"พลอย เซ่" วิถีซัคเซส ของเด็กนอกคอก

"พลอย เซ่" วิถีซัคเซส ของเด็กนอกคอก

ครีเอทีฟดีไซเนอร์เลือดใหม่ ผู้นิยามตัวเองว่าเป็น“คนสร้างภาพ"เผยวิธี"แหกคอก"เพื่อออกแบบชีวิตที่ใช่ ด้วยสองมือ

“พลอย เซ่” หรือ พลอย ลุมทอง คือ เจ้าของสตูดิโอออกแบบ “C’est Design” (เซ่ ดีไซน์) กิจการของคนรุ่นใหม่ที่ตกผลึกจากความฝันและประสบการณ์ การกระโดดออกนอกคอก ลงมือทำและไม่ล้มเลิก จนมามีธุรกิจของตัวเองในวัยไม่ถึง 30

ชีวิตนอกคอกในแบบเซ่ ไม่ได้เริ่มต้นเมื่อเรียนจบ แต่เธอเลือกทางเดินของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก มาดูกันว่าในวัยไม่ถึง 20 เด็กหญิงเซ่ทำอะไรกับชีวิตไปบ้าง

เธอคือลูกแม่ค้า ที่บ้านเปิดร้านขายผ้าอยู่ที่จตุจักร ขณะเด็กคนอื่นมีเวลาวิ่งเล่นในวันหยุด ได้สนุกกับทุกเทศกาล แต่การเล่นของเซ่ และความสนุกในแบบเซ่ ก็คือ ช่วยงานที่ร้าน

“เซ่ รู้สึกโชคดีมาก ที่ไม่ได้เล่นในแบบที่เด็กคนอื่นเล่น เซ่เล่นขายของ ซึ่งเป็นการเล่นกับชีวิตจริง ก็ไม่รู้สึกเสียดายหรือขาดอะไรเลยในวัยเด็ก เพราะหลายอย่างที่ทำ ทุกวันนี้จะทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว ยิ่งโตขึ้น ความรับผิดชอบยิ่งมากขึ้น เลยรู้สึกว่า นั่นแหล่ะคือช่วงเวลาแห่งการ ‘เล่น’ ที่คุ้มค่ามากๆ สำหรับเซ่”

นอกจากการเล่นขายของ เซ่ ยังเป็นนักกิจกรรมตัวยง ในหนังสือ “เด็กนอก/คอก” ผลงานเขียนของเธอ เซ่ บอกว่า ‘เวลาที่ใช้ไปกับการค้นหาตัวเอง ไม่ใช่เวลาที่สูญเปล่า’ และเธอก็เลือกเติมเต็มความว่างเปล่านั้น โดยการลองทำ “ทุกอย่าง” ไม่ละทิ้งในสิ่งที่ชอบแม้แต่เรื่องเดียว ซึ่งผลจากการเล่นในครั้งนี้ ทำให้สังคมได้รู้จัก “เด็กหญิงเซ่” มากขึ้น

เธอคือเจ้าของผลงานเครื่องปัดแมลงวันไฟฟ้าและแชมพูสมุนไพรที่ได้ออกรายการ “ซุเปอร์จิ๋ว” ทำนิตยสารทำมือ ตอนเรียน ม.ปลาย จนได้รับรางวัล SCBS Young Star Investor ประกวดแข่งขันวาดภาพ เข้าค่ายคอมพิวเตอร์โอลิมปิก ฝึกงานเป็นเลขา กราฟฟิคดีไซเนอร์ เพ้นท์เสื้อขายในงานการกุศล รับสอนคณิตศาสตร์ตามบ้าน ฯลฯ

ทั้งหมดที่ว่ามา เกิดขึ้นก่อนเธออายุ 20!

หลังเข้าเรียนมหาวิทยาลัยดังอย่าง “จุฬาฯ” ได้เพียงปีเดียว เธอก็ตัดสินใจ “แหกคอก” ลาออกไปค้นหาตัวเองที่ ปารีส ประเทศฝรั่งเศส

แผนออกนอกคอกครั้งใหญ่ ไม่ได้ทำให้เธอหมดอนาคตทางการศึกษา ทว่ากลับไปคว้าเกียรตินิยมด้านการออกแบบ จาก มหาวิทยาลัย EPSAA ณ กรุงปารีส ได้สำเร็จ หนึ่งบทเรียนของเด็กนอกคอกบอกเราว่า แหกคอกได้ แต่อย่าเลิกเรียน เพราะสิ่งที่ได้จากรั้วมหาวิทยาลัยนั้น ไม่ใช่กระดาษ แต่เป็นความรู้ มิตรภาพ การก้าวผ่านอุปสรรค และการเรียนรู้อีกสารพัด ที่จะสัมผัสได้ด้วยตัวเอง

ที่สำคัญสังคมไทย หากเรียนไม่จบ พูดเลย! แต้มต่อจะน้อยมาก

หลังเรียนจบ เธอกลับเข้าคอกครั้งแรก ด้วยการเป็น “มนุษย์เงินเดือน” ตำแหน่งครีเอทีฟโฆษณา บริษัท BBDO Bangkok และ MRM Worldwide เก็บประสบการณ์สักพักก่อนแหกคอกอีกครั้ง มาเป็นนักออกแบบอิสระ ซึ่งก็สร้างผลงาน “ไม่ธรรมดา” เรียกว่า ระดับรางวัล Design Excellent Award (DEMARK) 2012 ก่อนออกจากความอิสระมาเปิดสตูดิโอออกแบบของตัวเอง พร้อมๆ กับงานไม่ประจำ อีกเพียบ ทั้งเป็นวิทยากรพิเศษด้านความคิดสร้างสรรค์ การสร้างแบรนด์ และการสร้าง Portfolio ที่ดีให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัย

การออกจากงานประจำ-ไม่ประจำ มาทำธุรกิจของตัวเอง สอนหัวใจสำคัญที่เรียก “การทำงานแบบมืออาชีพ” เธอบอกว่า สิ่งที่มืออาชีพต่างจากมือสมัครเล่นก็คือ ความรับผิดชอบ ทั้งในแง่ เวลา สัญญา และคุณภาพ โดยสูตรการเป็นเจ้าของกิจการในแบบเซ่ ก็แค่..

ทำงานหนัก ต้องนำเสนอ อย่ากลัวงานฟรี เต็มที่กับงานทุกชิ้น อย่าหยุดพัฒนา ตามหาโอกาส และ อดทน

“ออกมาทำธุรกิจเอง เหนื่อยกว่าเดิมหลายเท่า เคยถูกโกง ถูกหลอก ถูกด่า เจอมาหมด แต่ก็ไม่ได้เก็บมาคิดมาก เพราะทุกอย่างคือ บทเรียน เซ่ยังเชื่อว่า คนดีๆ มีอีกเยอะ เราก็แค่ออกไปหาคนแบบนั้น ซึ่งถึงจะเจ็บมาบ้าง แต่ไม่คิดเลิกความตั้งใจที่จะทำงานแบบเต็มร้อยทุกครั้ง”

เธอบอกหัวใจของการทำงาน ที่ทุกอย่างต้อง “เต็มร้อย” โดยเรียกตัวเองว่าเป็น “คนสร้างภาพ” เพราะหลายครั้งที่ลูกค้ามาหาพร้อมกับความฝันที่เป็นแค่ไอเดียลอยอยู่ในอากาศ หน้าที่ของเธอก็คือจับอากาศนั้นมาทำให้เห็นเป็นภาพ ด้วยพลังความคิดสร้างสรรค์และงานออกแบบ

ถ้ามองทุกอย่างเป็นแค่ธุรกิจ เธอก็คงไม่ปฏิเสธทุกงานที่ให้เงิน แต่เซ่กลับบอกว่า สิ่งที่สำคัญไปกว่าเงินของลูกค้า ก็คือ การที่ลูกค้าคนนั้น รักและเห็นคุณค่าในงานของตัวเอง

“บางคนยื่นกระดาษให้แผ่นเดียว บอกไปทำยังไงก็ได้ ฉันมีเงินนะ แบบนี้เซ่จะไม่อยากทำ เพราะเขาไม่ได้ให้เกียรติงานของเขา งานที่เราทำไปเขาก็คงไม่ให้คุณค่าเช่นกัน แต่เซ่จะเลือกลูกค้าที่รักงานของเขา ให้เกียรติงาน มีไฟ และจริงใจ แบบนี้อยากทำให้และจะทุ่มเทมากๆ ด้วย”

ลูกค้าของเซ่มีตั้งแต่ เอสเอ็มอี ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ที่ยังใช้บริการมาอย่างต่อเนื่อง เธอบอกว่า การวัดความสำเร็จในการให้บริการ ก็คือ “ฟีดแบค” จากทั้ง ลูกค้า และลูกค้าของลูกค้า ง่ายๆ คือ ทุกคนต้อง แฮปปี้

“มีอีกจุดที่เซ่ไม่เหมือนดีไซเนอร์คนอื่น คือ ดีไซเนอร์มืออาชีพ ถ้าเขาเห็นว่าสิ่งที่ทำนั้นเวิร์ค หรือดีที่สุดอยู่แล้ว เขาจะไม่ปรับ แต่จะดันทุกทางเพื่อให้ลูกค้ายอมรับในงานนั้น แต่กับเซ่ บางครั้งถ้าลูกค้าขอจริงๆ แม้สำหรับเราอาจมองว่าไม่สวยนัก แต่เซ่ รู้สึกว่า ถ้าลูกค้าแฮปปี้ และคิดมาดีแล้ว ก็ยินดีเปลี่ยนให้นะ ก็เข้าใจ เพราะเขาต้องอยู่กับมันไปตลอด”

ธุรกิจของตัวเอง เริ่มเมื่อประมาณสองปีก่อน เป็นบริษัทเล็กๆ มีพนักงานประจำรวมฟรีแลนซ์ แค่เพียง 6 คน เธอบอกว่า ในอนาคตก็ยังอยากเป็นบริษัทเล็กๆ มีทีมงานไม่เกิน 10 คน แต่จะรับงานที่เป็นอินเตอร์มากขึ้น โดยมีฝันก้อนใหญ่คือ อยากเป็นบริษัทระดับท้อป 10 ของไทย ที่ผลิตงานป้อนตลาดโลก

“เซ่ มองระดับโลกไม่ใช่แค่ไทย ด้วยความที่ไอเดียทุกอย่างมาจากลูกค้า และเราเป็นคนสร้างภาพให้ ดังนั้นจะที่ไหนก็ทำได้ทั้งนั้น ขณะที่ต่างประเทศเอง เขาก็ไม่ได้มองว่า ประเทศไหนทำนะ แต่มองว่า งานที่ทำออกมานั้นดีตรงกับที่เขาต้องการหรือไม่ ซึ่งนั่นยังเป็นโอกาสสำหรับบริษัทคนไทย”

เซ่ บอกว่า ฝีมือนักออกแบบไทยเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก และหลายคนก็ประสบความสำเร็จเอามากๆ คนไทยเก่ง มีฝีมือ แต่ที่ยังเป็นจุดอ่อนอยู่บ้าง ก็คือเรื่อง “วินัย” ซึ่งเชื่อว่า ถ้าสามารถเติมให้เต็มได้ ก็พร้อม “ชนะ” ในทุกสนาม

วันนี้ชีวิตเด็กนอกคอก เดินทางมา 29 ปี เธอได้ลองทำอะไรหลายอย่าง จนกลายเป็นเจ้าของธุรกิจเหมือนที่ใครฝันไว้ เธอว่า สนุก แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน บางคนแม้เป็นพนักงานบริษัทแต่ก็เติบโตในสายงานได้ ฉะนั้นอยากให้ทุกคนเริ่มจาก การทำในสิ่งที่ชอบ เพราะไม่ว่าจะงานประจำ ไม่ประจำ หรือ ทำธุรกิจ เราก็จะมีความสุขได้ ถ้าเพียงเริ่มจากความชอบ

“เทรนด์เดี๋ยวนี้ ทุกคนมุ่งไปที่อยากรวย แทนที่จะมุ่งไปทำในสิ่งที่ตัวเองรัก เซ่ ไม่ได้แอนตี้ความรวยนะ แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายแรกที่เซ่ทำ เซ่เชื่อว่า ถ้าเราได้เริ่มทำงานจากความชอบ มุ่งมั่นในสิ่งที่ทำ งานนั้นก็จะออกมาดีและเป็นประโยชน์ สุดท้ายก็จะยกระดับประเทศของเราให้ดีขึ้นได้”

เธอบอกคุณค่าของการเริ่มจากความชอบที่ไม่ได้ส่งผลแค่คนทำ แต่ประเทศก็ได้ด้วย

สำหรับวิถีซัคเซสของเด็กนอกคอก เธอบอกว่า ให้สร้างงานด้วยใจ และหลงใหลในสิ่งที่ทำ มีวินัย มีมารยาท คำน้ำเน่ายังใช้ได้ดี คือ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด อดทน พรสวรรค์ก็ไร้ค่า หากขาดความพยายาม เป็นตัวของตัวเอง มีจุดยืน ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับคนอื่น ล้มเหลวได้ แต่อย่าล้มเลิก กล้าฝัน อย่าละทิ้งในสิ่งที่ชอบแม้แต่เรื่องเดียว

ที่สำคัญ “อย่ารอ” เพราะ เส้นบางๆ ที่กั้นระหว่างคนสำเร็จ กับคนทั่วไป ก็แค่ “คิดแล้วทำ” กับ “คิดแล้วไม่ได้ทำ” ก็เท่านั้น

...........................

Key to success

วิถีซัคเซส ของเด็กนอกคอก

๐ ชีวิตคือการเล่น ลองทำทุกอย่างด้วยความสนุก

๐ แหกคอก แต่ต้องเรียนให้จบ จะได้มีแต้มต่อ

๐ ทำงานแบบมืออาชีพ รักษาเวลา สัญญา คุณภาพ

๐ ทำสิ่งที่แตกต่าง เป็นประโยชน์กับคนอื่น

๐ พรสวรรค์ก็ไร้ค่า หากขาดความพยายาม

๐ อย่ารอ จงลงมือทำ และทำด้วยสุข