‘แปซิฟิกา’โหมขยายสาขารับตลาดแฟชั่นแมสโต

‘แปซิฟิกา’โหมขยายสาขารับตลาดแฟชั่นแมสโต

แปซิฟิกา สบช่องกลุ่มแฟชั่นตลาดแมสโตสวนกระแส ทุ่มงบ 200 ล้านต่อปี เดินหน้าขยายสาขา “อเมริกัน อีเกิ้ล-เครื่องสำอางนิกซ์” มั่นใจยอดขายโต 40%

นายโอภาส เลวิจันทร์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท แปซิฟิกา จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์แฟชั่นไลฟ์สไตล์จากต่างประเทศรวม 14 แบรนด์ อาทิ โค้ช, แม็กซ์ มาร่า, แคมเปอร์, เคดส์, อเมริกัน อีเกิ้ล เอ้าท์ฟิตเตอร์ ฯลฯ เปิดเผยว่าการทำตลาดสินค้ากลุ่มแมสแบรนด์ ที่สินค้ามีราคาไม่สูงและผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ง่ายมียอดขายเติบโตสูงในช่วงที่ผ่านมา  โดยสินค้ากลุ่มแมสแบรนด์ของบริษัทปีก่อนเติบโต 153% จากการซื้อของลูกค้าคนไทย

ส่วนสินค้ากลุ่มพรีเมียมแบรนด์เติบโต 18% และกลุ่มลักชัวรีแบรนด์เติบโต 19%  จากการซื้อของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนที่มีสัดส่วน 40% ของลูกค้าทั้งหมด

“กำลังซื้อคนไทยยังมีอยู่ แต่ยังไม่ออกมาจับจ่ายใช้จ่าย และมีพฤติกรรมเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะช่วงจัดโปรโมชั่น”

จากอัตราการเติบโตของสินค้าในกลุ่มแมสแบรนด์ บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการขยายสาขาร้านแมสแบรนด์มากขึ้น ภายใต้งบลงทุนเฉลี่ยปีละ 150-200 ล้านบาท เน้น 2 แบรนด์หลัก คือ อเมริกัน อีเกิ้ล และเครื่องสำอางนิกซ์ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยตั้งเป้าขยายให้ได้ 16 แห่งในปีนี้

พร้อมทั้งเดินหน้าขยายสาขาแบรนด์อเมริกัน อีเกิ้ล เอ้าท์ฟิตเตอร์ เพิ่มอีก 15-20 แห่งใน 3 ปี จากปัจจุบันมีอยู่ 5 แห่ง ส่วนเครื่องสำอางนิกซ์ จะขยายสาขาเพิ่มอีก 12 แห่งภายในปี 2560 จากปัจจุบันมีอยู่ 16 แห่ง โดยวางเป้าหมายขยายสาขาทุกแบรนด์รวมกันให้ครบ 120-130 แห่งภายในช่วง 3-4 ปีจากนี้

“การเลือกนำเข้าแบรนด์สินค้าแฟชั่นเข้ามาทำตลาดในไทย เน้นจุดเด่นของสินค้าที่ยังไม่มีใครทำตลาด สามารถทำตลาดได้ทุกที่ และมีราคาใก้ลเคียงกับต่างประเทศ"

ทั้งนี้ ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยรวมบริษัทย่อยทั้ง 4 บริษัท มาอยู่ภายใต้กลุ่มบริษัทแปซิฟิกา ประกอบ บริษัทแปซิฟิกา เอเลเมนท์ จำกัด ผู้นำเข้าสินค้าแบรนด์โค้ช แคมเปอร์ และเคนเน็ธโคล, บริษัท จีโอ รีเทล จำกัด ผู้นำเข้าแบรนด์อเมริกัน อีเกิ้ล เอ้าท์ฟิตเตอร์, บริษัท แปซิฟิกา ไลฟ์สไตล์ จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องสำอางนิกซ์ และบริษัท แปซิฟิกา แม็กซ์ จำกัด ผู้นำเข้าแบรนด์แม็กซ์ มาร่า เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการในด้านต่างๆ ทั้งการทำตลาด วางแผนซื้อสื่อ การขนส่งสินค้า รวมถึงเจรจากับคู่ค้าเพื่อขยายสาขาแบรนด์ต่างๆ 

นอกจากนี้เตรียมขยายการจำหน่ายสู่ช่องทางออนไลน์มากขึ้น ปัจจุบันขายผ่านร้านค้าออนไลน์ลาซาด้า พบว่าได้รับการตอบรับดี โดยจะเพิ่มช่องทางขายผ่านเว็ปไซต์ของบริษัท ซึ่งอยู่ระหว่างวางระบบคาดเปิดตัวภายใน 2 เดือน รวมถึงเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่อีก 1-2 แบรนด์ เลือกแบรนด์ที่ผู้บริโภครู้จักและเข้าถึงได้ง่าย เชื่อว่าจะทำให้ยอดขายจากช่องทางนี้เติบโตในอนาคต

ทางด้านผลประกอบการปี 2558 บริษัทมียอดขายรวม 1,000 ล้านบาท เติบโต 35% แบ่งเป็นกลุ่มลักชัวรีแบรนด์ 41% พรีเมียมแบรนด์ 37% และแมสแบรนด์ 23% ปีนี้วางเป้าหมายยอดขาย 1,400 ล้านบาท เติบโต 40%  แบ่งเป็น ลักชัวรีแบรนด์ 39% พรีเมียมแบรนด์ 27% และแมสแบรนด์ 35%