'ไอร่าแคปปิตอล'ตั้งเป้าฮุบธุรกิจการเงิน

'ไอร่าแคปปิตอล'ตั้งเป้าฮุบธุรกิจการเงิน

"ไอร่า แคปปิตอล" เล็งเพิ่มขนาดสินทรัพย์แตะ 2 หมื่นล้านบาทภายใน 2 ปี หรือเพิ่มขึ้น 3 เท่า เตรียมซื้อธุรกิจการเงินอีก 2-3 บริษัท

นางนลินี งามเศรษฐมาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอร่า แคปปิตอล (AIRA) กล่าวว่า แผนธุรกิจหลักใน 1-2 ปีจากนี้ จะมุ่งเน้นการซื้อกิจการในธุรกิจการเงินเพิ่มอีก 1-3 บริษัท เพื่อเพิ่มขนาดสินทรัพย์ของบริษัทเป็น 20,000 ล้านบาท จากเมื่อสิ้นปี 2556 ที่บริษัทมีสินทรัพย์อยู่ที่ 53,000 ล้านบาท

ภายในปีนี้คาดว่า จะซื้อกิจการธุรกิจการเงิน 1 บริษัท และปี 2558 ซื้ออีก 2 บริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังมีความต้องการซื้อกิจการธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ใช่การเงินอีก ที่ศึกษาอยู่ในปัจจุบันคือธุรกิจอาหาร สำหรับแหล่งเงินที่จะใช้ซื้อกิจการ จะมาจากกระแสเงินสด และสามารถกู้ธนาคารพาณิชย์ เพราะปัจจุบันมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำ มีหนี้เงินกู้ 100 ล้านบาท

บริษัทมีนโยบายบริหารเงินทุนสำหรับการลงทุนในธุรกิจการเงิน 75% และลงทุนในธุรกิจอื่นๆ 25% เน้นการเข้าถือหุ้นระยะยาว 5-7 ปี และนโยบายลงทุนในธุรกิจการเงินจะต้องเป็นผู้ถือหุ้นหลัก และมีอำนาจการควบคุมการบริหาร เพราะบริษัทเชี่ยวชาญด้านการเงินการลงทุน ส่วนธุรกิจอื่นๆ บริษัทมีนโยบายถือหุ้นมากกว่า 25.1% แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ถือหุ้นหลัก หรือมีอำนาจบริหาร เพราะไม่ใช่ธุรกิจที่บริษัทเชี่ยวชาญ

"ปีนี้ หลังจากเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ แล้ว คาดจะซื้อกิจการ 1 บริษัท และปีหน้า ซื้ออีก 2 บริษัท ซึ่งยังเป็นธุรกิจการเงินอยู่ ทั้ง เช่าซื้อ ลิสซิ่ง นอนไลฟ์คอนซูเมอร์ และสินเชื่อเพื่อการบริโภค ส่วนการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ตามนโยบายอีก 25% กำลังดูธุรกิจอาหารอยู่ และเมื่อเพิ่มสินทรัพย์ได้ถึง 20,000 ล้านบาทแล้ว บริษัทมีแผนที่จะเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์คาดปี 2559 อาจจะได้เห็น"

ปัจจุบัน บริษัทมีการลงทุนใน 4 บริษัท แบ่งเป็นการลงทุนทางตรง 3 บริษัท ได้แก่ บล.ไอร่า (AS) ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ถือหุ้น 99.99% บริษัท ไอร่า แฟคตอริ่ง (AF) ประกอบธุรกิจแฟคตอริ่ง ถือหุ้น 74.02%, บริษัท ไอร่า อินเตอร์เนชั่นแนล แอดไวเซอรี่ (AI) ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินการควบรวม การซื้อขายกิจการทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ถือหุ้น 90% และการลงทุนทางอ้อม 1 บริษัท คือ บริษัท ไอร่า แอดไวเซอรี่ (AD) ประกอบธุรกิจให้บริการที่ปรึกษาทางธุรกิจแบบครบวงจร โดยลงทุนผ่าน บล.ไอร่า 100%

นางนลินี กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจแฟคตอริ่งปีนี้ค่อนข้างดี แม้เศรษฐกิจจะเติบโตไม่มาก เพราะผู้ประกอบการต้องการเงินทุนไปหมุนเวียนและต่อยอดธุรกิจ กลุ่มลูกค้าหลักของไอร่า แฟคตอริ่ง ที่ลงทุนอยู่ คือซัพพลายเออร์ของธุรกิจโมเดิร์นเทรด อาทิ บิ๊กซี เซ็นทรัล กรุ๊ป รวมถึงธุรกิจรถยนต์ และเอสเอ็มอี สำหรับแนวโน้มธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ ยอมรับแปรผันไปตามภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แต่ยังสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทได้ดี

ส่วนธุรกิจที่น่าจับตามองและเชื่อว่ามีโอกาสเติบโตอีกมาก คือธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งจะเติบโตมากทั้งในและต่างประเทศ เพราะปัจจุบันเป็นช่วงการเคลื่อนย้ายเงินทุน โดยเฉพาะในแถบเออีซี ที่จะมีเงินทุนต่างประเทศเข้าและออกเพิ่มขึ้นอีกมาก ทั้งนี้บริษัทจะได้รับประโยชน์จากกระแสเคลื่อนย้ายเงินทั้งจากบริษัท ไอร่า อินเตอร์เนชั่นแนล แอดไวเซอรี่ ซึ่งมีลูกค้า 30 ราย คาดจะปิดดีลภายในปีนี้ 3-4 ราย และไอร่า แอดไวเซอรี่ ซึ่งมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างดีลควบรวม 3 ราย

ทั้งนี้ บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 634 ล้านหุ้น และเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม 125 ล้านหุ้น รวมเสนอขาย 759 ล้านหุ้น พาร์ 0.25 บาท คาดว่าจะเสนอขายหุ้นและเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในเดือนพ.ค.นี้ บริษัทมั่นใจจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เพราะบริษัทเป็นโฮลดิ้งคอมปะนี ที่ลงทุนในธุรกิจการเงินบริษัทแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ มีการกระจายความเสี่ยงที่ดี ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยในอดีต 4-5%

"เรื่องภาวะตลาดหุ้น การเมืองหรือเศรษฐกิจ ไม่รู้สึกกังวล ปล่อยให้เป็นไปตามกลไก เพราะมีความมั่นใจการเติบโตและความพร้อมต่างๆ ในฐานะผู้ลงทุนในธุรกิจการเงินที่กำลังเติบโต การเสนอขายหุ้นครั้งนี้ เน้นเสนอขายให้กับนักลงทุนในประเทศเป็นหลัก เพราะต้องการให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดี ส่วนนักลงทุนต่างประเทศ บริษัทมองเป็นมูลค่าเพิ่มในอนาคตมากกว่า"