มั่นคงฯ รุกธุรกิจอสังหาฯ ให้เช่า

มั่นคงฯ รุกธุรกิจอสังหาฯ ให้เช่า

มั่นคงฯ รุกอสังหาฯเช่าและบริการ ปั้น “บางกอกฟรีเทรดโซน” โรงงานและคลังสินค้าให้เช่า ปูฐานสร้างรายได้ระยะยาว

นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยว่า บริษัทรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าและการบริการตามนโยบายกลยุทธ์ธุรกิจปี 2559 เพื่อเพิ่มการสร้างรายได้คงที่ระยะยาว โดยมีการสร้างพอร์ตใหม่ด้วยการมุ่งพัฒนาโครงการเรือธงอย่างโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนที่มีเนื้อที่ 993.5 ไร่ พัฒนาและบริหารงานโดย บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 100%  

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มั่นคงฯ มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการให้เช่าและการบริการประมาณ 2-3% ของรายได้รวมทั้งหมด โดยล่าสุดในปี 2558 มีรายได้จากกลุ่มธุรกิจดังกล่าว 114 ล้านบาท หรือ สัดส่วน 3% บริษัท จึงมีวิสัยทัศน์มุ่งขยายการเติบโตของธุรกิจอสังหาเพื่อการให้เช่า เพื่อเป็นการสร้างรายได้คงที่ในระยะยาว โดยใน 6 เดือนแรกของปี 2559 มั่นคงฯ มีรายได้จากอสังหาฯเพื่อการเช่า 100.7 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่ 7.8% ของรายได้รวมทั้งหมดคือ 1,287 ล้านบาท โดยรายได้หลักในกลุ่มธุรกิจอสังหาเพื่อการให้เช่าจะมาจากโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน เป็นหลัก และตามด้วยรายได้จากสนามกอล์ฟและอาคารสำนักงานให้เช่า”

ทั้งนี้ มั่นคงเคหะการได้ซื้อหุ้นสามัญ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด 100% มูลค่า 1,200 ล้านบาท เมื่อ ปลายตุลาคม 2558 ด้วยวิสัยทัศน์ของนายสุเทพ วงศ์วรเศรษฐ ประธานกรรมการ ที่ต้องการให้บริษัทมีการสร้างรายได้คงที่ในระยะยาว สร้างรากฐานการเติบโตบริษัทอย่างยั่งยืน โดยบริษัท พรอสเพค ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด เป็นผู้พัฒนาและบริหารโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน ตั้งอยู่ ต. บางเสาธง อ. บางพลี จ. สมุทรปราการ โดยอยู่บริเวณถนนบางนา-ตราด กม. 23 มีพื้นที่ทั้งหมด 993.5 ไร่ แบ่งออกเป็นพื้นที่สาธารณูปโภค 296 ไร่ (คิดเป็น 29.8% ของพื้นที่) และพื้นที่พัฒนาโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า 697.5 ไร่ (คิดเป็น 70.2%)

โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน ให้บริการอาคารโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า ระดับมาตรฐานสากล โดยแบ่งเป็น 3 รูปแบบคือ อาคารโรงงานแบบ Stand alone, อาคารคลังสินค้าแบบ On ground level อาคารโรงงาน Mini factory และอาคารคลังสินค้าแบบยกพื้น Raised floor ซึ่งรวมพื้นที่ทั้งหมดของอาคารที่ก่อสร้างเสร็จแล้วและอยู่ระหว่างก่อสร้าง 203,998 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ที่ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เป็นเจ้าของเอง 114,974 ตารางเมตร และรับเป็นผู้บริหารอาคารให้บุคคลที่ 3 อีก 89,024 ตารางเมตร ปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่ ของอาคารที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว 172,473 ตารางเมตร กว่า 85% และมีอัตราค่าเช่าสูงกว่าตลาดอยู่ประมาณ 10%

ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าแบ่งเป็นบริษัทต่างประเทศ 77% และบริษัทไทย 23% มีความสมดุลระหว่างสัดส่วนผู้เช่าที่เป็นผู้เช่าอาคารโรงงานและผู้เช่าคลังสินค้า โดยผู้เช่าโรงงานมีสัดส่วน 57% ซึ่งจะเป็นผู้เช่าระยะยาวเนื่องจากต้นทุนการย้ายฐานการผลิตที่สูง ฐานผู้เช่าอาคารโรงงานเป็นผู้เช่าที่จะอยู่นานและสร้างความมั่นคงด้านกระแสเงินสด ในขณะที่ 22% เป็นผู้เช่าคลังสินค้าและ 21% เป็นผู้เช่าจากธุรกิจการให้บริการ ความโดดเด่นของโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนคือ การมีสาธารณูปโภคคุณภาพและมีระดับมาตรฐานสูงระดับสากล พร้อมด้วยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการอย่างเต็มที่

“บริษัท พรอสเพคฯ ยังมีที่ดินเปล่าสำหรับพัฒนาอีก 280 ไร่ โดยจะเก็บที่ดินเปล่าสำหรับพัฒนาก่อสร้างอาคารคลังสินค้าและโรงงานเพื่อให้เช่าเอง 130 ไร่ และล่าสุดได้มีการร่วมลงทุนกับบริษัท ไทคอน โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด (บริษัทในเครือของบมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น) ในการพัฒนาก่อสร้างอาคารคลังสินค้าและโรงงานเพื่อให้เช่าในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนบนเนื้อที่ 150 ไร่ ซึ่งจะเป็นอาคารคลังสินค้าและโรงงานที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเพื่อตอบรับความต้องการลูกค้าในกลุ่มธุรกิจที่ต่างกัน โดยมีช่วงระยะการพัฒนา 2 ปี ซึ่งจะมีการรับรู้กำไรจากการขายสิทธิการเช่าช่วงที่ดินระยะยาวทันทีเมื่อโอนสิทธ์การเช่าให้กับบริษัทร่วมทุนและ
มั่นคงฯ ได้รับส่วนแบ่งกำไร 40% ซึ่งคาดการรับรู้รายได้ในส่วนของการร่วมทุนนี้ภายในปี 2560 ซึ่งคาดการณ์รายได้ภาพรวมทั้งหมดของโครงการจะแตะ 600 ล้านบาทภายใน 3 ปี” นายวรสิทธิ์กล่าว 

มั่นคงฯ ยังมีการพัฒนาอพาร์ทเม้นท์ภายใต้ชื่อ พาร์ค คอร์ท บนเนื้อที่ 20 ไร่ซึ่งตั้งอยู่บนสุขุมวิท 77 โดยเฟสแรกจะพร้อมให้บริการและรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2560

ทั้งนี้ มั่นคงฯ ยังมีการรุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการขายอย่างต่อเนื่อง ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานั้น ได้สร้างรายได้ 1,286.95 ล้านบาท ซึ่งมีการเติบโตมากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558 กว่า 59.86% และในไตรมาส 4/2559 พร้อมรุกตลาดบ้านอีก 2 โครงการ คือ ทาวน์โฮมระดับราคา 2 ล้านบาท และบ้านแฝดระดับราคา 3-4 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 841 ล้านบาท บนทำเลบางใหญ่ใกล้กับเซ็นทรัล เวสต์เกตและรถไฟฟ้า
สีม่วง