'บีเคดี'รุกตลาดอสังหา'กัมพูชา'

บางกอก เดค-คอน เซ็นเอ็มโอยู ชิป หมง แลนด์ ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์จากกัมพูชา รับงานตกแต่งภายใน
นางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บางกอก เดค-คอน จำกัด (มหาชน) หรือ BKD ผู้รับเหมาตกแต่งภายในอาคาร ผลิตและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป ตามคำสั่งซื้อลูกค้า เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือทางธุรกิจ(เอ็มโอยู) กับ ชิป หมง แลนด์ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของกัมพูชา ในโครงการ The Park Land Sen Sok ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัยระดับพรีเมียมในกรุงพนมเปญ มูลค่างานตกแต่งภายในกว่า 1 พันล้านบาท เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ต้นปี 2558 - 2559 ซึ่งจะรับรู้รายได้ปีละ 50%
“สำหรับโครงการ The Park Land Sen Sok มีมูลค่าโครงการประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท การลงนามเอ็มโอยูในครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศครั้งใหญ่ของบริษัท และคาดหวังว่าบริษัทฯ จะได้รับความไว้วางใจจาก ชิป หมง แลนด์ ให้เข้าไปรับงานตกแต่งภายในกับโครงการอื่นๆ อีกในอนาคต เช่น โรงแรม ที่พักอาศัย ซึ่งโดยปกติแล้วมูลค่าโครงการของ ชิป หมง แลนด์ จะมากกว่า 2 พันล้านบาทขึ้นไป โดยบริษัท คาดว่าแต่ละโครงการเราจะได้งานมูลค่าประมาณ 10% ของมูลค่าโครงการ” นางนุชนารถ กล่าว
นางนุชนารถ กล่าวต่อว่า ภายหลังการเริ่มขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศในครั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในปี 2558 ไว้ที่ 10-20% โดยรายได้หลักจะมาจากโครงการที่กัมพูชา และที่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีหน้า หลังจากล่าช้าออกไปจากกำหนดการเดิมในปีนี้ มูลค่าโครงการหลักพันล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีโครงการรับตกแต่งภายในในส่วนของโรงแรม และเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ที่พม่า ซึ่งได้รับการชักชวนจากกลุ่มทุนของประเทศเกาหลีใต้ที่จะเข้าไปลงทุน มูลค่าของงานที่จะได้รับหลายร้อยล้านบาท
“ในปีนี้บริษัทได้มีการเจรจากับพันธมิตรในหลายประเทศ นอกเหนือจากกัมพูชา ยังมีอีกหลายประเทศที่อยู่ระหว่างการเจรจา เช่น ประเทศลาว พม่า ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ ซึ่งการเข้าไปรับงานในต่างประเทศนั้นมีกำไรขั้นต้นค่อนข้างดี คาดว่าจะมีกำไรขั้นต้นประมาณ 20% อีกทั้งการไปลงทุนในต่างประเทศยังได้รับประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่สามารถขอคืนได้ ทั้งในส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมไปถึงในส่วนของภาษีอากรหรือที่เรียกว่าภาษีมุมน้ำเงิน ประมาณ 0.6-0.7%” นางนุชนารถ กล่าว
ในส่วนของงานภายในประเทศ บริษัทฯ ได้ยื่นประมูลงานตกแต่งภายในรัฐสภาใหม่ให้กับบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ซึ่งเป็นผู้รับเหมาโครงการ โดยคาดว่าจะได้รับงานบางส่วน จากมูลค่าโครงการทั้งหมดประมาณ 1 พันล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีงานปรับปรุง ตกแต่งภายใน ที่จะทยอยประมูลอีกประมาณ 3 พันล้านบาท โดยบริษัทฯ คาดหวังว่าจะได้งานประมาณ 2 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันประมูลไปแล้ว 200 ล้านบาท และในเดือน ต.ค. นี้ ก็จะประมูลเพิ่มอีก 500 ล้านบาท
สำหรับในปี 2558 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ 1.3 พันล้านบาท เติบโตประมาณ 10% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1.1 พันล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้จากงานในมือที่มีอยู่มากกว่า 2 พันล้านบาท (ยังไม่รวมงานที่กัมพูชา) ทั้งนี้ในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ รายได้หลักจะมาจากโครงการของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มูลค่าประมาณ 620 ล้านบาท และ โรงแรมพลาซ่าแอทธินี ประมาณ 207 ล้านบาท







