รมต.สำนักนายกฯลงพื้นที่ติดตามเขตเศรษฐกิจพิเศษ

นายสุรพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษระดับพื้นที่ ได้เดินทางมาติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานขับเคลื่อนเขตเศรษฐกิจพิเศษ ณ จังหวัดสระแก้ว โดยมีนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พลตรีสุริยา ปาวรีย์ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสระแก้ว หัวหน้าส่วนราชการ/ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง

นายสุรพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้มาติดตามดูการขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษว่ามีปัญหาเรื่องใดบ้าง ทั้งปัญหาที่ดิน การลงทุนขนาดใหญ่ และเรื่องต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของจังหวัดสระแก้ว สำหรับปัญหาเรื่องที่ดินพบว่าตอนนี้ที่ดินของเอกชนทั้งในพื้นที่ประกาศเขตเศรษฐกิจพิเศษมีการปั่นราคาสูงมาก ในส่วนของที่ของรัฐ 3 แปลง ที่ขึ้นทะเบียนเป็นที่ราชพัสดุในเขตตำบลป่าไร อำเภออรัญประเทศ สำหรับแปลงที่ยังมีปัญหา ตั้งอยู่หมู่ 1 ตำบลป่าไร และหมู่ 4 ตำบลบ้านใหม่หนองไทร อำเภออรัญประเทศ เนื้อที่ 1,365 ไร่ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยกองกำกับการตำรวจตระเวณชายแดนที่ 12 อรัญประเทศได้ขอใช้พื้นที่อยู่ ยังไม่ได้รังวัดกำหนดเขตที่แน่นอน ซึ่งตนจะได้เร่งรัดไปยัง สตช.ให้เร่งดำเนินการร่วมกับสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ ส่วนเรื่องผังเมืองรวมที่ยังไม่ชัดเจนเพราะบางพื้นที่กำหนดให้เป็นที่เกษตรกรรมไม่ได้กันไว้เพื่ออุตสาหกรรม จึงไม่สามารถนำมาพัฒนาได้ ก็จะรับไปคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

สำหรับเรื่องด่านชายแดนถาวรที่จะเปิดใหม่เพื่อลดความแออัดของด่านคลองลึกนั้น นายกรัฐมนตรีได้มีการพูดคุยกับทางผู้บริหารกัมพูชาบอกว่าจะพัฒนาบ้านสตรึงบท นายกรัฐมนตรีจึงขอให้พัฒนาด่านใหม่ที่บ้านหนองเอี่ยน ตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศ ส่วนที่ป่าไร่ก็ยังดำเนินการอยู่แต่ให้น้ำหนักมาที่บ้านหนองเอี่ยนมากกว่า แม้ว่าพื้นที่จะเป็นที่ลุ่มต่ำ ขวางทางน้ำ ก็จะต้องหาวิธีการพัฒนาให้คุ้มกับผลประโยชน์ที่ได้รับ ซึ่งจากการพูดคุยกับผู้บริหารหน่วยงานยังไม่มี Master Plan พื้นที่ทำให้ขับเคลื่อนลำบาก เรื่องนี้จะเสนอนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ทางจังหวัดสระแก้วเป็นเจ้าภาพหลักทำ Master Plan โดยจะต้องเชิญหน่วยงานและภาคเอกชนทั้งด้านความมั่นคง สิ่งแวดล้อม ชลประทาน อุทกภัย ให้เป็นภาพใหญ่ของพื้นที่ก่อนที่จะไปพัฒนาต่อไป โดยต้องไม่ให้เกิดความขัดแย้งในพื้นที่ และจะต้องหารือกับฝั่งกัมพูชาเรื่องการจัดการน้ำด้วย เพื่อให้ได้ประโยชน์ื้สองฝ่าย

“ในเรื่องเปิดด่านใหม่ที่บ้านหนองเอี่ยนที่กัมพูชาขอมา เราก็อาจต้องต่อรองกังกัมพูชาให้เปิดด่านที่บ้านป่าไร่ด้วย แม้ว่าป่าไร่จะเป็นพื้นที่ทับซ้อนแต่ทำให้เป็นพื้นที่พัฒนาคู่ขนานร่วมกันสองประเทศ ในส่วนของปัญหาที่ดินจังหวัดอาจดูภาพรวมอีกรอบ ถ้าจำเป็นจะประกาศพื้นที่เพิ่มอย่างที่ตำบลบ้านใหม่หนองไทรก็ต้องเสนอนายกรัฐมนตรี” นายสุรพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

สำหรับเรื่องการลงทุนขนาดใหญ่ในพื้นที่ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการประชุม กนพ.เมื่อ 25มิย. ได้มีการเสนอว่าจังหวัดสระแก้วจะมีการมาลงทุนกว่า 1 หมื่นล้านบาทแต่ติดขัดเรื่องข้อกฏหมาย จึงได้มอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปดำเนินการเรื่องโรงงานอ้อยและน้ำตาล โดยให้ศึกษาและมองรอบด้านก่อนที่จะเสนอเข้า กนพ.ในครั้งหน้า ซึ่งตนเองได้มอบหมายให้อุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้วชี้แจงความคืบหน้าแล้วเสนอเรื่องขึ้นไป เนื่องจากนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเรื่องชาวไร่อ้อยมาก อยากให้แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริง

ด้าน นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ตอนนี้จังหวัดสระแก้วประกาศพื้นที่ที่จะพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษใน 4 ตำบล 2 อำเภอ เนื้อที่ 2 แสนกว่าไร่ และกำลังพิจารณาว่าจะประกาศเพิ่มตำบลบ้านใหม่หนองไทรเพิ่มอีก 19,000 ไร่ แต่ถึงจะไม่ประกาศราคาที่ดินก็ขยับขึ้นไปแล้ว โดยตนเองมองว่าถ้าจะประกาศเพิ่มอีก การลงทุนและผังเมืองจะกระจาย อาจจำเป็นต้องนำร่องในพื้นที่ที่มีอยู่ก่อน สำหรับนักลงทุนขนาดใหญ่ที่มีที่ดินอยู่แล้ว แต่ไม่อยู่ในพื้นที่ประกาศ นายกรัฐมนตรีบอกว่าถ้าเป็นการมาลงทุนในพื้นที่จริงก็พร้อมที่จะประกาศเพิ่มได้

ด้านผู้แทนกองกำลังบูรพา หน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ กล่าวว่า ที่บ้านหนองเอี่ยนมีความชัดเจนเรื่องแนวเขตแดน มีแนวร่องน้ำ ไม่ต้องอ้างสิทธิ์ซึ่งกันและกัน ส่วนที่บ้านป่าไร่หลักเขตที่ 48-49 ยังไม่มีความชัดเจน เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ของทั้งสองประเทศ จึงต้องใช้ MOU43 ที่ตกลงกันว่าจะไม่ดำเนินการใดใดในพื้นที่ดังกล่าว แต่ถ้าทั้งสองฝ่ายไม่ต้องมามองว่าเป็นพื้นที่ของใคร ระดับนโยบายของสองประเทศไปคุยกันและพัฒนาคู่ขนานร่วมกันก็น่าจะได้ประโยชน์ทั้งคู่

นายสินศักดิ์ ตวงหิรัญวิมล ผู้ช่วยนายด่านศุลกากรอรัญประเทศ กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลที่แล้วได้มอบหมายให้สร้างด่านชายแดนขึ้นที่บ้านหนองเอี่ยน โดยกรมศุลกากรได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทำการศึกษาวิจัยก่อสร้างอาคารเฉพาะด่านศุลกากร เพื่อหลีกเลี่ยงน้ำท่วม งบประมาณ 1,300 ล้านบาท โดยงวดแรก 250 ล้านบาท ได้นำไปพัฒนาที่ด่านป่าไร่ คาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จเดือนตุลาคม 2558 สำหรับการเปลี่ยนมาสร้างที่บ้านหนองเอี่ยน จะมีปัญหาที่ดินราคาสูงขึ้นมาก ไม่สามารถจัดหาที่ดินได้

นายบำรุง ล้อเจริญวัฒนะชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า อยากให้ภาครัฐชี้ให้ชัดว่าจะพัฒนาที่ด่านไหนเป็นอันดับแรก ถ้ากัมพูชาขอที่จะพัฒนาด่านหนองเอี่ยน ไทยก็น่าจะขอไปเป็นที่บ้านป่าไร่บ้าง ภาคเอกชนเห็นว่าควรเปิดทั้ง 2 ด่านเลย ยังไงประเทศก็ได้ประโยชน์อยู่แล้ว