แอร์พอร์ตลิงค์ปรับรูปแบบเดินรถไฟฟ้า

นายพีรกันต์ แก้ววงศ์วัฒนา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมในการบริหารจัดการเดินรถไฟฟ้าด่วนสุวรรณภูมิใหม่ โดยจะปรับเส้นทางวิ่งเริ่มจากสถานีมักกะสัน-สุวรรณภูมิเพียงแห่งเดียว จากเดิมที่วิ่งให้บริการทั้งจากสถานีพญาไท-สุวรรณภูมิ และสถานีมักกะสัน-สุวรรณภูมิ ซึ่งจะทำให้เพิ่มความถี่ในการให้บริการได้มากขึ้นเป็น 45 นาที จากเดิมที่ต้องใช้เวลารอประมาณ 1 ชั่วโมง

ขณะเดียวกันจะได้ประสานให้สายการบินมาเปิดบริการเคาน์เตอร์เช็คอินที่สถานีมักกะสันเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร และลดความแออัดในการเช็คอินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยบริษัทจะได้จัดเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร ไม่ว่าจะเป็นลิฟท์ บันไดเลื่อน จุดรับส่งรถโดยสารขนาดใหญ่ ทางเดินเชื่อมรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที ซึ่งได้เปิดใช้ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อจูงใจให้ผู้โดยสารมาใช้บริการเช็คอินที่สถานีรถไฟฟ้ามักกะสันมากขึ้น

"เป้าหมายต้องการให้ผู้โดยสารที่มาท่องเที่ยวเป็นลักษณะของกรุ๊ปทัวร์มาใช้บริการเช็คอินที่สถานีมักกะสัน เพราะจะได้รับความสะดวกมากกว่าไปเช็คอินที่อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งส่วนใหญ่การเช็คอินเป็นกรุ๊ปอาจจะไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร โดยขีดความสามารถในการรองรับการเช็คอินที่สถานีมักกะสันยังมีอีกมาก เพราะปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการน้อยมาก หากสามารถกระตุ้นให้ผู้โดยสารมาใช้บริการได้มากขึ้น ก็จะช่วยกระตุ้นปริมาณผู้โดยสารของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ด้วย"นายพีรกันต์ กล่าว

ทั้งนี้ ปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าด่วนสุวรรณภูมิยังมีจำนวนน้อยมากประมาณวันละ 1,500 เที่ยวเท่านั้น ขณะที่อัตราค่าโดยสารปรับลดเหลือเพียงเที่ยวละ 90 บาท แต่เนื่องจากปัจจุบันต้องใช้เวลารอรถไฟฟ้านานประมาณ 1 ชั่วโมง ทำให้ผู้โดยสารไม่นิยมใช้มากนัก

นายพีรกันต์ ยังกล่าวถึงความพร้อมการจัดงาน “เทศกาลหนังสือวันแม่ @ Airport Link ว่า งานจะจัดที่สถานีมักกะสัน ซึ่งถือเป็นสถานที่จัดงานที่มีความสะดวก โดยเฉพาะการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน เพราะสถานีเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้าทั้งรถบีทีเอสและเอ็มอาร์ที ขณะเดียวกันยังมีที่จอดรถกว่า 1,000 คัน ดังนั้นประชาชนที่จะเข้าชมงานจะได้รับความสะดวกในการเดินทางมาก ขณะที่เนื้อที่ภายในสถานีมักกะสันก็มีเพียงพอ

ทั้งนี้ งานจะจัดขึ้นในวันที่ 9-18 ส.ค.นี้ โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะมาเป็นประธานพิธีเปิดด้วย คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานวันละ 200,000 คน ภายในงานนอกจากจะมีหนังสือจำหน่ายแล้ว ยังมีร้านอาหารและอื่นๆมากมาย