SAPPE : เติบโตโดดเด่น

SAPPE : เติบโตโดดเด่น

SAPPE โดดเด่นมากกว่าตลาดเครื่องดื่ม - SAPPE มีส่วนแบ่งการตลาด Functional Drink Lady อันดับ 1

โดยในปี 2556 อยู่ที่ 35% จากมูลค่าตลาด Functional Drink 5,800 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ของเครื่องดื่ม Functional Coffee แบบผง ที่ 22% ของมูลค่าตลาด 1,900 ล้านบาท จากนวัตกรรมเครื่องดื่มที่โดดเด่นของ SAPPE ทำให้มียอดขายเติบโตเฉลี่ย 2 ปีที่ผ่านมา 29% มากกว่าตลาดเครื่องดื่ม Soft Drink ที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 7.5% และตลาด Functional Drink ที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 9.1%

ยอดขายตลาดต่างประเทศเติบโต - แบรนด์สินค้า SAPPE ได้เข้าตลาดต่างประเทศกว่า 64 ประเทศ สินค้าโดดเด่นได้แก่เครื่องดื่ม โมกุโมกุ วุ้นมะพร้าว และเครื่องดื่มส่วนผสมอโรเวล่า โดยมีสัดส่วนยอดขายส่งออกที่เพิ่มขึ้น 1H2557 ที่ 60% จากปี 2556 ที่ 48% โดยเป็นสัดส่วนในแถบเอเชียที่เติบโต เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ จีน และยุโรป และคาดจะเพิ่มขึ้นจากการเปิดตลาดประเทศใหม่ๆ ต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมายของ SAPPE เข้าสู่ Global brand บริษัทวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนส่งออกเป็น 70% และรายได้ 5,000 ล้านบาทภายใน 3 ปี

ขยายกำลังการผลิต 30% รองรับการเติบโต - SAPPE มีแผนขยายกำลังการผลิตจากเดิม 1 แสนตันต่อปี เป็น 1.3 แสนตันต่อปี งบลงทุน 270 ล้านบาท และมีแผนลงทุนผลิตขวด PET จาก 140 ล้านขวด เป็น 380 ล้านขวดต่อปี งบลงทุน 230 ล้านบาท โดยสามารถเริ่มผลิตได้ไตรมาส 2/2558 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถลดการจ้างการผลิต OEM ได้ และสามารถลดต้นทุนด้านการจ้างผลิตขวดเปล่า และแผนการย้ายโรงงานเก่าที่บางชันมายังโรงงานคลอง 13 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสินค้าและลดค่าใช้จ่ายการขนส่งได้อย่างมาก ซึ่งจะส่งผลให้อัตราทำกำไรที่เพิ่มขึ้น

คาดยอดขายจะเติบโตเฉลี่ย 3 ปี อยู่ที่ 19% - จากนวัตกรรม functional drink แบรนด์ที่ติดตลาดในประเทศและการเติบโตในตลาดต่างประเทศจากการหาพันธมิตรเพิ่มต่อเนื่อง รวมถึงการขยายช่องทางการจำหน่ายและการทำการตลาด โดยสำนักวิจัยทิสโก้คาดยอดขายเฉลี่ยเติบโตปีละ 19% (CAGR 3y) ปี 2557F อยู่ที่ 3,084 ล้านบาท และ ปี 2558F อยู่ที่ 3,544 ล้านบาท และคาดอัตรากำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ยปีละ 58% (CAGR 3y) โดยคาดอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นปี 2557F ที่ 38.5% จาก 33% เนื่องจากการขยายกำลังการผลิตเกิดการประหยัดขนาดการผลิต (economy of scale) และคาดอัตรากำไรสุทธิปี 2557F อยู่ที่ 14.0% จาก 7.2% จากการบริหารจัดการควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำนักวิจัยทิสโก้แนะนำให้ “ซื้อ” - โดยมีมูลค่าที่เหมาะสมปี’58 ที่ 36.50 บาท อ้างอิงวิธี PE ที่ 22x ด้วยวิธีอนุรักษนิยมโดยให้เท่ามูลค่า PEG เฉลี่ยอุตสาหกรรมเครื่องดื่มในประเทศ PEG 0.6X (EPS growth CAGR3y) โอกาส: 1) การขยายการตลาดต่างประเทศ 2) พฤติกรรมผู้บริโภคที่เน้นสุขภาพมากขึ้น ความเสี่ยง: 1) การแข่งขันที่รุนแรง 2) กฎหมายการนำเข้าสินค้าของต่างประเทศ 3) ภาษีสรรพสามิตรที่อาจจะได้รับผลกระทบ