"วิชัย ทองแตง"สอนวิธีลงทุนสไตล์ "High Risk High Return"

"วิชัย ทองแตง"สอนวิธีลงทุนสไตล์ "High Risk High Return"

“หุ้นตกต้องตะลุยช้อปของถูก” วลีลงทุนยามหุ้นผันผวนของ “วิชัย ทองแตง” เลิฟสุดยกให้ประเภท “เสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูง” หากอ่านงบขาดกระจุย คุณจะได้

3 ปีก่อน “วิชัย ทองแตง” เจ้าของฉายา “ทนายนักช้อป” และอีกมากมายประกาศขายหุ้น ประสิทธิ์พัฒนา (PYT) เจ้าของเครือโรงพยาบาลพญาไท และโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียลให้ “นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ” ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BGH)

ปลายปี 2555 “พ่อมดตลาดหุ้น” ในฐานะประธานกรรมการ “เคเบิลไทย โฮล ดิ้ง” (ซีทีเอช) ประกาศคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษในเมืองไทย ครอบคลุมไปถึงกัมพูชา และลาว จำนวน 3 ฤดูกาล 2013 -2016 “ทุกอย่างน่าจะมีความชัดเจนกลางปี 2556.เราตั้งใจจะทำ CTH ให้เป็น “เดอะลาส มาสเตอร์พีซ” “วิชัย” บอกกับ “กรุงเทพธุรกิจ BIZ Week”

สิ้นปี 2555 "วิชัย" ซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) "ตงฮั้ว คอมมูนิเคชั่นส์" (TH) จำนวน 60 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1 บาท

ผ่านมา 9 เดือนของปี 2556 “วิชัย” ในฐานะมหาเศรษฐีอันดับ 20 ที่มีมูลค่าความมั่งคั่ง 670 ล้านดอลลาร์ -กว่า 20,000 ล้านบาท ควักเงินซื้อ หุ้น ระยองเพียวริฟายเออร์ (RPC) 200 ล้านหุ้น คิดเป็น 24.91 เปอร์เซ็นต์ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ราคาหุ้นละ 1.0033 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หลังบริษัทประกาศขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 273 ล้านหุ้น ส่วนที่เหลืออีก 73 ล้านหุ้น ตกเป็นของ “เมตตา บันเทิงสุข” อดีตรองปลัดกระทรวงพลังงานในปี 2554 และอดีตผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานในปี 2549

“ระยองเพียวริฟายเออร์” ถือหุ้นอันดับหนึ่งโดย บริษัท เพทโทร-อินสตรูเมนท์ จำกัด (PICO) จำนวน 29.87 เปอร์เซ็นต์ (หลังขายหุ้นเพิ่มทุนจะเหลือหุ้นใน RPC 19.72 เปอร์เซ็นต์) ซึ่งบริษัทดังกล่าวถือหุ้นใหญ่ 80 เปอร์เซ็นต์ โดย “เซียนหุ้นวีไอ” มูลค่าหลายร้อยล้านบาท “บูล-สุทัศน์ ขันเจริญสุข” กรรมการ RPC ในฐานะอดีตประธานบอร์ดรุ่นที่ 4 www.thaivi.com ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) และ “ภรรยา” ปริญญา ขันเจริญสุข

“เพทโทร-อินสตรูเมนท์” ประกอบธุรกิจขายอุปกรณ์สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม มีรายได้เฉลี่ยปีละ 400-500 ล้านบาท เมื่อทำธุรกิจมีกำไร “สุทัศน์” แบ่งเงินไปลงทุนซื้อหุ้นดีๆหลายตัว อาทิเช่น หุ้น SCC, SCB, SMT และ RPC เป็นต้น ปีๆ หนึ่งบริษัทได้ผลตอบแทนจากการลงทุนเฉลี่ย 10-15% ปัจจุบันบริษัทแห่งนี้มีพอร์ตการลงทุนที่ทรงพลังมากประมาณ 400-500 ล้าน

“บนยุทธจักรแห่งการลงทุน ไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในพริบตา เมื่อวานหุ้นขึ้น วันนี้หุ้นลง หุ้นขึ้นทุกคนตื่นเต้น เมื่อหุ้นตกเฉกเช่นตอนนี้ทุกคนตกใจ แต่เชื่อเถอะว่า นาทีนี้ดีมากเหมาะสมมากในการลงทุน “วิชัย ทองแตง” รองประธานกรรมการ “กรุงเทพดุสิตเวชการ” (BGH) ในฐานะนักลงทุนรายใหญ่ พูดกลางเวทีทอล์คโชว์ “วิชั่น ออฟ เวลธ์ บาย วิชัย ทองแตง” ที่มีนักลงทุน VIP และรายย่อยจับจองเก้าอี้แน่นห้องประชุมสังเวียน ชั้น 3 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ทำไมถึงเชื่อว่านี่คือ โอกาสทองของการลงทุน? “นักปั้นของถูกมือทอง” ตอบว่า สภาผ่าน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไป 2 วาระแล้ว ส่วนวาระ 3 และ 4 กำลังจะตามมา นั่นแปลว่า ประเทศไทยกำลังเดินอยู่บนรูปแบบที่ดีที่สุดแล้ว แถมยังสามารถอธิบายต่อชาวโลกได้ว่า บนแผนที่โลกมี “ขวานทอง” ด้ามหนึ่ง กำลัง “เปล่งรัศมี” ออกมาให้คนทั่วโลกได้รู้ได้เห็นว่า ประเทศไทยมีศักยภาพมากพอที่จะเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

แม้การลงทุน 7 ปีข้างหน้า ในโครงการ 2 ล้านล้านบาท ของภาครัฐบาล ดูเหมือนจะเป็นการสร้างภาระหนี้ให้แก่ประเทศ ฉะนั้นเราทุกคนควรช่วยกันตรวจสอบไม่ให้เกิดการทุจริต แต่ในมุมนักลงทุนอย่างเราๆ คงไม่มีใครตกใจและวิตกกังวลในภาระอันหนักหน่วง จนไม่กล้าขยับตัวเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น

“นักลงทุนรายใหญ่” มองว่า ตลาดหุ้นไทยยังน่าสนใจเหมาะแก่การลงทุน เพราะหุ้นไทยมีค่า P/E ที่ 12 เท่า ซึ่งต่ำมากเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาค และหากรัฐบาลมีการเดินหน้าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานได้จริงโดยไม่ติดขัดอะไร เชื่อว่าจะสร้างความน่าสนใจให้ตลาดหุ้นไทยมากขึ้น

ถามว่า กลุ่มไหนน่าสนใจ เขาตอบว่า “กลุ่มขนส่ง” เนื่องจากภาครัฐบาลมีแผนการลงทุนระบบขนส่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท นอกจากนั้นยังมี “กลุ่มอสังหาริมทรัพย์” ที่มีการพัฒนาโครงการไปตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งจะให้ผลตอบแทนที่ดี สุดท้าย คือ “กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง” เขาจะได้งานจากการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน

สำหรับปัจจัยที่คอย “กดดัน” ตลาดหุ้น ส่วนตัวมองว่า น่าจะเป็นปัญหาภาวะเศรษฐกิจยุโรป และสหรัฐอเมริกา ประเทศเหล่านี้ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นช้าลง ฉะนั้นนักลงทุนควรต้องใช้ “ความระมัดระวัง” ในการเข้ามาลงทุน ท่ามกลาง “ความผันผวน” เช่นนี้นักลงทุนควรรอบคอบ

“วิชัย” เลือกจะส่งยิ้มเป็นคำตอบ หลังได้ยินคำถามที่ว่า “มูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าไร” ไม่บอกดีกว่า เอาเป็นว่า ยังรับได้ เมืองไทยยังมีธุรกิจอีกมากมายที่น่าสนใจ เขาส่งสัญญาณเตรียมช้อปหุ้นตัวต่อไป

“เซียนหุ้นรายใหญ่” ถือโอกาสสอนเทคนิคการลงทุนในรูปแบบง่ายว่า จริงๆวิถีลงทุนในแบบ “วิชัย” ไม่มีความซับซ้อนมากมาย “ผมชอบการลงทุนแบบ “ความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูง” หรือ “High Risk High Return” และไม่ชอบ “หลับหูหลับตา” ใช้เงินลงทุนอย่างเดียว ทุกอย่างต้องผ่านกระบวนการศึกษา และวิเคราะห์มาอย่างดี

เมืองไทยยังมีธุรกิจดีๆอีกมากมายที่ราคาหุ้นมักซื้อขายต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน บางครั้งดูเหมือนว่า ธุรกิจมีความเสี่ยงสูง แต่บางที่เราสามารถทำให้บริษัทนั้นมีผลตอบแทนที่สูงได้ สไลต์การลงทุนของผม “น่าเกลียดน่าชัง น่ากลัวมั้ย”
หากใครสนใจรูปแบบการลงทุนแบบเดียวกับผม “ข้อแรก” ที่คุณต้องปฎิบัติ คือ ต้องวิเคราะห์สถานะทางการเงินให้ชัดเจน ต้องอ่านงบการเงินให้ขาด หมายเหตุประกอบงบการเงินสำคัญมากต้องอ่าน หากพบว่า บริษัทนั้นมีความเสี่ยงเราต้องกลับไปดูว่า ความเสี่ยงนั้นอนาคตสามารถพลิกฟื้นได้หรือไม่ อย่าลืมเผื่อใจ เพราะการวิเคราะห์มักมีทั้งถูกและผิด

“ข้อสอง” คุณต้องค้นหา “โอกาส” ในการลงทุน ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก “ผม “โชคดี” นิดหน่อยตรงที่ทุกวันนี้อายุมากแล้ว หลายคนมักนำพาโอกาสมาให้เลือกเสมอ ตรงข้ามกับอดีตต้องเป็นฝ่ายออกไปตามหาโอกาสตลอด เมื่อโอกาสมาหาแล้ว เราต้องนำโอกาสมา “วิเคราะห์ เจาะลึก ไตร่ตรอง”ด้วยสติปัญญาว่า โอกาสที่ได้มาใช่หรือไม่..

จงทำตัวเหมือน “วอร์เรน บัฟเฟ็ตต์” ครั้งหนึ่งเขาเคยพูดว่า “วงแหวนแห่งการลงทุนได้ตีกรอบการลงทุนของเขาไว้ว่า จะอยู่ในธุรกิจที่มีอนาคต มีศักยภาพในการเติบโต เราไม่ต้องทุ่มพละกำลังมากเกินไป

“ผมอาจแปลกกว่า “วอร์เรน บัฟเฟ็ตต์” นิดหนึ่ง ตรงที่กรอบการลงทุนกว้างกว่าใหญ่กว่า และธุรกิจที่อยากได้อาจด้อยกว่า แต่เชื่อเถอะว่า หากเรามีคอนเน็คชั่นที่ดีจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น สรุปง่ายๆ วงแหวนแห่งการลงทุนกว้างหรือใหญ่ไม่สำคัญ แต่สำคัญที่วงแหวนต้องชัดเจน ถ้าการลงทุนมีความชัดเจนทุกอย่างจะเดินต่อทันที”

หากคิดจะลงทุนอะไรควรมองแผนงานของภาครัฐบาลด้วย อย่างปัจจุบันรัฐบาลมีแผนจะลงทุนเรื่องโลจิสติกส์ และพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานทดแทน ซึ่งรัฐมีแผนงานชัดเจนยาวถึง 10 ปีข้างหน้า ดังนั้นอนาคตธุรกิจพลังงานทดแทนอาจมีการควบรวมกิจการก่อนผลักดันบริษัทเข้าตลาดหุ้นมากขึ้น

ถามถึงการลงทุนใน “ระยองเพียวริฟายเออร์” เขาบอกว่า อีก 2 เดือนข้างหน้าค่อยมาคุยกัน ถึงเวลานั้นน่าจะสรุปเรื่องแผนการดำเนินการ แนวคิด และวิธีการลงทุนได้แล้ว หลายคนกังวลเรื่องข้อพิพาทกับปตท.“ผมคิดว่า มันคนละส่วนกัน ผมเข้ามาคิดโมเดล เพื่อการเติบโตอนาคต”

“ตอนนี้มีคนทาบทามให้ผมเข้าไปลงทุนใน “บมจ.ทีทีแอนด์ที” (TT&T) หลังเจ้าหนี้ไม่เห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการที่แก้ไขแล้ว แต่ผมยังไม่ตัดสินใจ เป็นเพียงการพูดคุยกันเฉยๆ อยากรอดูแผนงานในอนาคตก่อน”


ปี 57 ลุ้นผุดกองทุนมูลค่า “ร้อยลบ.”
“วิชัย ทองแตง” เล่าถึงความคืบหน้าในการจัดตั้ง “กองทุน Tomorrow Fund”ว่า ขณะนี้ทางทีม Stock2morrow อยู่ระหว่างการหารือกับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ถึงการจัดตั้งกองทุนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

“ป้อม-ปิยะพันธ์ วงศ์ยะรา” ในฐานะผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ “สต็อกทูมอร์โรว์ ดอทคอม” เจ้าของนามแฝง Looking บอกกับ “กรุงเทพธุรกิจ BIZ Week”ว่า กองทุน Tomorrow Fund อาจเกิดหรือไม่ก็ได้ แต่หากสามารถจัดตั้งได้ถูกต้องตามกฎหมาย ต้นปี 2557 ทุกคนอาจได้เห็น

เบื้องต้นกองทุนนี้อาจมีมูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท เน้นการลงทุนใน “หุ้นเทิร์นอะราวด์” ที่ไม่มีความเสี่ยงสูงมากจนเกินไป ส่วนผลตอบแทนเราอยากได้สูงสุดเท่าที่จะทำได้ จริงๆวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกองทุน Tomorrow Fund ก็เพื่อช่วยเหลือนักลงทุนรายย่อย

ที่ผ่านมามีคนติดต่อเราเยอะมาก หลัง “คุณวิชัย” พูดบนเวทีงานของ “สต็อกทูมอร์โรว์” วันนั้นเราไม่ได้ตั้งใจจะพูดเรื่องนี้บนเวที ตั้งแต่ข่าวออกไปทางสำนักงานก.ล.ต.ติดต่อสอบถามถึงเรื่องนี้ตลอด