กลุ่มโรงแรมกำไร 9 เดือนพุ่ง250%

กลุ่มโรงแรมทำกำไร 9 เดือน 1.88 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 249.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน "เซ็นทรัลพลาซา" ทำกำไรสูงสุดกว่า 1 พันล้านบาท
จากการรวบรวมผลการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจโรงแรมช่วงไตรมาส 3 ที่รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์มาแล้ว 4 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) บริษัท ดิ เอราวัณ (ERW) บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) และ บริษัท โรงแรมรอยัล ออคิด (ประเทศไทย) (ROH) พบว่ามีกำไรสุทธิ 109.81 ล้านบาท และในงวด 9 เดือนของปีนี้มีกำไรสุทธิ 1.88 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 249.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยโรงแรมเซ็นทรัลพลาซา มีกำไรสุทธิในงวด 9 เดือนสูงสุด คือ 1.03 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระดับ 833.10 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน รองลงมาคือ ดิ เอราวัณ มีกำไร 873.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระดับ 48.89 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่บริษัทแกรนด์ฯ ขาดทุน21.58 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 220.18 ล้านบาท และโรงแรมรอยัลออคิดฯ ขาดทุน 3.26 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 124.41 ล้านบาท
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา เปิดเผยว่า ไตรมาส 3 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 194 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 182 ล้านบาท หรือ 1,516.7% มีสัดส่วนกำไรสุทธิต่อรายได้รวม 4.7% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีสัดส่วนกำไรสุทธิต่อรายได้รวม 0.3% เป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจโรงแรม และรายได้จากการเติบโตของธุรกิจอาหาร
โดยธุรกิจโรงแรม มีรายได้ 1,803.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการสนับสนุนส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐและองค์กรต่างๆ ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาก โดยโรงแรมเดิมมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 79% เพิ่มขึ้น 11.9% ขณะที่อัตราค่าห้องพักเท่ากับ 3,792 บาท
ส่วนธุรกิจอาหารมีรายได้ 2,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจาก รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาของแต่ละแบรนด์สุทธิ 59 สาขา การพัฒนาและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงการปรับขึ้นราคาขายสินค้า ตลอดจนถึงการจัดทำรายการส่งเสริมการขายและการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจอาหารมีสาขา ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2556 ทั้งสิ้น 714 สาขา
นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้อื่น ได้แก่ รายได้ค่าบริหารโรงแรม รายได้ค่าเช่าและค่าบริการ รายได้จากเงินสนับสนุนทางการตลาด เป็นต้น โดยรายได้ค่าบริหารโรงแรม ได้แก่ รายได้จากการบริหารโรงแรมของบุคคลอื่น ซึ่งว่าจ้างให้บริษัทเข้าบริหารงานภายใต้สัญญาบริหารโรงแรม
จากสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและการเมือง รวมถึงภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบโดยรวมต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม กลุ่มบริษัทได้พยายามหามาตรการต่างๆ เพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย เช่น การเจรจากับผู้ขาย การใช้สาธารณูปโภคอย่างประหยัด การบริหารและควบคุมค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้กลุ่มบริษัทยังมีแผนในการหารายได้เพิ่ม โดยมุ่งเน้นการขยายธุรกิจบริหารโรงแรมให้มากขึ้น ในส่วนของธุรกิจอาหาร ยังคงเน้นกลยุทธ์ในการขยายสาขา เพิ่มแบรนด์ธุรกิจใหม่ๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์ และทำการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง







