‘เวิลด์แบงก์’ ชี้ ‘ศักยภาพเศรษฐกิจไทย' ถดถอยต่อเนื่องช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

"เศรษฐกิจไทย" เผชิญความท้าทายรอบด้านทั้งปัญหาที่เข้ามากระทบเศรษฐกิจในระยะสั้น และปัญหาเชิงโครงสร้าง ดร.เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ของธนาคารโลก กล่าวกับผู้สื่อข่าวในงานเปิดตัวรายงาน Thailand Economic Monitor ฉบับเดือนก.ค. วันนี้ (3 ก.ค.68) ว่า ธนาคารโลกคาดว่าจีดีพีตลอดปี 2025 ของประเทศไทยจะเติบโตอยู่ที่ 1.8% และ 1.7% ในปีหน้า จากความผันผวนเรื่องนโยบายการค้าที่อาจส่งผลกระทบภาคการส่งออกซึ่งเป็นเครื่องจักรสำคัญของเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงอย่างมาก

นอกจากนี้ ดร.เกียรติพงศ์ ยังกล่าวว่า นอกจากภาพรวมการเติบโตเศรษฐกิจในระยะสั้นแล้วเศรษฐกิจไทยยังมีปัญหาเชิงโครงสร้างอีกจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านเทคโนโลยี สังคมสูงวัย หรือพื้นที่การคลังลดน้อยลง ทั้งหมดล้วนทำให้ “ศักยภาพการเติบโต” ของจีดีพีไทยหดตัวลงตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มาอยู่ที่ระดับ 2.6-2.7% ในขณะที่เมื่อก่อนอยู่ที่ 3%

อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลไทยเริ่มลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เน้นดิจิทัล เสริมศักยภาพทุนมนุษย์ การหาพันธมิตรการค้าใหม่ เปิดเสรีภาคบริการและภาคการเกษตร หรือลดอุปสรรคในการทำงาน และดำเนินธุรกิจลง ศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอาจเพิ่มขึ้นแตะระดับ 3.4% ได้เช่นเดียวกัน

การเมืองป่วนกระทบงบฯ 2569 ? 

เมื่อถามถึงปัจจัยการเมืองว่าจะกระทบภาพรวมเศรษฐกิจไทยในระยะสั้นมากน้อยแค่ไหน ดร.เกียรติพงศ์ กล่าวว่า ในรายงานฉบับนี้ยังไม่ได้นำปัจจัยความผันผวนทางการเมืองเข้าไปพิจารณา แต่ตามหลักการปกติจะมองความผันผวนทางการเมืองเข้ากับการผ่านร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี

สำหรับร่างงบประมาณฯ ปี 2569 ยังมองว่ายังออกได้ตามปกติ และโครงการที่มีการจัดซื้อจัดจ้าง และทำโปรเจกต์ดีไซน์แล้วก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไร แต่สำหรับโครงการใหม่ที่ยังไม่เริ่มกระบวนการก็กระทบอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ “ศักยภาพการเติบโตของจีดีพี” คือ ความสามารถสูงสุดที่เศรษฐกิจหนึ่งๆ สามารถผลิตสินค้า และบริการได้โดยไม่ก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ โดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ขนาดของกำลังแรงงาน, ระดับเทคโนโลยี, และปริมาณทุนที่มีอยู่ เป็นต้น

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์