KTB - ถือ

ผลประกอบการไตรมาส 2/59 อ่อนตัวเนื่องจากการ ตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น
ประเด็นการลงทุน
เราได้เข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์ของ KTB เมื่อวานนี้ ซึ่งในงานผู้บริหารได้ย้ำชัดอีกครั้งถึงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อที่ 3-4% ซึ่งเป็นความสำคัญอันดับแรกในการจัดการกับหนี้ที่ไม่เกิดรายได้ เรายังคงประมาณการณ์กำไรอยู่ที่ 28.5 พันล้านบาท จากเศรษฐกิจที่ค่อยๆฟื้นตัวในครึ่งปีหลังและนโยบายที่รัดกุมมากขึ้นในปี 2559 นอกจากนั้นจากคำพูดของผู้บริหารการทำพร้อมเพย์จะมีผลกระทบในเชิงลบต่อบริษัทแค่เล็กน้อยโดยจะมีผลต่อรายได้สุทธิจากค่าธรรมเนียมแค่ 5% ในปี 2560 เรายังคงแนะนำให้ถือต่อจากการประเมิณค่า ณ สิ้นปี 2559 โดยใช้ PBV ที่ 0.8 เท่า ซึ่งถือว่าต่ำซึ่งถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยที่ 1.2 เท่า และมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 4.8 % ในปี 2559
การปล่อยสินเชื่อที่รัดกุมในปี 2559 เพื่อที่จะให้ความสำคัญของการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์
ผู้บริหารของ KTB ได้ตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อในปี 2559 ไว้แค่ที่ 3-4% จากส่วนของ SME ขนาดกลางและฝ่ายบริษัท (อัตราสินเชื่อสูง) จากปัจจัยนี้อาจทำให้ KTB ยังคงส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยใกล้กับ 3% ได้เช่นเดียวกับปีที่แล้ว โดยทางธนาคารยังไม่รวมการกู้ยืมเงินของรัฐบาลในครึ่งปีหลังของปี 2559 ในปี 2559 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ถูกตั้งที่ 45-46% จากความคืบหน้าของประสิทธิผลในการใช้ต้นทุน เรามองว่าทางธนาคารดูอนุรักษ์นิยมน้อยกว่าทางโมเดลของเรา เราคาดว่าสินเชื่อจะโตขึ้น 2% ในปี 2559 และ 4% ในปี 2560 ที่มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยแบบอนุรักษ์นิยมที่ 2.9% ในปี 2559 และ 2.8% ในปี 2560 ในขณะที่สินเชื่อของ 5 เดือนแรกค่อนข้างคงที่ YoY จากนโยบายสินเชื่อที่รัดกุมตามคำพูดของผู้บริหาร
หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้สูงขึ้นในไตรมาส 2/59 เช่นเดียวกับสำรองเผื่อหนี้สูญ
แม้ว่า KTB จะไม่ได้แนะการตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญในไตรมาส 2/59 และ ปี 2559 กับเรา เราคาดบริษัทจะเพิ่มการตั้งสำรองเพื่อความปลอดภัยในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคงเช่นนี้ อีกทั้ง KTB กล่าวว่าหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในไตรมาส 2/59 สูงขึ้นในอัตราที่ลดลง QoQ ดังนั้นบริษัทจะตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญเพิ่มขึ้นจากนโยบายปกติ (สามพันล้านบาทต่อไตรมาส) ในไตรมาส 2/59 เราคาด KTB จะตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญที่ 7.8 พันล้านบาทในไตรมาส 2/59 ซึ่งเพิ่มขึ้น 4% YoY แต่ลดลง 10% QoQ เราคาดบริษัทจะมีสำรองหนี้สูญในปี 2559 อยู่ที่ 25.5 ล้านบาท ซึ่งลดลง 17% YoY KTB ได้เปลี่ยนเป้าหมายอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสะสมต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในปี 2559 จาก 130% มาอยู่ที่ 100% เท่ากับปกติ ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทอาจจะใช้อัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเพื่อเร่งแก้ปัญหาการปรับโครงสร้างหนี้ที่มาจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และการตัดจำหน่ายหนี้เสีย ซึ่งมีโอกาสส่งผลให้อัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ประมาณ 3% ในปี 2559 จากที่อยู่ที่ 3.7% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2559
รายได้ไตรมาส 2/59 ต่ำกว่าคาด และการตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญสูงกว่าคาด
บริษัทคาดสินเชื่อในไตรมาส 2/59 ลดลง 1% QoQ และทรงตัว YoY ด้วยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่คาดไว้ 3% เราคาด KTB จะรับรู้กำไร 8.3 พันล้านบาท ซึ่งลดลง 2% YoY แต่เพิ่มขึ้น 10% QoQ (เนื่องจากการตั้งสำรองที่ลดลง) เราคาดการตั้งสำรองของบริษัทจะสูงขึ้น 4% YoY แต่ลดลง 10% QoQ มาอยู่ที่ 7.8 พันล้านบาท เราคาดกำไรจากการดำเนินงานที่ไม่รวมสำรองหนี้เสียของบริษัทจะสูงขึ้น 7% YoY และ 2% QoQ มาอยู่ที่ 18.3 พันล้านบาท ในไตรมาส 2/59 เนื่องจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นและการจัดการ OPEX ที่ดี โดยรวมเรามองว่าการดำเนินงานของบริษัทยังคงสอดคล้องกับการประเมินของเรา







