'อรรชกา' คาดปีหน้าการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 8-9%

'อรรชกา' คาดปีหน้าการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 8-9%

"อรรชกา" รมว.อุตสาหกรรม คาดการลงทุนภาคเอกชนปีหน้าขยายตัวดีขึ้น คิดเป็น 8-9% ต่อเนื่องไปปี 2560

นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ปาฐกถาพิเศษ “ยกระดับอุตสาหกรรมไทย เพิ่มขีดการแข่งขันระยะยาว” โดยเชื่อมั่นว่าปีหน้าการลงทุนของผู้ประกอบการเมื่อเทียบกับปีนี้จะขยายตัวดีขึ้นคิดเป็นร้อยละ 8-9 จะต่อเนื่องไปปี 2560 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ และด้วยอัตราเร่งที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องนี้น่าจะช่วยให้ประเทศไทยเติบโตขึ้นจนสามารถหลุดพ้นจากการติดกับดักประเทศรายได้ปานกลาง โดยขณะนี้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีมาตรการเร่งรัดโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนไปแล้วให้เดินหน้าลงทุนจริง

นางอรรชกา กล่าวว่า การลงทุนของต่างชาติในประเทศไทยไม่เคยชะงักลง เห็นได้จากภาคการผลิตของไทยไม่เคยได้รับผลกระทบจากการก่อการร้ายหรือการเมือง และนักลงทุนเองโดยเฉพาะนักลงทุนรายใหญ่ ยิ่งมองการณ์ระยะยาวมากกว่า ประกอบกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจะยิ่งอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนมากขึ้น ต้นทุนค่าขนส่งก็จะลดลงหากมีการพัฒนาระบบราง

นางอรรชกา กล่าวว่า ในช่วงปี 2544-2549 ประเทศไทยเคยมีอัตราการเติบโตการลงทุนคิดเป็นร้อยละ 9 ต่อปี ซึ่งขณะนั้นผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โตร้อยละ 5.3 อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี ค.ศ. 2549-2557 อัตราการเติบโตของการลงทุนลดลงเหลือเพียงร้อยละ 2 เท่านั้น ขณะที่จีดีพีประเทศโตร้อยละ 3.4 อีกทั้งสัดส่วนเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ที่เข้ามาในกลุ่มอาเซียนเข้ามายังประเทศไทยก็ลดลงจากที่เคยอยู่ในระดับร้อยละ 31 ของเงินทั้งหมดลดลงเหลือเพียงร้อยละ 20 เท่านั้น หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 6 ต่อปี

นางอรรชกา ยอมรับว่า อุตสาหกรรมปีนี้ภาคส่งออกชะลอลงร้อยละ 5 ตัวเลขระดับเดียวกันกับสหรัฐ ซึ่งสถานการณ์นี้ นับว่ายังดีกว่าหลายประเทศที่ติดลบตัวเลข 2 หลัก อย่างไรก็ตาม สินค้าอุตสาหกรรมหลายตัวของไทยที่ส่งไปขายต่างประเทศยังไปได้ดี เช่น กลุ่มยานยนต์ สัดส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สินค้าอุตสาหกรรมไทยยังมีโอกาสขยายตัวโดยเฉพาะเมื่อภาคอุตสาหกรรมไทยเร่งปรับโครงสร้างช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันสูงขึ้น ทั้งในส่วนอุตสาหกรรมที่มีอยู่แล้วและอุตสาหกรรมใหม่ที่จะเข้ามาลงทุน เช่น โรบอตที่ปัจจุบันประเทศไทยนำเข้าปีละหลายแสนล้านบาท อุตสาหกรรมอากาศยานไทยที่ประเทศไทยมีโอกาสจะเป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานประจำภูมิภาคนี้ ซึ่งอุตสาหกรรมยานยนต์ยังมีศักยภาพที่จะต่อยอดไปผลิตชิ้นส่วนอากาศยานได้ ซึ่งจะช่วยให้ได้มูลค่าเพิ่มที่สูงกว่ามาก

นอกจากนี้่ ทางด้านการแพทย์ นอกเหนือจากด้านบริการยังมีภาคการผลิต เช่น เครื่องมือแพทย์ก็มีโอกาสเช่นกั้น จึงจำเป็นที่ผู้ประกอบการในประเทศไทยจะต้องหาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เข้ามาเสริม ขณะที่ภาครัฐจะเร่งชักชวนนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน