“CHAT Jewelry” แฟชั่นหินสี ‘สื่อความหมาย’

“CHAT Jewelry” แฟชั่นหินสี ‘สื่อความหมาย’

เครื่องประดับอัญมณี “หินนำโชค” ถูกนำมาออกแบบใหม่ให้เป็นงานดีไซน์สุดเก๋ ผลงานของดีไซเนอร์ผู้หลงใหลในแฟชั่น และไม่เคยทิ้ง Passion ตัวเอง

“จงอย่ากลัวที่จะก้าวเข้าไปหาความฝันของตัวเอง ไม่ใช่ก้าวแรกแล้วเราจะสำเร็จตลอด เพราะการเดินทางมันยาวไกล พลาดแล้วก็ลุก ลุกแล้วก็เดิน สักวันหนึ่งความสำเร็จก็จะมาถึงเราเอง เราต้องตั้งเป้าหมายในชีวิต และเดินตามความฝัน โดยไม่กลัวที่จะแพ้ ”

คำของ “ฉัตร-ฉัตรมณี แต้สุนทรไพเราะ” ที่เคยให้สัมภาษณ์กับกรุงเทพธุรกิจ BizWeek ไว้เมื่อประมาณ 5 ปีก่อน หลังเธอและเพื่อนคว้ารางวัลชนะเลิศในเวทีประกวดแฟชั่นดีไซน์ FIC PLUS 2011” และเคยทำเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์ “5th” และ “ฉัตร” อยู่ในโซน Mob-F สยามเซ็นเตอร์ ก่อนขยายไปมีอีก 5 สาขาหลังจากนั้น

ในวันนี้เราได้เจอกันอีกครั้ง แบรนด์ฉัตรยังคงอยู่ ทว่าไม่มีแล้วแฟชั่นเสื้อผ้ามีแต่ CHAT Jewelry” เครื่องประดับดีไซน์สวยจากโครงการส่งเสริมนักออกแบบไทยสู่ตลาดโลก “Designers’ Room”ที่อวดโฉมอยู่ในงาน “BIFF&BIL 2016” โดยสถาบันส่งเสริมการออกแบบและนวัตกรรมเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ที่ผ่านมา

“ทำเสื้อผ้าแฟชั่นเหนื่อยมาก แต่ก็สู้ตาย ตอนนั้นคนที่ทำออนไลน์ยังไม่เยอะขนาดนี้ ถ้าใครอยากขายผลงานของดีไซเนอร์ไทยก็ต้องขึ้นห้างฯ อย่างมากก็โดนก๊อปไปข้างทาง ตอนนั้นกำลังต่อสู้อยู่เลย แต่วันหนึ่งคุณแม่โทรมาบอกว่า ไปสมัครเรียนคอร์สจิวเวลรี่ไว้ให้แล้ว เพราะอยากให้กลับมาช่วยธุรกิจที่บ้าน”

ฉัตรบอกจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้เธอต้องวางมือจากธุรกิจที่ปลุกปั้น เพื่อมาสานต่อธุรกิจครอบครัวที่ทำเกี่ยวกับพลอยและอัญมณี โดยกุศโลบายของคนเป็นแม่คือส่งไปลงเรียนหลักสูตร Gem and Jewelry Diploma Program ที่ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT หลังเรียนจบเธอตัดสินใจลุยยาวกับธุรกิจจิวเวลรี่ ทว่าไม่เคยทิ้งสิ่งที่ตัวเองรักนั่นคือ “งานดีไซน์” กลายเป็นที่มาของ CHAT Jewelry” (ฉัตรจิวเวลรี่) ในวันนี้

“คนเราอยากใช้อัญมณีหินธรรมชาติ แต่ว่าที่มีอยู่ในตลาดส่วนใหญ่จะเป็นพวกลูกประคำหรือสร้อยอะไรไป ซึ่งจริงๆ แล้ว เราสามารถดีไซน์ให้เป็นอย่างอื่นได้ ให้คนใส่แล้วรู้สึกมีความเป็นยูนีค แต่ยังมีความหมายมงคลอยู่ในตัวด้วย”

ฉัตรบอกที่มาของแนวคิดในการเลือกใช้หินธรรมชาติในกลุ่ม “Lucky stone” หรือ หินนำโชค หินมงคล มานำเสนอในรูปแบบใหม่ โดยเลือกใช้หินธรรมชาติเกรดพรีเมี่ยม มาดีไซน์ให้เกิดชิ้นงานที่แตกต่าง อวดโชว์ลวดลายของหิน เน้นการเล่าเรื่องของธรรมชาติ ผ่านลายเส้นที่พลิ้วไหว เพื่อเอาความเป็นธรรมชาติมาสร้างเครื่องประดับที่สามารถติดตัวเราไปได้ตลอด สอดรับแนวคิด ‘ยุคนี้ความเจริญอาจไปไกล แต่ผู้คนก็ยังถวิลหาธรรมชาติ’

รูปลักษณ์เปลี่ยนไป แต่ความหมายดีๆ ยังคงอยู่ เช่น "คันไซต์" หินสีชมพู ช่วยในเรื่องความรัก "ลาพีส ลาซูลี" หินสีน้ำเงิน มีพลังในการปกป้องคุ้มครอง เสริมสร้างสติปัญญา ชักนําเพื่อนแท้มาให้ "ฟลูออไรท์" ช่วยให้จิตใจมั่นคง ปรับสมดุลความคิด "ไหมทอง" สัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งร่ำรวย นำพลังบารมีมาสู่ผู้เป็นเจ้าของ เหล่านี้เป็นต้น

ทำเสื้อผ้าแฟชั่นในไทยมาหลายปี แต่พอเป็นธุรกิจจิวเวลรี่ เธอกลับเลือกไปเปิดตัวในตลาดต่างประเทศ โดย 2 ปีก่อน ฉัตรจิวเวลรี่ วางขายที่สิงคโปร์ และฮ่องกง ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จอย่างดี ก่อนที่ปี 2558 จะถูกคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ “Designers’ Room” จึงมีโอกาสมาเปิดตลาดในไทยเป็นครั้งแรก  

“ต่างชาติเห็นแล้วรู้สึกตื่นตาตื่นใจ เพราะเป็นอะไรที่ใหม่ แตกต่าง และราคาจับต้องได้ ”

ฉัตรบอกการตอบรับจากลูกค้าต่างประเทศที่มีต่อผลงานของเธอ โดยมี “แต้มต่อ” สำคัญคือธุรกิจเดิมของครอบครัวที่ค้าขายพลอยและอัญมณีมานาน ทำให้ได้เปรียบในเรื่องต้นทุน สามารถทำราคาที่แข่งขันได้ บวกกับความสามารถส่วนตัวเรื่องการดีไซน์ ช่วยสร้างผลงานที่แตกต่าง แปลกใหม่ สะดุดใจคนรักจิวเวลรี่ สำคัญกว่านั้น คือการจับตลาดได้ถูกกลุ่ม นั่นคือ คนรักหินสี หินนำโชค ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีอยู่ และมีแต่จะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ

“ขอแค่ออกแบบให้ถูกใจ ถูกตลาด ถูกกับกลุ่มเป้าหมาย และราคาเป็นไปได้ ก็ประสบความสำเร็จได้” เธอบอกสูตรธุรกิจ

งานของฉัตรจิวเวลรี่ เน้นกลุ่มผู้หญิงทำงานและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่ชอบความแตกต่าง โดยผลงานมีหลายคอนเลคชั่น ตั้งแต่การดีไซน์ที่สวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงผลงานที่เป็น “มาสเตอร์พีซ” ไว้ใส่ออกงานเก๋ๆ ไม่ซ้ำใครในราคาขายตั้งแต่หลักร้อยไปจนหลักพัน ส่วนชิ้นพิเศษก็ขายกันที่หลักหมื่นบาท สนองลูกค้าที่เป็น OEM ประมาณ 20% ส่วนอีก 80% ขายในแบรนด์ฉัตรจิวเวลรี่

“ขายสินค้านี้กับคนที่มีความเชื่อจะเข้าใจง่ายกว่า อย่างพอเห็นเขาจะรู้ทันทีว่า อันนี้ไหมดำ อันนี้ลาพีส เพราะเขาเคยใช้อยู่แล้วแต่เป็นรูปแบบที่หาได้ทั่วๆ ไป ซึ่งพอมาเจอของเราก็อยากใส่เพราะเป็นรูปแบบที่ไม่ไปชนกับคนอื่น ส่วนลูกค้าใหม่ที่ไม่รู้เรื่องหินมาก่อนเลย เขาก็ชอบเพราะดีไซน์ ยิ่งพอรู้ความหมาย ก็ยิ่งเข้าใจและอยากใช้มากขึ้น”

เธอบอกโอกาสที่เกิดจากการจับความเชื่อ มานำเสนอให้เป็นของใหม่ที่แตกต่าง และเข้าใกล้ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้น แม้บางคนอาจปรามาสว่า นี่ก็แค่แฟชั่นที่ “ฉาบฉวย”  แต่เธอกลับยังเชื่อมั่นว่า ธุรกิจนี้ “ยั่งยืน” ได้

“พอพูดถึงแฟชั่นคนชอบมองเป็นของฉาบฉวย แต่สิ่งที่ตัดความกังวลไปได้เลยคือ คนเราอย่างไรก็อยากมีเครื่องประดับสักชิ้นติดตัว แต่ขอให้เป็นอะไรที่เขารู้สึกซื้อได้ ดีไซน์โอเค ซึ่งเชื่อว่ายังมีลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ เพียงแต่ในตลาดอาจยังไม่มีใครนำเสนอสิ่งใหม่ให้เขาได้มีทางเลือก ซึ่งถ้าตอบโจทย์ได้ เขาก็จะกล้าใช้จ่ายกับเรื่องนี้มากขึ้น” เธอบอก

มีประสบการณ์จากแฟชั่นดีไซน์ แต่การทำจิวเวลรี่ไม่ได้ง่าย เธอบอกว่า ต้องผ่านการลองผิดลองถูก เรียนรู้จากการสูญเสีย และความผิดพลาด จนสามารถหาทางลดความสูญเสีย แล้วผลิตผลงานที่ทำราคาให้อยู่ในจุดที่แข่งขันได้ และแม้ตลาดเครื่องประดับหินสีจะมีคนทำอยู่มากมาย แต่สำหรับเธอ “แข่งกับตัวเอง” สำคัญที่สุด

“จากที่เคยทำงานดีไซน์มาตลอด จึงเข้าใจดีว่า ตลาดนี้การแข่งขันสูงมาก แต่เราจะเน้นพัฒนาตัวเองมากกว่า โดยทำของที่สวย ในราคาจับต้องได้ การใช้งานคุ้มค่า และรักษาคอนเซ็ปต์ของแบรนด์เอาไว้ พอคนเห็นอะไรที่เป็นธรรมชาติเขาจะนึกถึงเรา ถ้าชอบความพลิ้วไหว หรืออยากใส่หินธรรมชาติในรูปแบบใหม่เขาก็จะกลับมาหาเรา และพัฒนาของใหม่ๆ อยู่ตลอด เพื่อให้ลูกค้าเก่ายังคงอยู่ และมีกลุ่มใหม่ติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ” เธอสะท้อนแนวคิด

ในแผนธุรกิจของฉัตรจิวเวลรี่ ยังเน้นทำตลาดส่งออกเป็นหลัก แม้ที่ผ่านมาจะเคยไปออกงานแฟร์ที่กรุงแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี และมีคนหอบหิ้วไปขายที่ เดนมาร์ก มาแล้วบ้าง แต่เธอย้ำว่า ตลาดหลักยังเป็นเอเชียที่มีความเชื่อเรื่องหินมงคล และชอบงานปังๆ มากกว่าทางฝั่งยุโรป ขณะที่แผนปีนี้ก็อยากเปิดตลาดในไทยมากขึ้นด้วย

ระหว่างทางของการเดินตามแผน คือมุ่งทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยยังเน้นงานที่เป็นหินธรรมชาติ หรือหินชนิดอื่นๆ เพียงแต่อาจสื่อสารในรูปแบบอื่นโดยไม่จำกัดแค่เครื่องประดับเท่านั้น เช่น อาจเป็นเครื่องประดับหินสีที่อยู่บนกระเป๋า  เสื้อผ้า รองเท้า หรือไปประกอบกับผลิตภัณฑ์แฟชั่นตัวอื่น เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับแบรนด์ฉัตรได้มากขึ้น

อนาคตยังมีความท้าทายรออยู่รอบด้าน แต่สิ่งหนึ่งที่จะยืนยันกับทุกคนได้ คือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอคนนี้ก็ไม่มีวันทิ้งความฝันและ Passion ของตัวเองไปได้

                ..............................................................

Key to success

ออกแบบธุรกิจสไตล์ “CHAT Jewelry”

๐ เริ่มต้นธุรกิจด้วยความรู้ ความเข้าใจ

๐ ใช้จุดแข็งเรื่องงานดีไซน์ ไปสร้างความต่าง

๐ ทำหินมงคล ในรูปลักษณ์ใหม่ เพิ่มความน่าสนใจ

๐ ใช้ความได้เปรียบเรื่องต้นทุน ตั้งราคาที่จับต้องได้

๐ พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด แข่งกับตัวเองสำคัญที่สุด

๐ ชีวิตอาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่ต้องไม่ทิ้ง Passion ในหัวใจ