ข้อมูลผลิตภาพแรงงานการผลิตเพิ่มขึ้น 0.9% ทั้งนี้ ผลิตภาพแรงงานการผลิตสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นต่ำกว่า 1.0% ในแต่ละปีของช่วง 6 ปีที่ผ่านมา การขยายตัวของผลิตภาพแรงงานการผลิตสหรัฐโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1.1% นับจากปี 2007 – 2016 ต่ำกว่าอัตราการขยายตัวระยะยาวที่ 2.1% จากปี 1947-2016 (Reuters)


ยุโรป:

• ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวลดลงฉุดโดยผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศออกมาน่าผิดหวังจาก Novo Nordisk ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตยาสัญชาติเดนมาร์ก รวมถึงDeutsche Bank ของเยอรมนีที่ประกาศผลขาดทุนสุทธิ 1.9 พันล้านยูโรจากค่าใช้จ่ายทางด้านกฎหมายในกรณีการประพฤติผิดในอดีต ทั้งนี้หุ้น Reckitt Benckiser ปรับตัวสูงขึ้นจากข่าวการซื้อกิจการคู่แข่ง Johnson Nutrition(Reuters)

• ผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนในยุโรปแข็งแกร่งและมีแนวโน้มสดใส ล่าสุดบริษัทในดัชนีหุ้น STOXX600 ได้รายงานผลประกอบการงวด 4Q59 ไปแล้วกว่า 1 ใน 5 ซึ่งราว 57% ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่อีก 4% เป็นไปตามคาด ส่งผลให้มีแนวโน้มว่ากำไรสุทธิรวมจะสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้ราว 10% YoY (Reuters)

• BOE เผยไม่มีแผนเร่งรัดที่จะตึงตึวมาตรการทางการเงิน และน่าจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อรวมไปถึงการปรับเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจล่าสุดจะชี้นำไปถึงแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยก็ตาม เนื่องจาก BOE มองว่าจะเห็นการชะลอตัวลงของเงินเฟ้อในช่วงอีก 2 ปีข้างหน้า (Reuters)

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ 10 ปีปรับตัวลงแรง ท่ามกลางความกังวลต่อการ Brexitในช่วงต้นเดือนมี.ค. หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดีรัฐบาลได้ตีพิมพ์สมุดปกขาวสำหรับแผน Brexitจำนวน 77 หน้าเสนอต่อรัฐสภา (Reuters)

เอเชีย:

• นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายชินโซ อาเบะ กำลังพิจารณาเพิ่มการนำเข้าพลังงานจากสหรัฐอเมริกา ในขณะที่เขาเตรียมความพร้อมที่จะตอบสนองประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ได้ร้องเรียนเกี่ยวกับการเกินดุลการค้าของญี่ปุ่น ญี่ปุ่นจะร่วมกันจัดแพคเกจของแผนสำหรับบริษัทญี่ปุ่นที่จะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการสร้างงานโครงการในสหรัฐอเมริกา โดยอาเบะจะประชุมกับทรัมป์ในวอชิงตันวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ (Reuters)

• เงินทุนไหลออกจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นในปีที่แล้วทำสถิติสูงถึง 725 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และอาจจะเพิ่มขึ้นไปต่อ ถ้าบริษัทสหรัฐฯ เผชิญแรงกดดันทางการเมือง ซึ่งสถาบันการเงินระหว่างประเทศได้กล่าวไว้ การไหลออกของเงินอยู่ที่ 675 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2558 และ 160 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2557 เงินทุนไหลออกดีขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจากการคาดการณ์ว่าเงินหยวนจะลดลงเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐฯ การไหลออกทำให้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนลดลง 320 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีที่ผ่านมา เงินหยวนอ่อนค่าลง 6.5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ เป็นการอ่อนค่ารายปีที่มากที่สุดเลยทีเดียว (Reuters)

สินค้าโภคภัณฑ์:

• น้ำมันดิบในสหรัฐเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยวันพฤหัส ย่อตัวจากการเป็นบวกก่อนหน้าเพราะลดความกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน อย่างไรก็ดีราคายังหนุนโดยหลักฐานว่ารัสเซียและผู้ผลิต OPEC อยู่ระหว่างลดอุปทานน้ำมัน น้ำมันดิบ Brent บวก 9 เซนต์ (0.2%) ปิด 56.89 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4 เซนต์ (0.1%) ปิด 53.84 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)

• ราคาทองคำแตะจุดสูงสุดรอบ 11 สัปดาห์เมื่อวันพฤหัส หลัง Fed ไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มการตัดสินขึ้นดอกเบี้ยนโยบายทำให้ดอลลาร์ลดลง ราคาทองคำตลาดจรขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดนับแต่ 17 พ.ย. ที่ 1,225.30 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ก่อนที่จะปิดบวก 0.9% ที่ 1,219.96 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับวัน ราคาทองคำตลาดล่วงหน้าบวก 14 ดอลลาร์ ปิด 1,222.40 ดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)