ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 เบรนท์ขึ้นเหนือ 66 ดอลลาร์

บลูมเบิร์ก รายงานภาวะตลาดน้ำมันดิบวันพุธ (16 เม.ย.) หรือเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาไทย ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นเกือบ 2% ในวันพุธ  ทำให้ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้ามีแนวโน้มพุ่งขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ในเดือนนี้

โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ซื้อขายใกล้ระดับ 63 ดอลลาร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสก็อตต์ เบสเซนต์กล่าวว่าสหรัฐฯ จะใช้แรงกดดันสูงสุดเพื่อทำลายห่วงโซ่อุปทานน้ำมันของสมาชิกโอเปก

กระทรวงการคลังสหรัฐได้คว่ำบาตรโรงกลั่นน้ำมันแห่งที่สองของจีนที่ถูกกล่าวหาซื้อน้ำมันดิบจากสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน

กระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวว่า บริษัทกลั่นน้ำมันที่เรียกว่าชากาน้ำชาที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร ชื่อ Shandong Shengxing Chemical ถูกกล่าวหาว่าจัดการกับน้ำมันดิบจากอิหร่านมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน เตหะรานเตือนว่าการเจรจานิวเคลียร์กับวอชิงตันซึ่งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นอาจล้มเหลวได้ หากรัฐบาลทรัมป์ "ปรับเปลี่ยนเป้าหมาย" 

การฟื้นตัวของตลาดน้ำมันในสัปดาห์นี้ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่แสดงให้เห็นว่าระดับน้ำมันคงคลังที่เมืองคุชชิง รัฐโอคลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันดิบ WTI ลดลงประมาณ 650,000 บาร์เรล สู่ระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2008 (2551) สำหรับช่วงเวลานี้ของปี 

• ราคาน้ำมันยังต่ำ

อย่างไรก็ตาม ราคาที่เพิ่มขึ้นยังคงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการลดลงมากกว่า 10 ดอลลาร์เมื่อต้นเดือนนี้ ซึ่งส่งผลให้ราคาน้ำมันล่วงหน้าลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตั้งกำแพงภาษีศุลกากรที่สับสนวุ่นวาย ซึ่งคุกคามการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและความต้องการพลังงาน

ขณะเดียวกัน ตลาดกำลังจับตาดูการผลิตของกลุ่มโอกเปกพลัส (OPEC+)  เนื่องจากกลุ่มพันธมิตรยังคงผลักดันให้สมาชิกควบคุมการผลิตให้ใกล้เคียงกับระดับโควตาอีกครั้ง 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าอิรักและรัสเซียมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อย และปริมาณน้ำมันที่คั่งค้างของคาซัคสถาน ซึ่งเป็นประเทศที่ละเมิดโควตาเป็นประจำก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 40%

ในวันศุกร์จะไม่มีการซื้อขายน้ำมันในตลาดการซื้อขายล่วงหน้า เนื่องจากเป็นวันหยุดในหลายประเทศ