ขาดทุนข้าวโยงถอดถอน'ยิ่งลักษณ์'

ขาดทุนข้าวโยงถอดถอน'ยิ่งลักษณ์'

ป.ป.ช.เตรียมนำผลสรุปปิดบัญชีขาดทุนจำนำข้าว แถลงเปิดคดีถอดถอน "ยิ่งลักษณ์" ยันสร้างความเสียหายมหาศาล

การเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในโครงการอุดหนุนราคาข้าวเปลือก โดยเฉพาะตัวเลขการขาดทุนจากโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังกลายเป็นประเด็นการเมืองร้อนแรงขึ้นมา เนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินคดีถอดถอนและอาญา

สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)อยู่ระหว่างการพิจารณาถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ ซึ่งหากพบว่ามีความผิดต้องเว้นวรรคการเมือง 5 ปีโดยจะเริ่มเปิดพิจารณาคดีในวันที่ 28 พ.ย.นี้ และอัยการสูงสุดกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กำลังพิจารณาร่วมกันว่าจะส่งฟ้องคดีอาญาหรือไม่

เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวได้แถลงปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ปี 2547 ถึงวันที่ 22 พ.ค.2557 มีผลการขาดทุน 6.8 แสนล้านบาท โดยเป็นของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์5.18 แสนล้านบาท ส่วนที่เหลือ 1.64 แสนล้านบาทเป็นของรัฐบาลก่อนหน้านั้น

นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวป.ป.ช.จะนำข้อมูลดังกล่าวไปขยายผลต่อ โดยจะนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการแถลงเปิดคดีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กรณีการถอดถอน นางสาวยิ่งลักษณ์ฐานละเลยและไม่ยับยั้งความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว เพื่อยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวมีการขาดทุนเป็นจำนวนมาก

"ขณะนี้คณะกรรมการป.ป.ช.ยังไม่มีมติว่า จะส่งใครเป็นผู้แถลงเปิดคดีในส่วนของป.ป.ช. แต่คาดว่าน่าจะเป็นนายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. และนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการป.ป.ช. ในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบสำนวนคดี"

นอกจากนี้จะนำข้อมูลของประธานอนุกรรมการปิดบัญชีฯไปใช้เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาคดีไต่สวนการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ เป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย

ขีดเส้นถก"อสส.-ปปช."ครั้งหน้าต้องสรุปคดี

นายปานเทพ กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีที่คณะทำงานร่วมป.ป.ช.และอัยการสูงสุด ยังเห็นไม่ตรงกันในเรื่องความไม่สมบูรณ์สำนวนคดีอาญาในโครงการรับจำนำข้าว ว่าขณะนี้คณะทำงานทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้กำหนดว่าจะประชุมคณะทำงานต่อไปเมื่อใด แต่คาดว่าการประชุมคณะทำงานนัดหน้าจะเป็นครั้งสุดท้าย ควรจะได้ข้อสรุปว่า อัยการสูงสุดจะส่งฟ้องคดีรับจำนำข้าวให้ตามที่ป.ป.ช.ยื่นไปหรือไม่ "ป.ป.ช.ยืนยันว่าจะไม่มีการสอบปากคำพยานบุคคลใดๆเพิ่มเติมให้อีกแล้ว เพราะเห็นว่าหลักฐานที่ป.ป.ช.ไต่สวนมา มีความครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว หากประชุมนัดหน้า คณะทำงานฝ่ายอัยการสูงสุดยังไม่มีคำตอบชัดเจนว่าจะส่งฟ้องคดี ทางป.ป.ช.ก็จะเป็นผู้ฟ้องคดีดังกล่าวเอง"

"สุภา"ชี้เหตุรัฐบาลก่อนยิ่งลักษณ์ขาดทุนน้อย

ด้าน น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช ซึ่งเคยเป็นประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชี กล่าวว่าผลการขาดทุนก่อนหน้ารัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ถือเป็นจำนวนเล็กน้อย เนื่องจากมีเพดานที่ให้ขาดทุนได้ประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท

"โครงการรับจำนำข้าวของ 4 รัฐบาลก่อนหน้านั้น มีการจำกัดการรับจำนำข้าวจากเกษตรกรไม่ทุกเมล็ด"

คาดสอบทรัพย์สิน5รมต.เสร็จต้นปีหน้า

นอกจากนี้ ป.ป.ช.อยู่ระหว่างการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินเชิงลึกของ 5 รัฐมนตรี คือ นางสาวยิ่งลักษณ์ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาลอดีตรองนายกฯ และรมว. พาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ นายยรรยง พวงราช อดีตรมช.พาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับนโยบายรับจำนำข้าว

นายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบฯ กล่าวว่าขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ และกำลังรอข้อมูลจากธนาคารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ การตรวจสอบคืบหน้าไป 80% แล้ว คาดว่าต้นปี 2558 น่าจะเสร็จสมบูรณ์

"เหตุที่การตรวจสอบล่าช้าเป็นเพราะการตรวจสอบไม่เร็วเหมือนการขายโอเลี้ยง การให้ความเป็นธรรมกับทุกคนถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพที่ ป.ป.ช.จะต้องคำนึงถึง และต้องให้ความสำคัญกับบุคคลที่ถูกตรวจสอบด้วย จะมาทำอะไรลวกๆ ไม่ได้ เพราะฉะนั้นความยุติธรรมหรือการอำนวยความยุติธรรมนับเป็นหัวใจของการทำงานของ ป.ป.ช. มันช้าไม่เป็นไร แต่ช้าแล้วเขาต้องได้รับความเป็นธรรม" นายณรงค์กล่าว

เมื่อถามว่าหากตรวจสอบพบว่ามีความร่ำรวยผิดปกติจะสามารถยึดทรัพย์สินให้ตกเป็นของแผ่นดินเลยได้หรือไม่ นายณรงค์ กล่าว ต้องเป็นไปตามกฎหมายยังตอบไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องก็ว่าไปตามกฎหมาย

ทนายยิ่งลักษณ์ตั้งข้อสงสัยตัวเลข

ด้าน นายพิชิต ชื่นบาน คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยและที่ปรึกษากฎหมายนางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่าการปิดบัญชีของคณะอนุกรรมการชุดนี้ ถือเป็นการปิดบัญชีตามเอกสาร ซึ่งข้อสรุปตัวเลขก่อนหน้านี้ทางปลัดกระทรวงเองในฐานะประธาน ก็ออกมายอมรับว่าตัวเลขบางส่วนยังไม่ตรงกัน เพราะยอดสินค้าข้าวที่ขายไปได้ในแต่ละงวดของอคส.และอตก. เมื่อรวมกันแล้วยังไม่ตรงกับยอดสต็อกข้าวที่เหลืออยู่

"แต่จู่ๆ สามารถนำข้อมูลที่คลาดเคลื่อนไม่สมบูรณ์ มาแถลงปิดบัญชีได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก"

นายพิชิต กล่าวว่าไม่แปลกใจที่ตัวเลขการขาดทุนของรัฐบาลยิ่งลักษณ์จะออกมาสูงมาก เนื่องจากคณะอนุกรรมการฯ ใช้วิธีการคำนวณมูลค่าสินค้าคงเหลือ ด้วยการหักค่าเสื่อมสินค้าในแต่ละปีเข้าไปด้วย ซึ่งตามหลักการแล้วเรื่องนี้ไม่สามารถกระทำได้ เพราะสินค้าเกษตรนั้นมีวิธีคิดค่าเสื่อมแตกต่างกับสินค้าทั่วไป ที่สามารถลงบัญชีหักค่าเสื่อมเพื่อลบออกจากต้นทุน เนื่องจากการปิดบัญชีโครงการที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตร มีความจำเป็นต้องพิจารณาใช้หลักเกณฑ์ให้สอดคล้องกับการทำบัญชีเฉพาะ ซึ่งจะรับรู้กำไรขาดทุนได้ก็ต่อเมื่อมีการขายหรือมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าแต่ไม่สามารถหักค่าเสื่อมเป็นรายปีแบบสินค้าปกติได้

"ผมมองว่าเรื่องนี้มีการจงใจที่จะสร้างตัวเลขให้สูงกว่าความเป็นจริง ซึ่งจะส่งผลต่อรูปคดี ที่ได้มีการฟ้องร้องว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์บริหารราชการผิดพลาดทำให้เกิดความเสียหาย"

"กิตติรัตน์"โต้ตัวเลขขาดทุนหวังดิสเครดิต

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่าข้อมูล 5 แสนล้านยังมีความจริงที่ต้องทราบอยู่อีก 3 เรื่องสำคัญ

1.ตัวเลขทางบัญชีนี้ยังคงใช้ข้อสมมุติด้านราคากับสินค้าคงคลัง ซึ่งก็ย่อมเป็นที่คาดเดาได้ไม่ยากว่าคงใช้ตัวเลขราคาที่ต่ำตัวเลขทางบัญชีเมื่อขายสินค้าคงคลังจนหมด ย่อมจะน้อยกว่านี้ ยกเว้นไม่มีฝีมือในการขายหรือมีการทุจริตเอื้อเฟื้อราคาให้กับคนซื้อข้าวที่เป็นพรรคพวกกัน ซึ่งก็ชักจะมีกลิ่นออกมาแล้ว เมื่อผู้รับผิดชอบออกมาพูดคนละทีสองทีเรื่องข้าวด้อยคุณภาพ เพื่อเปิดทางให้ซื้อขายกันในราคาต่ำ

2.โครงการรับจำนำข้าวดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 ได้จัดงบประมาณอันเหมาะสมชดเชยให้กับโครงการฯ ในปีงบประมาณ 2555/56 ไปแล้วตามสมควร ผลสุทธิจำนวนรวมคงค้างย่อมต่ำกว่าห้าแสนล้านที่อ้างถึงล่าสุดนี้ อย่างมีนัยสำคัญ ส่วนใครที่คิดว่ายังเป็นเงินที่สูงอยู่ดีก็ขอให้ตระหนักว่าโครงการนี้ช่วยเหลือกระดูกสันหลังของประเทศให้พอลืมตาอ้าปากได้มาแล้วถึง 3 ปี

3.รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ให้ความสำคัญกับวินัยการคลังอย่างเข้มงวด ภาระหนี้ที่นำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของโครงการฯ และรัฐบาลทำหน้าที่ค้ำประกันวงเงิน รวมกับการมีภาระหนี้สินทุกประดามี ทั้งของรัฐบาล และของรัฐวิสาหกิจ ได้จัดรวมอยู่ในภาระหนี้สาธารณะของประเทศอย่างครบถ้วน และควบคุมให้มีสัดส่วนตามกฎหมาย และกรอบวินัยการคลัง เมื่อเทียบกับยอดงบประมาณประจำปีและจีดีพีอย่างเข้มแข็งซึ่งเหตุผลที่เราทำเช่นนั้นได้ก็เพราะเรามุ่งมั่นในการลดยอดการขาดดุลการคลังอย่างต่อเนื่องทุกปีงบประมาณที่รับผิดชอบอยู่ และจัดการทั้งหนี้เก่าและหนี้ใหม่ให้มีแผนการชำระคืนที่ชัดเจน และปฏิบัติได้

"ขอให้กำลังใจรัฐบาลชั่วคราวนี้ ให้เข้มงวดกับวินัยการคลังของประเทศเช่นเดียวกับรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ อย่าเอาอย่างรัฐบาลก่อนๆที่ยกเพดานสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีขึ้นไปเมื่ออยากจะกู้เพิ่ม และขอส่งความปรารถนาดีมายังข้าราชการประจำทั้งที่เคยทำงานร่วมกับผมอย่างใกล้ชิดและไม่ใกล้ชิด ท่านเคยทำงานโดยไม่ต้องเอาใจนักการเมืองอย่างผมก็จริง แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปท่านก็อาจต้องเปลี่ยนไปบ้าง ผมพอเข้าใจ”นายกิตติรัตน์ ระบุ

หมอวรงค์คาดความเสียจริงสูงกว่า6.8แสนล.

ด้านน.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ผู้เกาะติดโครงการดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คส่วนตัว เช่นกันว่าตัวเลขขาดทุนตอกย้ำถึงความเสียหาย ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกฯและประธานคณะกรรมการนโยบานข้าว(กนข.) จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้

น.พ.วรงค์ ตั้งข้อสังเกตว่า ตัวเลขที่อนุปิดบัญชีประกาศออกมา เป็นการปิดบัญชี ณ วันที่ 22 พ.ค.2557 ซึ่งดูแล้วข้อมูลอาจจะไม่ทันเหตุการณ์ แม้มีการแถลงว่าจะปิดบัญชีอีกครั้ง ณ วันที่ 30 ก.ย.2557 เนื่องจากประชาชนได้รับรู้ข้อมูลการตรวจโกดังข้าวของ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุลรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาก่อนหน้านี้แล้ว จึงอยากรับทราบข้อมูลที่รวมความเสียหายเรื่องข้าวเหลือง ข้าวเสีย ข้าวปลอมปนจากการตรวจโกดังของท่าน ถ้ารวมการตรวจดังกล่าวความเสียหายจะสูงกว่านี้

น.พ.วรงค์ กล่าวว่า ข้อสังเกตถัดมาคือปริมาณสินค้าคงคลัง เนื่องจากการปิดบัญชีของอนุปิดบัญชี คิดตามเอกสารที่ องค์การคลังสินค้า(อคส.)และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.)ส่งข้อมูลมาให้ ทำให้สินค้าคงคลังมีข้าวเก็บสูงถึง 19.2 ล้านตัน ปริมาณตัวเลขดังกล่าวก็สูงกว่าความเป็นจริง ที่ม.ล.ปนัดดา ลงไปตรวจจริงมีข้าวเหลือประมาณ 18 ล้านตัน เท่ากับว่ามีความสูญหายเกิดขึ้น ดังนั้นความเป็นจริงแล้วความเสียหายจะสูงกว่านี้

น.พ.วรงค์ กล่าวว่า ประการสุดท้าย ไม่แน่ใจว่าอนุปิดบัญชี ได้นำหนี้ที่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ก่อไว้ หลังจากรับข้าวชาวนามา แต่ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายชาวนาได้ ซึ่งรัฐบาลนี้ต้องจ่ายอีก 9.3 หมื่นล้านบาท นำเข้ามารวมความเสียหายด้วยหรือไม่