IRPC - ซื้อ

การเริ่มดำเนินการของโรงงาน UHV หนุนความชัดเจนของกำไร
สูงกว่าประมาณการ
IRPC รายงานกำไรไตรมาส 2/59 ที่ 3.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% QoQ (แต่ลดลง 13% YoY) สูงกว่าประมาณการของเรา 6% แต่สูงกว่าของ Bloomberg ถึง 60% หากไม่รวมกำไรจากสต็อกน้ำมัน IRPC จะรายงานผลการดำเนินงานที่อ่อนตัวลง QoQ โดยกำไรหลักจะอยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท ลดลง 15% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 29% YoY และสูงกว่าประมาณการของเรา 20% ส่วนใหญ่จากค่าการกลั่นรวมที่สูงกว่าคาด เราสันนิษฐานค่าการกลั่นรวมอยู่ที่ 13 เหรียญต่อบาร์เรล ต่ำกว่าที่รายงานที่13.4 เหรียญต่อบาร์เรลเล็กน้อย
ประเด็นหลักผลประกอบการ
ไฮไลต์ในไตรมาส 2/59 คือกำไรจากสต็อกสินค้าที่ 2.5 พันล้านบาท ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์และการป้องกันความเสี่ยงจากราคาน้ำมันดิบ ส่งผลให้รายการพิเศษกำไรสุทธิที่ 1.3 พันล้านบาท จากขาดทุน 250 ล้านบาท ในไตรมาสก่อนหน้า
ในทางกลับกัน ต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ค่าพรีเมี่ยมบนราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น และอัตรากำไรการกลั่นที่ลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรรวมหดตัว QoQ แต่น้อยกว่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้า โดยค่าการกลั่นรวมลดลงเพียง 0.3 เหรียญ มาอยู่ที่ 13.4 เหรียญต่อบาร์เรล จาก 13.7 เหรียญต่อบาร์เรลในไตรมาส 1/59 มาร์จิ้นจากธุรกิจปิโตรเคมีปรับเพิ่มขึ้น 1.5 เหรียญ QoQ มาอยู่ที่ 8.3 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งชดเชยค่าการกลั่นที่ลดลง 2 เหรียญ QoQ มาอยู่ที่ 4 เหรียญต่อบาร์เรล โดยภาวะค่าการกลั่นที่ลดลงส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตของโรงงาน โดยอัตราการกลั่นปรับลดลงมาอยู่ที่ 85% จาก 87% ในไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่กำลังการผลิตของโรงงานเคมีทั้งหมดซึ่งรวมถึงโรงงานกลุ่มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์และกลุ่มผลิตภัณฑ์โอลิฟินส์ หดตัวลงมาอยู่ที่ 90% และ 95% ในไตรมาส จาก 99% และ 94% ในไตรมาส 1/59 ตามลำดับ
แนวโน้ม
ถึงแม้ส่วนต่างราคาก๊าซโซลีนจะหดตัวตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/59 จนถึงปัจจุบัน เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มค่าการกลั่นรวมของ IRPC โดยส่วนต่างราคาน้ำมันเตาที่หดตัวน้อยลงจาก -9 เหรียญต่อบาร์เรลในไตรมาส 2/59 มาอยู่ที่ -4 เหรียญต่อบาร์เรลตั้งแต่ต้นไตรมาสจนถึงปัจจุบัน จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทมากที่สุด เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนการผลิตน้ำมันเตาสูงที่สุดในกลุ่มโรงกลั่นไทย ประกอบกับส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลที่ฟื้นตัว เราประเมินค่าการกลั่นรวมเฉลี่ย QTD อยู่ที่ 13 เหรียญต่อบาร์เรล ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/59 ผู้บริหารชี้ค่าพรีเมี่ยมของราคาน้ำมันดิบ Arab light ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันดิบหลักของบริษัท ได้พลิกกลับมาลดลงในเดือนส.ค. จาก +0.8 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วงไตรมาส 2/59 ถึงเดือนก.ค. รวมถึงการเริ่มดำเนินการของ UHV น่าจะเป็นอัพไซด์ต่อค่าการกลั่นรวมของบริษัทในอนาคต
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
เรายังคงประมาณการกำไรหลังหักภาษีปี 2559 เดิมที่ 1.07 หมื่นล้านบาท ถึงแม้ส่วนต่างราคาก๊าซโซลีนจะผันผวน แต่เรามองกำไรในครึ่งหลังปี 2559 จะยังคงแข็งแกร่ง ด้วยค่าการกลั่นรวมเฉลี่ยกรณีฐานที่อย่างน้อย 13 เหรียญต่อบาร์เรล ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/59 ซึ่งหมายถึงกำไรหลักจะทรงตัวอยู่ที่ 2 พันล้านบาทต่อไตรมาส ใกล้เคียงกับไตรมาส 2/59
คำแนะนำ
เรายังคงชื่นชอบ IRPC และยังคงมองราคาหุ้นมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นต่อในช่วงปีนี้ เรามองราคาขายมีโอกาสฟื้นตัวในบางผลิตภัณฑ์จากอัตรากำไรน้ำมันเตามีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น (บริษัทมีสัดส่วนน้ำมันเตาสูงที่สุดในกลุ่มโรงกลั่นไทย) ส่วนโรงงาน UHV ได้เริ่มดำเนินการแล้ว ซึง่ไม่เพียงจะเป็นอัพไซด์ต่อัตรากำไรแต่อาจเพิ่มความชัดเจนของกำไรด้วย นอกจากนี้ธุรกิจโพรพิลีนมีแนวโน้มอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วงที่เหลือของปีนี้และในปีหน้า เราจึงมองอัตรากำไรโพรพิลีนจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ







