“คันนา โกรเซอรีส์” สุขภาพดีเริ่มที่..คันนา

“คันนา โกรเซอรีส์” สุขภาพดีเริ่มที่..คันนา

คันนา โกรเซอรีส์ คือ ผู้ผลิตและจำหน่ายผลไม้แปรรูปแบรนด์"Kunna" ผลผลิตจากท้องไร่ท้องนาที่ถูกยกระดับให้เต็มคุณค่าและมูลค่า พร้อมส่งขายทั่วโลก

“ขนมเพื่อสุขภาพ ที่ทานแล้วไม่รู้สึกผิด” คือ คำจำกัดความของ "คันนา"(Kunna) ผลไม้แปรรูปด้วยวิธีอบกรอบและอบแห้ง ไอเดียธุรกิจคนรุ่นใหม่วัย 26 “โบว์-ณชา จึงกานต์กุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันนา โกรเซอรีส์ จำกัด

เธอคือทายาทคนเล็กของ “ชัยวัฒน์ จึงกานต์กุล” เจ้าของธุรกิจผลิตและส่งออกลูกบิดประตู “เบน-เฮอร์” บริษัท เบน-เฮอร์ โปรดักส์ จำกัด ที่อยู่ในสนามนี้มากว่า 30 ปี มีพี่ชายคนโตเป็นผู้ประกาศข่าว “ภัทร จึงกานต์กุล” ขณะพี่ชายคนรอง “ธีธัช” นั่งเก้าอี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบน-เฮอร์ โปรดักส์ จำกัด ในวันนี้

น้องสาวคนเล็กของตระกูล “จึงกานต์กุล” เรียนจบจากคณะรัฐศาสตร์ เอกการทูต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีโอกาสไปฝึกงานอยู่ที่ประเทศจีนตั้งแต่เรียนปี 3 ด้วยความชื่นชอบในภาษาและวัฒนธรรมจีน จนเรียกทุกอย่างที่เกี่ยวกับจีนว่า “เสน่ห์”

เคยทำงานด้านการตลาดที่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย และมีโอกาสช่วยธุรกิจครอบครัวในช่วงเวลาหนึ่ง ทว่าสุดท้ายเธอก็เลือกพิสูจน์ตัวเองด้วยธุรกิจที่ปลุกปั้นขึ้นด้วยสองมือ..ขนมเพื่อสุขภาพ

“คุณพ่อท่านบอกตลอดว่า อยากทำอะไรก็รีบๆ คิด รีบๆ ทำ เพราะตอนนี้เป็นช่วงที่เรายังล้มได้ ฉะนั้นอยากจะเริ่มอยากจะทำอะไรก็ให้รีบๆ ทำ รีบๆ ล้ม ท่านสนับสนุนเต็มที่ เพราะรุ่นคุณพ่อก็ต้องฝ่าฟันมามาก”

เธอบอกจุดเริ่มต้น ที่เมื่อคนรุ่นหนึ่งเปิดไฟเขียว ทายาทจึงเกิดแรงฮึดเต็มที่ เลยตัดสินใจกลับไปจีน เพื่อหาโอกาสและลู่ทางทำธุรกิจ โดยแบ่งเวลาส่วนหนึ่งเรียนภาษาจีน อีกส่วนก็ศึกษาธุรกิจ แล้วแบ่งปันให้ครอบครัวที่เมืองไทยรับฟัง

“ตะกอนความคิดที่ได้กลับมา คือ มีผลไม้ไทยในซูเปอร์มาร์เก็ตเมืองจีนเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่ที่ขายแพง ก็เพราะค่าขนส่ง ค่าภาษี พวกนี้ แต่ไม่ใช่ในแง่การ Add Value ให้กับตัวสินค้า จึงรู้สึกว่ายังทำอะไรกับผลไม้ไทยได้อีกเยอะมาก”

เมื่อกลับมาเมืองไทย เธอเลยเริ่มศึกษาหาข้อมูลทั้งทางอินเตอร์เน็ต อบรมสัมมนากับหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงขอความรู้ตามสถาบันการศึกษาต่างๆ ตลอดจนลงไปเดินตามคันนาเอง เพื่อดูว่ายังมีวัตถุดิบตัวไหนที่นำมาเพิ่มมูลค่าได้

“สิ่งที่พบคือ ยังมีผลไม้ไทยอีกเยอะมาก ที่แม้แต่คนไทยเองยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ อย่าง ตะลิงปลิง และผลไม้แปลกๆ เลยมาปรึกษากันว่าพอจะทำอะไร เพื่อให้เกิดรสชาติแปลกใหม่ได้บ้าง”

ที่มาของผลไม้แปรรูปแบรนด์ “คันนา” ซึ่งให้ความหมายสื่อถึงความเป็นไทย ท้องไร่ท้องนา จุดกำเนิดของทุกอย่าง คันนาสะท้อนถึงอาชีพเกษตรกรไทย เขียนในภาษาอังกฤษ เพื่อสื่อถึงการถูกทำให้ทันสมัยแล้ว ขณะที่ในภาษาจีนออกเสียงว่า “คังนา” ซึ่งคำว่า “คัง” มีความหมายว่า สุขภาพดี ความเปล่งประกายของชีวิต อีกด้วย

เป็นน้องใหม่ในตลาด แต่ก็ไม่ขอเดินตามวิถีใคร “คันนา” จึงฉีกตัวเองให้แตกต่าง ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ กระบวนการผลิต นวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์ การวางคอนเซ็ปต์สินค้า และนโยบายด้านการตลาด ซึ่งล้วนผ่านการคิดและวางแผนมาอย่างดีแล้วทั้งนั้น

อย่างการเลือกผลไม้ที่ส่วนใหญ่เป็น ผลไม้เขตร้อน (Tropical fruit) หาทานได้แค่ในบ้านเรา และทุกตัวต้องมี “ไฮไลท์” อย่างมะพร้าวน้ำหอมอบกรอบ มะม่วงน้ำดอกไม้สุกอบแห้ง ทุเรียนหมอนทองอบกรอบ แก้วมังกรอบพันธุ์ไทยแท้ มะเขือเทศพันธุ์ไทยอบแห้ง กล้วยหอมทองอบกรอบ ลูกเดือยอบกรอบปรุงรส ตะลิงปิงแช่อิ่มอบแห้ง หรือจะผลไม้ยอดนิยมอย่าง สตรอว์เบอร์รี่อบแห้ง ก็มาแบบเต็มใบ ไม่ผ่าซีก ขณะที่แมคาเดเมีย ก็เลือกแบบเต็มเมล็ด อร่อยได้เต็มปากเต็มคำ

ด้านการผลิต ก็เลือกวิธี อบแห้ง ด้วยเทคนิค Soft-Dried เพื่อคงความนุ่ม ชุ่มชื้น ของน้ำในเนื้อผลไม้ ให้ความหวานแบบธรรมชาติแท้ๆ และเลือกวิธี อบกรอบ ด้วยเทคโนโลยี baking fried ที่สามารถคงรสชาติเดิม และกลิ่นของผลไม้ไว้ได้ครบถ้วน

ขณะที่บรรจุภัณฑ์ นอกจากจะดูดี ทันสมัย ในรูปลักษณ์ที่สวยงามเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ และกลุ่มเป้าหมายระดับ B ขึ้นไป ยังเป็นนวัตกรรมที่เหมาะกับสินค้าแต่ละชนิด อย่าง “ซอง” ที่สามารถกันแสงและกันอากาศ เหมาะกับผลไม้อบกรอบ เพื่อให้คงความกรอบไว้ตลอดเวลา “กล่องลูกฟูก” ที่ทำมาจากกระดาษไม่ฟอกสี เหมาะกับการกันกระแทก โดยไม่ต้องใช้บรรจุภัณฑ์ที่สิ้นเปลือง ส่งออกง่าย และประหยัดพื้นที่เพราะมีความบาง ขณะที่ “กล่อง” เหมาะสำหรับผลไม้อบแห้ง ด้านในซีลสุญญากาศและใช้ซองฟรอย จึงสามารถเก็บความชุ่มชื่น ของเนื้อผลไม้ไว้ได้ 1 ปี โดยที่ไม่ต้องใช้วัตถุกันเสีย

กลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ คือ สร้างของใหม่ตลอดเวลา และพยายามออกสินค้าให้เป็น “seasonal food” อาหารตามฤดูกาล หาทานไม่ได้ตลอดทั้งปี อย่าง กล้วยหอมทองกรอบ ที่จะทานได้แค่ช่วงปลายปีเท่านั้น ซึ่งนอกจากจะสร้างความน่าสนใจให้ตัวสินค้า ยังเป็นการแก้ปัญหาผลิตผลทางการเกษตรที่มีข้อจำกัด เรื่องฤดูกาล และการเพาะปลูก ที่ไม่สม่ำเสมอในแต่ละปี ทำให้การผลิตต้องวางแผนล่วงหน้า และเลือกฤดูกาลที่ดีที่สุดของผลไม้ชนิดนั้นๆ มาทำเท่านั้น
ทั้งหมดนี้ ล้วนเกิดจากไอเดียใหม่ๆ ของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ปิดกั้นในความคิด

ผลที่ตามมา คือการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ หลังเปิดตัวงานแรกที่ งานไทยแลนด์เบสท์บาย ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แล้วได้รับการติดต่อจากโมเดิร์นเทรดและเหล่าร้านเพื่อสุขภาพให้เข้าไปขาย รวมถึงขายผ่านตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ อย่าง ญี่ปุ่น และเกาะกวม เหล่าประเทศที่เป็นแฟนประจำของผลไม้ไทย การขายในโรงแรมที่มีลูกค้าต่างชาติ กลุ่มจีน ญี่ปุ่น เกาหลี เป็นหลัก ตลอดจนผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเธอบอกว่าเป็นช่องทางโปรโมทสินค้าได้ดีมาก โดยสร้างรายได้อยู่ที่ 5-10% ของยอดขายรวมและยังมีโอกาสเติบโต โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่

“พอเริ่มขายตามห้างฯ ก็เริ่มมีลูกค้าใหม่ๆ เข้ามา ที่คาดไม่ถึงเลย คือ ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะญี่ปุ่น จีน เกาหลี เพราะผลไม้พวกนี้ซื้อได้เฉพาะเมืองไทยเท่านั้น เป็นความอร่อยที่หาที่อื่นไมได้ เราเลยกลายเป็นของฝากที่เขาซื้อกลับไปประเทศเขา เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้า”

ความสำเร็จจากลูกค้าต่างชาติ ทำให้เธอเห็นโอกาสแตกขยายธุรกิจ โดยบอกว่าอนาคต “คันนา” จะไม่ได้ทำแค่ขนม แต่จะรวมถึงบริการด้านสุขภาพด้วย

“คนไทยมีจุดแข็งเรื่องการบริการ อนาคตคันนาจะไม่ใช่แค่ขนมเพื่อสุขภาพ แต่จะเป็นองค์รวมทุกอย่างของสุขภาพ เช่น สปา ทริปท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ โดยนักท่องเที่ยวมาที่นี่ที่เดียวจะได้กลับไปในทุกเรื่องสุขภาพ อยากให้เมื่อคนนึกถึงสุขภาพ ก็จะนึกถึง “คันนา” และมาประเทศไทยถ้าไม่ซื้อคันนากลับไป ก็เหมือนมาไม่ถึงเมืองไทย”

เธอบอกสิ่งที่คาดหวัง และตั้งใจให้เกิดในอีก 5-6 ปีข้างหน้า จากความเชื่อมั่นในอนาคตของตลาดเพื่อสุขภาพ ที่เธอย้ำว่า ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่เป็นสิ่งจำเป็นของชีวิตมนุษย์ ที่จะยิ่งถูกใส่ใจและให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ และนั่นคือเหตุผลที่ตลาดสินค้าและบริการเพื่อสุขภาพจะยังคงสดใสนับจากนี้

เป็นทายาทธุรกิจ แม้มาเริ่มธุรกิจของตัวเอง แต่ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากคนรุ่นพ่อ จากการถูกเลี้ยงดูมาให้กล้าแสดงความคิดเห็นตั้งแต่เด็ก เธอบอกว่าทุกวันนี้พ่อก็ยังเป็นที่ปรึกษาที่ดี คอยแนะนำการทำงาน สอนให้รู้จักมองอนาคต เตรียมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดในวันข้างหน้า ตื่นตัว และหาความรู้ใส่ตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะ..

“ถ้าเราช้ากว่าคนอื่นแค่ก้าวเดียว ก็อาจแพ้เขาไปครึ่งหนึ่งแล้ว”

ขณะที่สิ่งที่ได้เรียนรู้ตลอดการทำธุรกิจ คือ คนในแวดวงเดียวกัน ล้วนเป็นเพื่อนทางธุรกิจ มีโอกาสต้อง “คุย คิดและต่อยอด” คอยอัพเดท และแบ่งปันข้อมูลซึ่งกันและกัน

“ต้องขอบคุณที่บ้านที่ให้โอกาส และการเป็นคนที่ถ้าแน่ใจว่าคิดดีแล้ว ก็ต้องก้าวไปเต็มๆ จะไม่มีแบบ ถ้าไม่ศูนย์ก็ต้อง 100% คือต้องก้าวไปสุดๆ สำหรับการทำงาน คำว่า passion สำคัญมาก ไม่ใช่แค่ความชอบ แต่เป็น ลูกบ้า ตื่นมาแล้วต้องอยากทำ รู้สึกมันเขี้ยว ที่สำคัญต้องคิดให้ไกลกว่าที่เราทำได้ เพราะเราอาจคิดว่าเราทำได้แค่ 10 แต่จริงๆ แล้ว ความสามารถมนุษย์ไม่ที่สิ้นสุด ขึ้นกับสมองและสองมือของเราทั้งนั้น” เธอบอกหัวใจที่ทำให้เกิด “คันนา” ในวันนี้

ฝากถึงคนรุ่นใหม่ที่อยากเป็นเจ้าของกิจการ เธอบอกว่า ต้องเริ่มจากรู้จักตัวเอง และหาข้อมูล ต้องวางแผนแล้วว่าจะทำได้จริง รวมถึง ต้องกล้า และต้องเร็ว อย่าไปรอ เพราะคนเราเมื่ออายุยังน้อย มีเวลาเรียนรู้ที่จะล้มและลุกได้เสมอ

นี่คือคมคิดของธุรกิจจากคันนา ที่ไปได้ไกลเพราะพลังสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ล้วนๆ

.........................
Key to success
สูตรธุรกิจจาก “คันนา”
๐ ครอบครัวให้โอกาส เปิดทางทายาทพิสูจน์ฝีมือ
๐ จับตลาดเพื่อสุขภาพที่เป็นอนาคต
๐ สร้างความต่างในทุกมิติ
๐ มีทีมงานที่ดี สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ
๐ รู้จักตัวเอง หาข้อมูล ต้องกล้า และต้องเร็ว