เอกชนรอนโยบาย ‘กระตุ้น’ เศรษฐกิจ ‘ทยอย’ ปรับค่าแรงแบบขั้นบันได

ภาคเอกชนอยากเห็นความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาล อยากให้รัฐบาลใหม่มุ่งเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต ทั้งระบบทั้งภาคการผลิต การส่งออก การลงทุนภาคเอกชน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวบริการ

ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป ธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท ระบุ ภาคเอกชนอยากเห็นความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาล อยากให้รัฐบาลใหม่มุ่งเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตทั้งระบบ ทั้งภาคการผลิต การส่งออก การลงทุนภาคเอกชน รวมถึงภาคการท่องเที่ยวบริการ ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ของรัฐบาลใหม่ หลังจากไตรมาสแรกจีดีพีไทยยังเติบโตไม่ถึง 3% เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยังไม่ถูกผลักดันอย่างเต็มที่ การส่งออกยังติดลบ การบริโภคภายในประเทศ การท่องเที่ยวที่ยังฟื้นตัวไม่เต็ม 100% รวมถึงการใช้จ่ายของภาครัฐ ที่ยังต้องรอความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลในการเข้ามากระตุ้น 

ภาคเอกชนอยากเห็นนโยบายที่กระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศทันที รวมถึงการดูแลสาธารณูปโภค ค่าไฟ ค่าครองชีพ เพื่อให้ประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น ส่วนการจัดตั้งทีมเศรษฐกิจใหม่มองว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะมีส่วนช่วยในการวางนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งต้องการคนที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในการผลักดันนโยบาย

ส่วนนโยบายการปรับขึ้นค่าแรง มองว่าในภาพรวมส่งผลกระทบกับทุกอุตสาหกรรม อยากเสนอให้ทยอยปรับขึ้นเป็นระบบขั้นบันได และปรับขึ้นเป็นภูมิภาคเพื่อให้ผู้ประกอบการมีเวลาปรับตัว ขณะเดียวกันอยากนำเสนอให้รัฐบาลเร่งพัฒนาศักยภาพแรงงาน พัฒนาฝีมือแรงงานไทยให้สามารถสนับสนุนผู้ประกอบการในการแข่งขันระดับโลกได้อย่างมีนัยสำคัญ

ทุ่ม 2 พันล้าน ขยาย 200 สาขา

สำหรับภาพรวมธุรกิจอาหารทั้งปี 2566 มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่องทั้งยอดขายต่อสาขา และรายได้รวมทั้งปี 2566 มีแรงหนุนจากกำลังซื้อในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้งวด 4 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม – เมษายน) เติบโตได้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2562 สะท้อนจากยอดขายต่อสาขาช่วงต้นเดือนเมษายน 2566 มากกว่าช่วงเดียวกันปี 2562 ได้ราว 10% จึงคาดการณ์ผลการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจอาหารทั้งปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตได้ราว 17-20% เมื่อเทียบกับปี 2565 อยู่ที่ 31,000-33,000 ล้านบาท โดยรายได้ไตรมาส 2/66 มีแนวโน้มดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/66 ที่มีรายได้ 7,700 ล้านบาท

บริษัทเตรียมงบลงทุนกลุ่มธุรกิจอาหารทั้งปี 2566 อยู่ที่ราว 1.7 – 1.9 พันล้านบาท เพื่อขยายสาขาแบรนด์ร้านอาหารในเครือรวมมากกว่า 200 สาขา ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้ง 4 แบรนด์ใหม่ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม เจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย  ได้แก่ “ร้านพูเลท์” ร้านอาหารสไตล์คลาสสิกคอมฟอร์ตฟู้ดเสิร์ฟเมนูเด็ดอย่าง ไก่อบสไตล์ฝรั่งเศส และพาสต้าหลากหลายประเภท “ร้านริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช” ร้านอาหารจีนต้นตำรับที่โดดเด่นเรื่องปลาย่างสไตล์ฉงชิ่งที่มีมากกว่า 140 สาขา “กาก้า” ร้านเครื่องดื่ม และชานมไข่มุกที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่  และ “ฟรายส์” แบรนด์น้องใหม่ภายใต้เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ซึ่งจะมาช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้พอร์ตโฟลิโอ และผลักดันการเติบโตของ ไมเนอร์ ฟู้ด ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์