สาลี่รับอนิสงส์ชิ้นส่วนพลาสติกฟื้น-บริษัทลูกหนุนดันกำไรพุ่ง

สาลี่รับอนิสงส์ชิ้นส่วนพลาสติกฟื้น-บริษัทลูกหนุนดันกำไรพุ่ง

อานิสงส์อุตฯชิ้นส่วนพลาสติกฟื้น-บริษัทลูกหนุนดันกำไรไตรมาส3“สาลี่อุตสาหกรรม”พุ่งเกือบ350%

นายสาทิส ตัตวธร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ SALEE ระบุว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยไตรมาส 3 ปีนี้ มีรายได้รวม 329 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68 ล้านบาท หรือ 26% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 261 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 22.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.18 ล้านบาท หรือ 348 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4.94 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจผลิตชิ้นส่วนพลาสติกที่เริ่มฟื้นตัว หลังจากที่ก่อนหน้าที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว 

“ผลงานในไตรมาส 3 ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะธุรกิจธุรกิจผลิตชิ้นส่วนพลาสติกที่มีทิศทางที่ดีขึ้น กลุ่มสินค้าเครื่องใช้สำนักงาน ของใช้ในครัวเรือนยังเติบโต และธุรกิจพิมพ์ฉลาก ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SLP ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน เป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และได้รับออเดอร์ใหม่จากลูกค้า ซึ่งมีการนำเสนอฉลากแบบใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูงขึ้น ส่งผลให้กำไรของสาลี่ พริ้นท์ติ้ง ปีนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา”  

นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากผลการดำเนินงานของบริษัท เพชรสยาม (ประเทศไทย) จำกัด หรือ PST ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าพลาสติกที่ใช้ในครัวเรือน และชุดสังฆทานรายใหญ่ ผ่านโมเดิร์นเทรดต่างๆ ซึ่งเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่เดือนก.ค.2559 ที่ผ่านมา หลังจากได้เข้าไปร่วมลงทุนดำเนินธุรกิจดังกล่าว ซึ่ง เพชรสยาม จะเป็นบริษัทที่มีส่วนสำคัญในการเข้ามาช่วยสร้างการเติบโตให้กับสาลีฯในอนาคต

"ผลประกอบการของบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดในปีที่แล้ว โดยภาพรวมปีนี้ทั้งปีรายได้และกำไรจะเติบโตแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจของกลุ่มสาลี่ กลับมาฟื้นตัว ขณะที่ สาลี่ พริ้นท์ติ้ง ได้รับงานพิมพ์ฉลากแบบใหม่ ที่มีมาร์จิ้นสูงเข้ามาเพิ่มขึ้น"

ที่สำคัญบริษัทเริ่มรับรู้รายได้จาก เพชรสยาม ซึ่งถือเป็นบริษัทย่อยน้องใหม่ ที่อนาคตยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากการเพิ่มโปรดักท์ใหม่ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยแผนงานในอนาคตของ เพชรสยาม นอกเหลือจากการขยายฐานลูกค้าโมเดิร์นเทรดแล้ว ยังเตรียมรุกตลาดต่างประเทศทั้งในออสเตรเลีย และกลุ่มลูกค้าอาเซียนในเขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และเติบโตได้อีกมาก จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 5%  โดยปีหน้าบริษัทจะสามารถรับรู้รายได้ของ เพชรสยาม เข้ามาได้เต็มๆ ปี 

สำหรับการเคลื่อนไหวราคาหุ้นสาลี่่ฯ วันนี้ ปิดครึ่งวันเช้าอยู่ที่ 1.83 บาท ลดลง 0.04 บาท หรือลดลง 2.14% มูลค่าการซื้อขาย 13.99 ล้านบาท