'กำพล'ชี้บีโอเจพิมพ์เงิน เงินไหลเข้าดันบาทแข็ง

กรุงเทพธุรกิจทีวี ตรงประเด็นข่าวค่ำ สัมภาษณ์ ดร.กำพล อดิเรกสมบัติ เศรษฐกรอาวุโส บล.ทิสโก้ เรื่อง จับตาท่าที "บีโอเจ" กระตุ้นเศรษฐกิจ

ถาม ดร.กำพล มองว่าบทสรุปของการประชุมในวันพรุ่งนี้จะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง

ตอบ จริงๆ นักเศรษฐศาสตร์ก็คาดไว้อย่างที่เรียนว่าจะมีการตั้งอินเซชั่นไทเรนติ้ง 2 ประเด็น คือตั้งเป้าหมาย พิมพ์เงินจนกว่าเงินเฟ้อจะถึง 2% แล้วก็มีการที่จะพิมพ์เงินเพิ่ม ซึ่งถ้ามีการพิมพ์เงินเพิ่มจริงจะเป็นครั้งแรกที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นทำการพิมพ์เงิน 2 ครั้งติดต่อกันในการประชุมของบีโอเจ ซึ่งแน่นอนมันทำให้ค่าเงินเยนอ่อนอันนี้ทุกคนทราบอยู่แล้ว จริงๆแล้วถามว่าทำไมรัฐบาลญี่ปุ่น และบีโอเจต้องทำขนาดนี้ ก็เป็นเพราะว่าการที่ค่าเงินแข็ง อย่างที่ทุกคนทราบมันก็มีผลต่อการส่งออก และในช่วงที่ผ่านมาญี่ปุ่นเสียสถานภาพให้กับประเทศอื่นๆ ค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรถยนต์ เรื่องของเครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์ดังๆ ก็เสียมาร์เก็ตแชร์ค่อนข้างเยอะ และมันจำเป็นต้องทำ แล้วถามว่าทำไมต้อง 2% อันนี้ก็ต้องบอกว่าจริงๆ มันเป็นความตั้งใจ บางคนอาจจะมองว่าก็คล้ายๆ เฟดเลย แต่ธนาคารกลางสหรัฐก็ตั้งอินเซชั่นไทเรนติ้ง 2% เหมือนกัน จริงๆ ผมว่าญี่ปุ่นก็ตั้ง 2% ก็เพราะว่าต้องการให้มันรู้กันไปเลยว่าใครจะพิมพ์เงินได้มากกว่ากัน ตัวอัตราแลกเปลี่ยนที่แท้จริง ก็คือตัวนอมินอลลบอัตราเงินเฟ้อ ก็รู้กันไปเลยว่าใครจะทำเงินอ่อน หรือว่าเงินแข็งนั้นเราจะทำยังไง

ถาม การประชุมในวันนี้และวันพรุ่งนี้ จะมีผลกระทบกับค่าเงินบาทยังไงบ้าง

ตอบ จริงๆ ก็เป็นการไหลเข้าของเงินต่างชาติที่เข้ามาในบ้านเราที่เงินบาทค่อนข้างแข็งในช่วงหลัง ซึ่งก็แข็งมาค่อนข้างเยอะตั้งแต่ช่วงต้นปี จริงแล้วนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ก็ไม่มองว่ามันจะทะลุ 30 บาทเร็วขนาดนี้ รวมทั้งผมด้วย แต่ว่าส่วนหนึ่งเงินจากบีโอเจพิมพ์ออกมาก็มีการพูดถึงว่ามันก็มาไทยด้วย แน่นอนถ้ามีออกมาอีกแบบนี้มันก็มีโอกาสที่เงินบาทมันจะเริ่มอาจจะแข็งค่าขึ้นไปอีก แต่เรายังคิดว่าจริงๆ แล้วมันอาจจะไม่ได้ไปไกลขนาดถึง 29 ต้นๆ หรือ 28 น่าจะอยู่ในช่วงประมาณนี้อยู่ ประมาณ 29.75 อาจจะทดสอบแนวต้านกลับไปไว้ที่ 29.5 อันนี้ก็เป็นเรื่องของโฟลว์ที่ไหลเข้ามาในบ้านเรา ซึ่งอาจจะมีมากขึ้น ถ้าญี่ปุ่นพิมพ์เงินมากขึ้นจริงๆ

ถาม ถ้าพูดถึงปัญหาทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นแล้ว ยังมีเรื่องของเงินฟืด และนอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่องการเมืองกับคู่ค้าสำคัญรอบๆ ด้านด้วย ไม่ว่าจะเป็นจีน อย่างนี้มองว่าทิศทางของการตัดสินใจของ มาซากิ ชิรากาว่า ที่เป็นผู้ว่าการธนาคาร.กลางของญี่ปุ่น หรือผู้ว่าฯบีโอเจ กับรัฐบาล มีแนวโน้มทจะมีความขัดแย้งกันไหม

ตอบ ผมว่ามันอยู่ที่ว่าทางธนาคารกลางญี่ปุ่นจะต้องการรักษาระดับความน่าเชื่อถือ และความเป็นอิสระมากน้อยแค่ไหน เพราะว่าเท่าที่ผ่านมามีความพยายามที่จะให้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นพิมพ์เงินมาหลายรอบ เขาก็ทำบ้างไม่ทำบ้างแล้วแต่ แต่ว่ารอบนี้ อาจจะเป็นรอบที่เรื่องของการเมืองเข้ามาค่อนข้างเยอะ ผมว่าอันนี้มันขึ้นอยู่กับว่าเขาต้องการรักษาระดับความเป็นอิสระมากน้อยแค่ไหน แต่เท่าที่ดูท่าทีตอนนี้ แล้วก็ความคาดหวังของนักเศรษฐศาสตร์ หรือว่านักค้าเงินก็คงคิดว่าทางบีโอเจคงจะยอม เงินเยนถึงได้อ่อนลงถึงขนาดนี้

ถาม อยากให้ช่วยแนะนำนักลงทุนหรือว่าคุณผู้ชมที่ฟังอยู่ บอกว่าตอนนี้เศรษฐกิจทางยุโรปก็ไม่ค่อยดีเท่าไร ที่สหรัฐก็ไม่ค่อยดีเท่าไร ทางญี่ปุ่นก็ไม่รู้ว่าบทสรุปจะออกมาเป็นอย่างไร ควรจะมองไปในทิศทางไหนของโลกแล้ว ตอนนี้

ตอบ จริงๆ ผมว่าเศรษฐกิจโลก โอเคถ้าเราดูเรื่องของยุโรปยังไม่ฟื้น แต่จริงๆ ในสหรัฐสัญญาณการฟื้นตัวในเศรษฐกิจแท้จริงเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จีนเองก็มีความชัดเจนของการฟื้นตัวค่อนข้างมาก รวมทั้งในอาเซียนเราเองก็มีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง 3 ภูมิภาคนี้น่าจะเป็นอะไรที่ น่าจะมีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างดีมากกว่าที่คนคาดการณ์ไว้ ที่ผมพูดถึงเรื่องการคาดการณ์ เพราะที่สหรัฐเองโกรทก็ยังไม่ได้สูง แต่ว่าคนก็ไม่ได้คาดหวังอะไรเขามาก แต่เขามีโอกาสที่จะเติบโตมากกว่าที่คนคาด 3 ภูมิภาคนี้