'มะลิ'เบนเข็มบุกตลาดโฮเรก้า

นมตรามะลิ เผยครัวเรือนลดบริโภคนมข้นหวาน ปรับทิศส่งสินค้ากลุ่มโปรเฟสชั่นนัลบุกตลาด “โฮเรก้า”หวังเพิ่มสัดส่วนรายได้ ขยายตลาดส่งออก‘จีน-ฮ่องกง’
นายพินิจ พัวพันธ์ กรรมการบริหาร บริษัท มะลิ กรุ๊ป 1962 จำกัด ผู้ผลิตนมข้นหวานและนมข้นจืดตรามะลิ เปิดเผยว่าปัจจุบันครอบครัวคนไทยมีขนาดเล็กลงและเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น อีกทั้งผู้บริโภคมีพฤติกรรมนิยมดื่มกาแฟนอกบ้าน ทำให้ลดปริมาณการซื้อผลิตภัณฑ์นมข้นหวานเพื่อบริโภคภายในบ้าน
จากตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงดังกล่าว บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการขยายช่องทางการขายใหม่ โดยเน้นตลาดโฮเรก้า หรือกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร ร้านเบเกอรี่ โดยเฉพาะร้านกาแฟที่ขยายตัวสูงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นช่องทางหลักทำตลาดหลังจากนี้
ล่าสุดได้เปิดตัวสินค้าในกลุ่มโปรเฟสชั่นนัล หรือนมข้นหวาน ตรามะลิ โปรเฟสชั่นนัล ประกอบด้วยนมข้นหวานตรามะลิ ขนาดบรรจุกระป๋อง 505 กรัม และขนาด 385 กรัม รวมถึงขนาดบรรจุถุง 1 และ 2 กิโลกรัม
โดยวางเป้าหมายสัดส่วนยอดขายจากกลุ่มธุรกิจโฮเรก้าช่วง 3-5 ปีจากนี้มีสัดส่วน 35% ของยอดขายรวมและตั้งเป้าหมายขึ้นเป็น 2 ใน 3 ผู้นำตลาดโฮเรก้า จากปัจจุบันที่มีผู้เล่นรายหลักๆ 2-3 ราย ขณะที่เป้าหมายอดขายรวมปีนี้อยู่ที่ 3,800-4,000 ล้านบาท สัดส่วนรายได้หลักยังมาจากแบรนด์มะลิ 70% ออร์คิด พิมส์ และเบิร์ด วิงส์ รวมถึง 30%
"ที่ผ่านมาตลาดนมข้นหวานเติบโต 2-3% ขณะที่ตลาดโฮเรก้าโตถึง 10-20% ต่อปี มีมูลค่ารวมนับแสนล้านบาท เห็นได้จากตลาดนมพร้อมดื่มที่มีมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ตลาดร้านอาหารและเบเกอรี่ 2 แสนล้านบาท และตลาดร้านกาแฟกว่า 6 หมื่นล้านบาท จึงเห็นถึงโอกาสเติบโตของตลาดนี้”นายพินิจ กล่าว
นอกจากนี้บริษัทได้เตรียมพัฒนาสินค้าใหม่ให้มีขนาดเล็กลงหรือพอเหมาะกับผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ภายใต้แบรนด์มะลิอีก 1 รายการ คาดทำตลาดปีหน้า เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีครอบครัวเดี่ยวและกลุ่มครอบครัวขนาดเล็ก
ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการกระจายสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการเพิ่มตัวแทนจำหน่ายให้ครบ 20 รายทั่วประเทศ เพื่อให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะช่องทางร้านกาแฟที่กระจายอยู่ทั่วไป เนื่องจากผู้บริโภคหันมาดื่มกาแฟนอกบ้านมากขึ้น
สำหรับการขยายตลาดต่างประเทศได้เตรียมส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีนและฮ่องกง ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงและพัฒนาสูตรตามความต้องการผู้บริโภคทั้ง 2 ประเทศ โดยจะเริ่มส่งออกช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ปัจจุบันส่งออกผลิตภัณฑ์ตรามะลิในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี ประกอบด้วยกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม รวมถึงแอฟริกาใต้และสหรัฐ
ทั้งนี้ เมียนมาเป็นตลาดสำคัญและมีศักยภาพเติบโตสูง รองมากัมพูชาและลาว ขณะที่เวียดนามแข่งขันสูงเนื่องจากมีผู้เล่นท้องถิ่นที่แข็งแกร่ง ปัจจุบันสัดส่วนการขายจากตลาดส่งออกอยู่ที่ 20-25%







