'บ้านปู' มั่นใจปีนี้พลิกมีกำไรแน่นอน

"บ้านปู" มั่นใจปีนี้พลิกมีกำไรสุทธิแน่นอน ชี้ครึ่งปีแรกกำไรแล้ว 98 ลบ. หลังทิศทางราคาถ่านหินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น - รับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าหงสา
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU กล่าวว่า บริษัทคาดปีนี้จะมีกำไรแน่นอน จากปีก่อนที่มีผลขาดทุน 1.53 พันล้านบาท เนื่องจากครึ่งปีแรกมีกำไรแล้ว 98.02 ล้านบาท และทิศทางราคาถ่านหินมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัทมีการรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าหงสาที่เดินเครื่องครบทั้ง 3 เฟสและรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้า BLCP ขณะที่รายได้ปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับมหาวิทยาลัย 12 แห่ง เพื่อลงทุนติดตั้งโซลาร์ รูฟ กำลังการผลิตรวมประมาณ 40 เมกะวัตต์ ใช้งบลงทุนเมกะวัตต์ละ 40 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้เซ็นสัญญาติดตั้งโซลาร์ รูฟ กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ขนาด 4.3 เมกะวัตต์ ใช้งบลงทุน 180 ล้านบาท ส่วนจะติดตั้งเสร็จเมื่อไรนั้นยังไม่สามารถระบุได้ เพราะอยู่ระหว่างการติดต่อกับทางมหาวิทยาลัย และยังไม่มั่นใจว่าทั้ง 12 มหาวิทยาลัยจะให้ BANPU ติดตั้งทั้งหมดหรือไม่ โดย BANPU จะมีรายได้จากการใช้ไฟของมหาวิทยาลัย โดยการลงทุนโซลาร์ รูฟ กับทางมหาวิทยาลัยนั้นจะคืนทุนระยะเวลา 7-10 ปี และมหาวิทยาลัยจะประหยัดค่าไฟได้ประมาณ 10% จากค่าไฟในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ผลจากลงทุนโซลาร์ รูฟในครั้งนี้ เป็นไปตามแผนของบริษัท ตั้งเป้ามีโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนไม่ต่ำกว่า 20% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด 4,300 เมกะวัตต์ในปี 2568
ส่วนกรณีการบันทึกความร่วมมือเป็นหุ้นส่วนธุรกิจการลงทุนด้านพลังงาน ระหว่างบริษัทกับ บริษัท เทเช่น เทคโนโลยีส์ (ไทยแลนด์) จำกัด นั้น จะเป็นในลักษณะที่BANPU ซื้อแผงโซลาร์ จากเทเช่น เพื่อไปติดตั้งโซลาร์ รูฟ ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ
นางสมฤดี กล่าวว่า สิ้นปีนี้ BANPU จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 2,000 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่มี 1,900 เมกะวัตต์ เพราะโรงไฟฟ้าที่จีนจะ COD อีก 110 เมกะวัตต์ และการติดตั้งโซลาร์ รูฟ ที่ลาดกระบัง อีก 4.3 เมกะวัตต์







