โซลาร์ตรอนชู'รูฟท็อป'ดันรายได้พุ่ง50%

โซลาร์ตรอนคาดปีหน้าโตก้าวกระโดด เหตุได้อานิสงส์โครงการโซลาร์ รูฟ ดันสัดส่วนรายได้เพิ่มเป็น 50% ส่งผลโตก้าวกระโดด
นางปัทมา วงษ์ถ้วยทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลาร์ตรอน (SOLAR) ให้สัมภาษณ์พิเศษกรุงเทพธุรกิจว่า บริษัทมีความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยีการผลิตเซลล์ และผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ การติดตั้ง และการบริการหลังการขาย รวมถึงกระบวนการรีไซเคิลและซ่อมแซม ซึ่งถือว่าเป็นผู้ประกอบการรายเดียวในประเทศครบวงจร
ทั้งนี้ เมื่อทางการสนับสนุนให้เกิดโครงการ การผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา หรือ Solar PV Rooftop บริษัทจะได้อานิสงส์จากโครงการนี้ ขณะนี้มีลูกค้าอยู่ในมือแล้วประมาณ 10 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ที่ได้รับขึ้นทะเบียนอีกจำนวนหนึ่ง
บริษัทคาดหวังโครงการดังกล่าว จะสนับสนุนรายได้ของบริษัทมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะรายได้จากโครงการโซลาร์ รูฟ คาดว่าปีหน้าจะอยู่ที่ 50%ของรายได้รวม และคาดการณ์ว่าเป้าหมายการเติบโตรายได้ในแต่ละปีจากนี้ไปเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% และหากโครงการโซลาร์ รูฟ ประสบความสำเร็จก็มีโอกาสจะเติบโตได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้
"การที่ภาครัฐได้มีโครงการให้ประชาชนและผู้ประกอบการ สามารถยื่นขอผลิตกระแสไฟฟ้าได้เองนั้น ทำให้บริษัทได้รับอานิสงส์จากโครงการดังกล่าว เพราะเป็นผู้ประกอบการครบวงจร แม้ว่าตอนนี้มีผู้ประกอบการบางรายได้นำเข้าแผงมาจากจีน มีทั้งคุณภาพได้มาตรฐานและไม่ได้มาตรฐาน แต่ไม่มีระบบการดูแลปรับปรุง รวมถึง ระบบรีไซเคิล อาจทำให้เกิดปัญหาได้ในอนาคต ดังนั้นบริษัทมีการบริการครบวงจรจะทำให้ได้เปรียบ" นางปัทมากล่าว
เธอกล่าวว่า ภาพรวมผลประกอบการปีนี้จะเป็นตามเป้าหมาย คาดว่ารายได้จะเติบโตระดับ 50%จากปีก่อนที่ทำได้ 1,183.81 ล้าน บาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายวางไว้ เพราะบริษัทสามารถบริหารโครงการได้ถึง 100 เมกะวัตต์ โดยเฉพาะไตรมาส 4/2556 น่าจะเติบโตได้มากสุด เพราะเป็นช่วงที่รับงานจัดหาแผงเซลล์แสงอาทิตย์ให้กับโครงการโซลาร์ รูฟท็อปให้กับผู้ประกอบการ ทั้งนี้ บริษัทมีกำลังผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ 70 เมกะวัตต์ และแผงเซลล์แสงอาทิตย์70 เมกะวัตต์
ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัท งวด 9 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนทำได้ 47 ล้านบาท สาเหตุที่ทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวดีขึ้น เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากการติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของโครงการระยะที่ 2 เป็นขนาด 50 เมกะวัตต์ ขณะเดียวกันบริษัทยังสามารถบริหารต้นทุนการขายได้ดีขึ้น จึงทำให้มีอัตรากำไรเพิ่มสูงขึ้นด้วย
นางปัทมาบอกว่า แผนขยายธุรกิจในต่างประเทศนั้น ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากต่างประเทศสัดส่วน 10% เป็นการส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ผ่านตัวแทนท้องถิ่น ซึ่งได้ส่งออกไปมาเลเซียและพม่า
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าบริษัทมีแผนจะรุกขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างจริงจัง เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ในปี 2558 โดยบริษัทได้จับมือร่วมธุรกิจกับบริษัทบีอีซี เทโร ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทบีอีซี เวิลด์ (BEC) เพื่อรับหน้าที่เป็นผู้ติดตั้งระบบไฟฟ้าในเมืองย่างกุ้งของพม่า
ในเบื้องต้นระบบไฟฟ้าที่เข้าไปติดตั้ง เป็นการใช้ในส่วนที่บริษัทบีอีซี เทโร ได้รับเป็นคนดำเนินการจัดกิจกรรมในงานที่พม่าเป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ซึ่งระบบไฟฟ้าในพม่ามีปัญหา เพราะมีกำลังผลิตไม่เพียงพอ และการรับรู้รายได้ในโครงการดังกล่าว จะเริ่มรับรู้ในไตรมาส4/2556 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2557
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะร่วมธุรกิจกับบริษัทบีอีซี เทโร ในการรุกขยายธุรกิจในพม่า โดยจะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่มบริษัทบีอีซี มีแผนจะไปทำธุรกิจคอนซูมเมอร์โปรดักซ์ และให้บริการต่างๆ ซึ่งการทำธุรกิจในพม่าทุกโครงการมีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้า ดังนั้นบริษัทจะร่วมธุรกิจโดยเป็นผู้วางระบบไฟฟ้าให้ คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ในอนาคต
เธอมองด้วยว่าการเติบโตในต่างประเทศ ไม่ได้อยู่ในเฉพาะแถบอาเซียนเท่านั้น ยังมุ่งหวังจะเติบโตไปยังยุโรป เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่มีความต้องการใช้พลังงานทดแทนหลากหลาย และไทยยังได้เปรียบเรื่องกำแพงภาษี โดยเฉพาะกับจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตแผงรายใหญ่
โดยสินค้าจีน ที่นำเข้าในยุโรปจะต้องเสียภาษีในอัตรา 30%ขณะที่ไทยหากส่งไปขายราคาจะถูกกว่าเพราะไม่ต้องเสียภาษี ดังนั้นจึงมองว่าเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตได้อีก
สำหรับแผนการใช้เงินทุนของบริษัท คาดว่าจะใช้เงินทุนจากการดำเนินงานปกติ และกู้เงินจากสถาบันการเงิน เพราะบริษัทมีความพร้อมเรื่องสภาพคล่องการเงิน โดยมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.6 เท่า ขณะเดียวกันบริษัทได้ขออนุมัติผู้ถือหุ้นเรื่องการเพิ่มทุนไว้รองรับแล้ว คณะกรรมการสามารถเพิ่มทุนได้ทันที โดยหากเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมจะอยู่ที่ประมาณ 30%ของทุนจดทะเบียน รวมถึงเสนอขายหุ้นแบบพีพี 10% คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ก่อนเม.ย.2557
"ตอนนี้เราเจรจากับกลุ่มนักลงทุนที่สนใจลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนไว้บางส่วนแล้ว หากต้องการระดมทุนก็สามารถทำได้ทันที ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาสถานการณ์ของธุรกิจโซลาร์ รูฟ ว่าจะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งต้องติดตามนโยบายภาครัฐ การให้การสนับสนุนธุรกิจมากน้อยแค่ไหน" นางปัทมากล่าว







