งัด ม.44 แก้ปัญหาขาดนักบิน

หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เตรียมพิจารณาใช้มาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ประกาศให้นักบินในสังกัดของราชการและรัฐวิสาหกิจที่เกษียณอายุ หรืออายุเกิน 60 ปี แล้วสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้อีกตั้งแต่ปี 2559-2563 นั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนนักบินและรองรับอุตสาหกรรมการบินขยายตัวในอีก 3 ปีข้างหน้า

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เสนอให้หัวหน้า คสช.พิจารณาแล้ว เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนนักบินซึ่งอยู่ระดับชำนาญการ รวมถึงครูสอนนักบินให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น

ปัจจุบันการจ้างเข้าทำงานได้จะต้องดำเนินการต่ออายุเป็นรายคนและปีต่อปี ซึ่งมีขั้นตอนที่ยุ่งยากไม่มีความต่อเนื่อง แต่ถ้าประกาศเป็นหลักการไปแล้วจะทำให้เกิดความคล่องตัวโดยสามารถขยายระยะเวลาการจ้างงานครั้งละ 3-5 ปีได้

อย่างไรก็ตาม นักบินที่เกษียณอายุที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ต่อก็ต้องผ่านมาตรฐานซึ่งก็มีอยู่แล้ว ทั้งความรู้ ความสามารถด้านเทคนิคต่างๆ สุขภาพต้องดีสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้

ทั้งที่เสนอเป็นแผนระยะสั้น ปี 2559-2563 หรือประมาณ 4 ปี เพราะคาดว่าถึงปี 2563 สถานการณ์ขาดแคลนนักบินจะดีขึ้น เพราะขณะนี้ที่ขาดคือระดับชำนาญการซึ่งเป็นกลุ่มยอดบนสุด แต่ระดับกลางและนักบินใหม่มีอยู่ในระดับที่เพียงพอ ซึ่ง 3-4 ปีข้างหน้า กลุ่มนี้ก็จะขยับขึ้นไปอยู่ระดับบน และจากแผนที่วางไว้ตั้งแต่ตอนนี้จะทำให้ระยะยาวขีดความสามารถด้านการบินดีขึ้นซึ่งต้องมีการวางแผนพัฒนาในระยะต่อไป

“แนวทางนี้ได้เสนอนายกฯไปแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็รับทราบและให้ไปหารือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้คาดว่าสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) และกระทรวงคมนาคม จะเป็นผู้พิจารณาในรายละเอียดและเสนอเรื่องมายังนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยอาจไม่ต้องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะจะเป็นการเสนอให้ใช้มาตรา 44” พล.อ.อ.ประจิน กล่าว

ชี้เป็นผลดีต่อการบินไทย-ไทยสมายล์

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่าพล.อ.อ.ประจินได้เสนอไปให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีพิจารณาใช้อำนาจตามมาตร 44 เพื่อขยายอายุนักบินของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจจาก 60 ปี เป็น 63 ปี แก้ไขปัญหาการขาดแคลนนักบิน หลังจากเกิดปัญหานักบินของสายการบินนกแอร์บางส่วนหยุดประท้วง จึงต้องมาพิจารณาว่าความต้องการด้านบุคลากรการบินมีจำนวนเท่าไร เน้นที่นักบินและช่างซ่อม แต่เบื้องต้นจะเน้นที่การผลิตนักบินที่ขาดแคลนในช่วงนี้

นอกจากนี้ เงื่อนไขของการบินภายในประเทศได้บังคับให้นักบินต้องถือสัญชาติไทย ขณะที่เที่ยวบินระหว่างประเทศไม่ได้มีการบังคับ จึงเกิดประเด็นว่าส่วนที่ขาดแคลนนักบินในปัจจุบันมีสายการบินของไทยเอง ซึ่งการปลดล็อกช่วงอายุของนักบินที่จะเกิดขึ้นหากจัดใช้ ม.44 นี้ จะส่งผลดีอย่างเห็นได้ชัดกับสายการบินไทยและสายการบินไทยสมายล์ ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่มีข้อกำหนดว่าหากจะรับนักบินที่เกษียณออกไปแล้วจะขัดกับ พ.ร.บ.คุณสมบัติของพนักงานและกรรมการรัฐวิสาหกิจ

ส่วนการจะเปิดรับนักบินต่างชาติเข้ามาจำนวนเท่าไร คาดว่าจะต้องประเมินจากความต้องการของสายการบินไทย และสายการบินไทยสมายล์ก่อน
สั่งเข้มงวดใบอนุญาตนักบิน

นายอาคม กล่าวว่ายังสั่งการให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เข้มงวดในเรื่องของข้อกฎหมายการออกใบอนุญาตนักบิน รวมไปถึงการผลิตนักบินในไทยให้มีมาตรฐานด้วย อีกทั้งยังพบว่าปัจจุบันมีโรงเรียนเอกชนเปิดสอนหลักสูตรการบินจำนวนมากโดยเฉพาะภาคทฤษฎี แต่สิ่งจำเป็นและสำคัญคือภาคปฏิบัติ เนื่องจากสถาบันที่ผลิตนักบินบางแห่งเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินเล็กตก

ดังนั้นหน่วยงานกำกับดูแลจึงจะต้องเข้มงวดเรื่องใบอนุญาตเพื่อให้โรงเรียนมีประสิทธิภาพและเป็นที่น่าเชื่อถือด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาในช่วงเวลาขาดแคลนนักบินไม่เพียงส่งเสริมการผลิตแต่คุณภาพไม่ได้

“การปลดล็อกนี้จะส่งผลถึงค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าตอบแทนที่สูงขึ้น เนื่องจากครูฝึกโดยเฉพาะครูฝึกต่างชาติแต่ละคนมีค่าจ้างที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นในส่วนของการผลิตบุคลากรด้านการบินจะต้องสอดคล้องกับจำนวนครูฝึกด้วย เช่น สถาบันการบินพลเรือนแม้เป็นรัฐวิสาหกิจก็จริงแต่ไม่สามารถจ่ายค่าตัวครูฝึกได้สูง และหากนำครูฝึกจากต่างประเทศเข้ามาฝึกสอนก็แพง ส่งผลให้การผลิตนักบินของเราจะต้องเป็นแบบสเต็ปบายสเต็ป คือให้จำนวนการผลิตนักบินต้องสอดคล้องกับครูฝึกที่มีไม่อย่างนั้นคุณภาพจะไม่ได้”

กพท.คาดแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการท่าอากาศยาน (ทย.) และปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการ กพท. กล่าวยอมรับว่า ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการบินของไทยมีปัญหาขาดแคลนบุคลากรด้านการบิน โดยเฉพาะนักบินเป็นตำแหน่งที่มีความต้องการมากที่สุดเพราะเป็นตำแหน่งที่อาศัยความเชี่ยวชาญและต้องใช้ระยะเวลา รวมไปถึงครูฝึกนักบินก็มีปัญหาขาดแคลนเช่นกัน

ส่วนผู้ปฏิบัติงานด้านการซ่อมบำรุงเครื่องบิน หรือช่างเครื่องต่างๆ พบว่ายังไม่เป็นปัญหามากนักเพราะสามารถที่จะผลิตและฝึกอบรมได้เนื่องจากใช้เวลาไม่มาก
สำหรับการจัดใช้ ม.44 ครั้งนี้ จะถือเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาขาดแคลนนักบินได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วง 3 ปี ระหว่าง 2559-2562 เนื่องจากการขยายกรอบเวลาให้นักบินเกษียณอายุ 60 ปี ขยายเป็น 63 ปี ก็จะทำให้ประเทศไทยมีนักบินที่ยังทำการบินได้ในจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลบวกอย่างชัดเจนในกับสายการบินไทย และไทยสมายล์ ส่วนสายการบินเอกชน หรือสายการบินต่างชาตินั้น พบว่ามีกรอบกำหนดอายุของนักบินอยู่ที่ 65 ปีซึ่งเป็นมาตรฐานสากล

ระบุรองรับอุตสาหกรรมการบินขยายตัว

“หากไม่มีการจัดใช้ ม.44 แน่นอนว่าตามกระบวนการจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน หรืออาจจะเป็นปี แต่เมื่อมีการจัดใช้ ม.44 ก็จะทำให้การปลดล็อกช่วงอายุเกิดขึ้นได้เลย และจะเป็นปัจจัยบวกอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 3 ปีข้างหน้า ซึ่งก็จะเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมการบินในเอเชียเติบโตสูงด้วย แต่ในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้านี้ หากไม่มีการจัดใช้ ม.44 เข้ามาสนับสนุน ตามปริมาณการผลิตนักบินของไทยก็พบว่า ในขณะนี้สำนักงานการบินพลเรือน (สบพ.) และสถาบันการศึกษา แต่ละปีสามารถผลิตนักบินได้ประมาณ 200-300 คน ในขณะที่ความต้องการจริงอยู่ที่ปีละประมาณกว่า 400 คน”

นายจุฬา ยังกล่าวอีกว่า ปัญหาขาดแคลนนักบินเป็นข้อจำกัดจากการผลิตนักบินของไทยต่อปีมีไม่สอดคล้องกับการเติบโตของสายการบิน และหากจะรอแก้ไขกฎหมายขยายอายุนักบินหรือออกเป็นกฎหมายเฉพาะในขั้นตอนกระบวนการก็คาดว่าจะต้องใช้เวลานานดังนั้นการใช้ ม. 44ก็จะเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้เงื่อนไขต่างๆ ปลดล็อกและสามารถบังคับใช้ได้รวดเร็วขึ้นอย่างไรก็มีมาตรการขยายกรอบอายุของนักบินนั้นขึ้นอยู่กับความสมัครใจของนักบินไม่ใช้ภาคบังคับว่าต้องทำงานถึง 63 ปี