‘ไลน์แมน’ มุ่งกำไร สานเป้าเข้าตลาดฯ จับตา ‘ฟู้ดเดลิเวอรี’ เหลือคู่แข่ง 3 ราย

ตลาดร้านอาหารมีมูลค่าราว 4 แสนล้านบาท การนั่งทานที่ร้านหรือ Dine-in ยังมีสัดส่วนใหญ่ ทว่า ช่วงวิกฤติโควิด-19 ระบาด มาตรการรัฐเบรกบริการดังกล่าวหัวทิ่ม ทำให้ “เดลิเวอรี” เติบโต และเกิดปฏิกิริยาเร่ง ให้ผู้บริโภคหันมาใช้บริการดังกล่าว

ทว่า ปี 2566 พ้นไตรมาสแรก สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ การรับประทานอาหารในร้านยอดขายโต ส่วนเดลิเวอรี “หดตัว” เล็กน้อย

หนึ่งใน “บิ๊กเนม” ของฟู้ดเดลิเวอรี ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไลน์แมน วงใน(LINE MAN Wongnai) ฉายภาพว่า การส่งอาหารหรือฟู้ด เดลิเวอรีหลังโควิด มีมูลค่าประมาณ 8.1-8.6 หมื่นล้านบาท เกิดการหดตัวลง 0.8% เนื่องจากผู้คนออกมารับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น ตลาดดิ่ง แต่ “ไลน์แมน” ยังทำเงินจากมูลค่าธุรกรรมร่วม(GMV)ช่วง 4 เดือนแรก(ม.ค.-เม.ย.66)เติบโต 33%

หากมองย้อนยุคเบ่งบานของฟู้ดเดลิเวอรี “ยอด” มองว่าปี 2565 คือช่วงที่มีการเติบโตสูงสุดหรือพีค ทั้งที่โควิดคลี่คลายแล้ว แต่แรงส่ง เกิดจากมาตรการรัฐไฟเขียวให้โครงการ “คนละครึ่ง” สามารถใช้ในการสั่งซื้ออาหารเดลิเวอรีได้นั่นเอง

“ปีที่แล้วฟู้ดเดลิเวอรีเติบโตพีคมากถึง 15% ส่วนโควิดเป็นตัวเร่งโตจากเดิมคนไม่เคยใช้บริการ หันมาใช้มากขึ้น”

เมื่อตลาดโตเร็ว และขนาดใหญ่ทะยานสู่ “แสนล้านบาท” ทำให้การแข่งขันเดือด! ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการโดดลงสนาม เพื่อแย่งขุมทรัพย์ หนึ่งในนั้นคือ “ช้อปปี้ฟู้ด” ของยักษ์อีคอมเมิร์ซ “แอร์เอเชียฟู้ด” ปรับตัวจากธุรกิจสายการบินที่โดนผลกระทบและหาทางอยู่รอดในช่วงวิกฤติโรคระบาด แต่ล่าสุด ต้องถอยทัพจากตลาด นอกจากนี้ ปลายปี 2565 ยังมีกระแสข่าว “ไลน์แมน วงใน” สตาร์ทอัพยูนิคอร์นของเมืองไทย กำลังเจรจาเข้าซื้อกิจการ “ฟู้ดแพนด้า” ในประเทศไทย

ประเด็นหลังยังต้องจับตา เพราะการเจรจาทุกอย่างในชั้นธุรกิจ ล้วนเป็น “ความลับ” ซึ่งการเจอแม่ทัพคนสำคัญอย่าง “ยอด” เลือกที่จะไม่แสดงความเห็นใดๆ

ทว่า แนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจ “ยอด” บอกว่าภายในปี 2566 บริษัทจะมีการประกาศ 2 เรื่องสำคัญ สร้างการเติบโตในระยะยาว

เมื่อสถานการณ์ฟู้ดเดลิเวอรียังคงระอุ! หากอ่านเกมการแข่งขันในตลาดมองว่าขุมทรัพย์และผู้เล่นที่เหมาะสมอาจมีได้ 3 ราย จากปัจจุบัน “ขาใหญ่” ได้แก่ ไลน์แมน แกร็บ โรบินฮู้ด และฟู้ดแพนด้า นั่นเอง

“ตอนนี้ตลาดผ่านจุดการแข่งขันสูงสุดแล้ว ผู้เล่นจำนวนน้อยลง แม้อาจไม่มีการออกจากตลาด แต่ไม่ทุ่มเงินเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ที่สำคัญภาพรวมตลาดปีนี้หดตัว แต่ปีหน้าจะกลับเข้าสู่ภาวะคลี่คลาย และเห็นอัตราการเติบโตได้”

อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นมีผลประกอบการอู้ฟู่! แต่บรรทัดสุดท้ายหรือ “กำไร” ไม่เห็น ตรงข้าม “ขาดทุน” บักโกรกถ้วนหน้าระดับ “พันล้านบาท” เว้นแกร็บ

ภารกิจของ “ยอด” ในปี 2566 ยังเดินหน้าล้างขาดทุนเพื่อพลิกทำ “กำไร” ให้เป็นไปตามแผนผลักดันบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เพื่อระดมทุนขยายธุรกิจ

ในปีนี้ “ไลน์แมน” เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆตอบโจทย์ผู้ใช้งาน เช่น สั่งอาหารเป็นกลุ่ม เพื่อประหยัดค่าส่งในครอบครัวเดียวกัน ที่ทำงาน เป็นต้น มีฟีเจอร์ LINE MAN Only รวมร้านที่สั่งได้เฉพาะไลน์แมนแบบเอ็กซ์คลูสีพเท่านั้น เพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน เป็นต้น

“ร้านที่เป็นไลน์แมน โอนลี่ คือขายอาหารแค่กับเราเจ้าเดียว มั่นใจว่าจะทำได้มากสุดแน่นอน เพราะจุดเด่นของเราคือมีร้านจำนวนมากราว 5 แสนร้านค้า"

นอกจากฟู้ดเดลิเวอรีมุ่งโต “ไลน์แมน” ​ยังขยายบริการออนดีมาน์กลุ่มที่ไม่ใช่อาหารหรือ Non-Food ด้วย เช่น บริการส่งสินค้า ทั้งของสด ของใช้ด่วน ที่มีร้านบนแพลตฟอร์มกว่า 5 หมื่นร้าน ปีนี้จะขยายจำนวนร้านค้า 11 แบรนด์ ครอบคลุม 2,000 สาขาทั่วประเทศ เช่น บีทูเอส เบทาโกร บิ๊กซี แฟมิลี่มาร์ท กูร์เมต์ มาร์เก็ต ออฟฟิศเมท ร้านยาเพียว ฯ

ส่วนบริการเมสเซนเจอร์ ส่งของ เอกสาร การวางบิล เพิ่มฟีเจอร์ Pin For Me เพื่อให้ผู้รับปักหมุดได้เอง การเพิ่มตัวเลือกมอบหมายงานให้ไรเดอร์ช่วยวางบิล ส่งเอกสาร ขอลายเซ็น หรือเดินขึ้นอาคาร เพิ่มจากการส่งเอกสารอย่างเดียว และไลน์แมน แท็กซี่ ใช้เทคโนโลยีปรับปรุงการรับงานของคนขับแท็กซี่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ขณะที่ธุรกิจ Merchant Solutions เสริมแกร่งพอร์ตรายได้ให้บริษัท ชู “Wongnai POS” ระบบจัดการร้านอาหารและการขายผ่านเดลิเวอรีให้ผู้ประกอบการร้านอาหารใช้งานมากกว่า 50,000 ร้าน และจะขยายฐานต่อเนื่อง

“การจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เราต้องมีกำไรติดต่อกัน ซึ่งเชื่อว่าภาพการคืนทุน ทำกำไรจะเห็นได้ในไม่ไกล ส่วนปีนี้ไหม..ต้องรอดู"