กรมการค้าต่างประเทศ เตรียมใช้มาตรการ Licensing สินค้าอนุภาพทำลายล้างสูง

กรมการค้าต่างประเทศ เตรียมใช้มาตรการ Licensing สินค้าอนุภาพทำลายล้างสูง

กรมการค้าต่างประเทศ เตรียมใช้มาตรการ Licensing สินค้าที่เกี่ยวข้องกับอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (DUI ) เพื่อป้องกัน ลดความเสี่ยงการนำสินค้าไปใช้เป็นฐานการผลิตหรือการส่งผ่าน DUI ไปยังกลุ่มผู้ก่อการร้าย หลังเกิดสถานการณ์ความรุนแรงในหลายพื้นที่ทั่วโลก

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมทั้งความตึงเครียดระดับภูมิภาคเกิดจากหลายปัจจัย จนนำไปสู่สถานการณ์ความขัดแย้งที่รุนแรง ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการค้าในหลายประเทศรวมถึงไทย ถึงเวลาแล้วที่ไทยจำเป็นต้องยกระดับมาตรการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (Weapons of Mass Destruction: WMD) และสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items: DUI) ให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันสินค้าในทางพาณิชย์นำไปถูกปรับเปลี่ยนใช้ในการทำลายล้าง โดยเฉพาะในส่วนการสู้รบหรือก่อความไม่สงบในภูมิภาค

ปัจจุบันประเทศไทยมีพระราชบัญญัติการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. 2562 เป็นกฎหมายเฉพาะในการกำกับดูแลสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยาย WMD และสินค้า DUI ซึ่ง พ.ร.บ. ดังกล่าวได้ให้อำนาจกระทรวงพาณิชย์ในการพิจารณากำหนดมาตรการเพื่อการกำกับดูแลอย่างครบถ้วน ประกอบด้วย 1. มาตรการอนุญาต (Licensing)  2. มาตรการรับรองตนเอง (Self-Certification) และ 3. มาตรการอื่นใด

กรมการค้าต่างประเทศ ได้อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. ดังกล่าว ออกอนุบัญญัติกำหนดมาตรการอื่นใดเพื่อควบคุมสินค้า DUIประกอบด้วย 1. มาตรการ End-use End-User Control: EUEUC ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง มาตรการเพื่อประโยชน์ในการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงและมาตรการเกี่ยวกับสินค้าที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการใช้สุดท้ายหรือผู้ใช้สุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. 2564

2. มาตรการการรับรองระบบงานควบคุมสินค้าภายในองค์กร (Internal Compliance Program: ICP) ตามประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง หลักเกณฑ์การรับรองระบบงานควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. 2564 แต่อย่างไรก็ดี ไทยยังไม่ได้บังคับใช้มาตรการออกใบอนุญาต (Licensing)

สำหรับสินค้า DUI ซึ่งถือเป็นมาตรการหลักสำคัญของ พ.ร.บ. ดังกล่าว เนื่องจากในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ เป็นช่วงการใช้มาตรการสมัครใจ แต่จากสถานการณ์ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก กรมฯ จึงเห็นว่า เพื่อให้การกำกับดูแลสินค้า DUI ของไทยมีความปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการถูกใช้เป็นฐานการผลิตหรือการส่งผ่าน DUI ไปยังกลุ่มผู้ก่อการร้าย

ไทยมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการนำมาตรการ Licensing มาบังคับใช้ เนื่องจากเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพสูง ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศโดยเฉพาะประเทศคู่ค้าและการลงทุนสำคัญของไทย เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง และออสเตรเลีย เป็นต้น ว่าสามารถป้องกันการแพร่ขยาย WMD ได้อย่างเป็นรูปธรรม และแม้ว่าการใช้มาตรการออกใบอนุญาตในระยะแรก ผู้ส่งออกอาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้กฎระเบียบแนวทางปฏิบัติ แต่จากการประเมินสถานการณ์ กรมฯ เชื่อว่าผู้ส่งออกจะได้รับประโยชน์จากการใช้มาตรการอย่างน้อยก็เป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศในการทำการค้าด้วย ซึ่ง กรมฯ จะจัดให้มีประชาพิจารณ์และนำเสนอข้อมูลต่อระดับนโนบายต่อไป

ทั้งนี้ การที่ประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับการทำการค้าที่โปร่งใส ปลอดภัย ไม่นำไปสู่ความขัดแย้งหรือการสู้รบในภูมิภาค ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาประเทศว่าไทยมีความรับผิดชอบต่อสังคมโลก และสินค้าที่ส่งออกจากประเทศไทยจะมีความปลอดภัยไม่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายและการแพร่ขยาย WMD นอกจากนี้ การใช้มาตรการ Licensing ยังจะช่วยส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมายังไทย (Foreign Direct Investment: FDI) โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นเป้าหมายสำคัญตามนโยบายรัฐบาล เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ขั้นสูง อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรที่ทันสมัย เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะมีมาตรการที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการกำกับดูแลสินค้า เทคโนโลยี และเงินทุน อันจะนำมาซึ่งการลงทุนจากต่างชาติ การสร้างงาน สร้างรายได้ และการถ่ายทอดความรู้เชิงเทคนิคการผลิตซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มและต่อยอดให้อุตสาหกรรมภายในประเทศได้ต่อไป