'ไทยเที่ยวญี่ปุ่น' บูมแตะ 1 ล้านคนปี 66 แพ็กเกจทัวร์ 'โลว์ซีซัน' ราคาร่วง 20%

'ไทยเที่ยวญี่ปุ่น' บูมแตะ 1 ล้านคนปี 66  แพ็กเกจทัวร์ 'โลว์ซีซัน' ราคาร่วง 20%

สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) ประเมินแนวโน้มตลาดคนไทยเที่ยวต่างประเทศปี 2566 คาดมีจำนวน 6-7 ล้านคน ฟื้นตัวราว 70% จากจำนวน 11-12 ล้านคนเมื่อปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด มีตลาด 'คนไทยเที่ยวญี่ปุ่น' เป็นหัวหอกนำทางการฟื้นตัว!

เจริญ วังอนานนท์ นายก ทีทีเอเอ กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า สมาคมฯ ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลทางการตลาดกับ “องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น” (JNTO) ประเมินว่าตลอดปี 2566 น่าจะมีคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นถึง 1 ล้านคน จากปัจจัยเที่ยวบินเส้นทางไทย-ญี่ปุ่นฟื้นตัวมากขึ้น ความสะดวกสบายเรื่องการเดินทางและอาหารการกิน ขณะที่กำลังซื้อด้านท่องเที่ยวต่างประเทศของคนไทย พบว่ามีเงินก้อนขนาดเล็กลง จึงเลือกเดินทางไปจับจ่ายที่ญี่ปุ่นแทนการไปเที่ยวยุโรป!

ประกอบกับ “ราคาแพ็กเกจทัวร์ญี่ปุ่น” ในไตรมาส 2 ตั้งแต่เดือน พ.ค. นี้เป็นต้นไปซึ่งเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซัน บริษัททัวร์ตั้งราคาขายเริ่มต้นที่ 2.5-2.9 หมื่นบาทขึ้นไป ปรับลดลง 20% จากก่อนหน้านี้ที่มีการขายแพ็กเกจทัวร์ราคาเริ่มต้น 4 หมื่นบาทจนถึงระดับ 5 หมื่นบาทปลายๆ ตั้งแต่ญี่ปุ่นเปิดประเทศเมื่อเดือน ต.ค. 2565 จนถึงพีคซีซันช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งถูกปรับราคาขึ้นกว่า 30% จากแรงกดดันภาวะเงินเฟ้อ

++ "ไทยเที่ยวญี่ปุ่น" 3 เดือนแรกปีนี้ เฉียด 2.5 แสนคน

รายงานข่าวจาก JNTO ระบุว่า สถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นในไตรมาส 1/2566 ตั้งแต่เดือน ม.ค.-มี.ค. พบว่ามีจำนวน 244,700 คน ฟื้นตัว 70% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันเมื่อปี 2562 ซึ่งมีจำนวน 347,937 คน เมื่อดูเฉพาะเดือน มี.ค. มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้าญี่ปุ่น 108,000 คน ฟื้นตัว 73% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2562 ซึ่งมีจำนวน 147,443 คน

ทั้งนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้าญี่ปุ่นสูงสุดเป็นอันดับ 5 จากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด 4,790,300 คนในไตรมาส 1/2566 ฟื้นตัว 60% เมื่อเทียบกับจำนวน 8,053,797 คนของไตรมาสเดียวกันในปี 2562

\'ไทยเที่ยวญี่ปุ่น\' บูมแตะ 1 ล้านคนปี 66  แพ็กเกจทัวร์ \'โลว์ซีซัน\' ราคาร่วง 20% โดยอันดับ 1 เกาหลีใต้ มีจำนวน 1,600,700 คน ฟื้นตัว 77% ส่วนอันดับ 2 ไต้หวัน จำนวน 786,700 คน ฟื้นตัว 66% รองลงมา อันดับ 3 ฮ่องกง จำนวน 416,200 คน ฟื้นตัวกว่า 82% และอันดับ 4 สหรัฐ จำนวน 378,000 คน เติบโต 1.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2562

นอกเหนือจากตลาดสหรัฐแล้ว อีก 3 ตลาดที่ฟื้นตัวคืนสู่สภาวะปกติ และมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าญี่ปุ่นดีกว่าปี 2562 คือ “เวียดนาม” มีจำนวน 161,000 คน เติบโตมากถึง 31.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2562 ด้าน “สิงคโปร์” มีจำนวน 106,500 คน เติบโต 15.2% และตลาด “ตะวันออกกลาง” มีจำนวน 20,200 คน เติบโต 4.7%

สำหรับสถิติเมื่อปี 2562 จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น 31,880,000 คน มีจำนวนนักท่องเที่ยวไทย 1,319,000 คน คิดเป็นสัดส่วน 4.1% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินเข้าประเทศญี่ปุ่น มากเป็นอันดับ 6 รองจากเกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และสหรัฐ โดยถือเป็นอันดับ 1 ของตลาดอาเซียนเที่ยวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเกิน 1 ล้านคน 

\'ไทยเที่ยวญี่ปุ่น\' บูมแตะ 1 ล้านคนปี 66  แพ็กเกจทัวร์ \'โลว์ซีซัน\' ราคาร่วง 20%

 

++ 2 เดือนแรก "ไทยเที่ยวไต้หวัน" สูงกว่า 4.5 หมื่นคน

ซินดี้ เฉิน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ กล่าวว่า ตลาดนักท่องเที่ยวไทยถือเป็นตลาดใหญ่และสำคัญของ “ไต้หวัน” จากสถิติในปี 2562 ก่อนวิกฤติโควิด-19 พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางมาไต้หวันมากกว่า 413,000 คน

แต่หลังจากเกิดการระบาดใหญ่ ส่งผลให้ตลาดการท่องเที่ยวทั่วโลกชะลอตัว กระทั่งสถานการณ์คลี่คลาย ไต้หวันได้เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางมาเที่ยวไต้หวันได้เช่นเดิมตั้งแต่เดือน ต.ค. 2565 ได้ผลตอบรับจากนักท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างดี มีจำนวนเดินทางมาไต้หวันในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2566 ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.พ. สูงกว่า 45,000 คน ฟื้นตัวกว่า 80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562

\'ไทยเที่ยวญี่ปุ่น\' บูมแตะ 1 ล้านคนปี 66  แพ็กเกจทัวร์ \'โลว์ซีซัน\' ราคาร่วง 20%

 

++ "ไต้หวัน" จัดแคมเปญใหญ่ สุ่มแจกคูปองเที่ยว 5 แสนราย 

ทางกระทรวงการท่องเที่ยวไต้หวัน ได้จัดแคมเปญ Taiwan the Lucky Land เที่ยวไต้หวันลุ้นรับโชค” สุ่มแจกคูปองรางวัลมูลค่ากว่า 5,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (NTD) หรือประมาณ 5,600 บาท ให้แก่นักท่องเที่ยวที่ถือหนังสือเดินทางต่างชาติ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไต้หวัน ช่วยสร้างมูลค่าเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายตามเกณฑ์ต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวด้วยตนเอง (FIT) และมีเวลาพำนักในไต้หวันระหว่าง 3-90 วัน ซึ่งต้องไม่ใช่การเดินทางมากับกรุ๊ปทัวร์หรือสมัครเข้าร่วมกิจกรรมกับโปรแกรมสนับสนุนกรุ๊ปทัวร์แต่อย่างใด 

การสุ่มแจกคูปองรางวัลจะมีจำนวนทั้งสิ้น 500,000 ราย แบ่งเป็น ปี 2566 สุ่มแจก 250,000 ราย ปี 2567 สุ่มแจก 150,000 ราย และปี 2568 สุ่มแจก 100,000 ราย และเป็นสนับสนุนในรูปแบบของบัตรแทนเงินสดอีซี่การ์ด บัตรแทนเงินสดไอพาสหรือคูปองโรงแรม ซึ่งมีอายุการใช้งาน 90 วัน หลังจากที่ออกบัตรหรือออกคูปอง

นักท่องเที่ยวสามารถลงทะเบียนล่วงหน้า 1-7 วันก่อนเดินทางมาเที่ยวไต้หวัน ผ่านทางเว็บไซต์ www.5000.taiwan.net.tw เริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. 2566 เวลา 12.00 น. (เวลาประเทศไทย) เป็นต้นไป โดยกิจกรรมสุ่มแจกคูปองเงินรางวัลจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2566 เวลา 12.00 น. (GMT+8) ไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2568

 

++ อัดเงินจูงใจบริษัททัวร์ ดึงกรุ๊ปทัวร์เข้า "ไต้หวัน"

อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการ สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวเสริมว่า นอกเหนือจากการกระตุ้นกลุ่ม FIT แล้ว ทาง “การท่องเที่ยวไต้หวัน” ยังได้สนับสนุนการทำตลาด “กรุ๊ปทัวร์” ด้วย โดยบริษัททัวร์สามารถยื่นเรื่องขอสนับสนุนจากการท่องเที่ยวไต้หวัน สำนักงานกรุงเทพฯ

สำหรับเกณฑ์ของ “กรุ๊ปอินเซนทีฟ” (เดินทางเพื่อเป็นรางวัล) ในลักษณะกรุ๊ปเหมา 50 คนขึ้นไป จะได้รับการสนับสนุนที่ 800 บาทต่อคน แต่ถ้า 100 คนขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาทต่อคน โดยยังไม่รวมเงินสนับสนุนหรือค่าบัตรผ่านประตูจากแหล่งท่องเที่ยวตามภูมิภาคหรือบางเขตท้องถิ่นของไต้หวันที่ต้องการนักท่องเที่ยวเข้าไปจับจ่าย

ส่วน “กรุ๊ปเลเชอร์ทั่วไป” (Leisure Group) แบ่งเป็น 1.ขนาดกรุ๊ปทัวร์ 4-7 คน ระยะเดินทาง 3 วัน 2 คืน สามารถขอการสนับสนุนได้ที่กรุ๊ปละ 5,000 บาท แต่ถ้าเดินทาง 7 วัน 6 คืน ได้กรุ๊ปละ 10,000 บาท 2.ขนาดกรุ๊ปทัวร์ 8-14 คน เดินทาง 3 วัน 2 คืน ได้กรุ๊ปละ 10,000 บาท ถ้าเดินทาง 7 วัน 6 คืน ได้กรุ๊ปละ 20,000 บาท 3.ขนาดกรุ๊ปทัวร์ 15-49 คน เดินทาง 3 วัน 2 คืน ได้กรุ๊ปละ 20,000 บาท ถ้าเดินทาง 7 วัน 6 คืน ได้กรุ๊ปละ 30,000 บาท และ 4.ขนาดกรุ๊ปทัวร์ 50 คนขึ้นไป เดินทาง 3 วัน 2 คืน ได้กรุ๊ปละ 40,000 บาท ถ้าเดินทาง 7 วัน 6 คืน ได้กรุ๊ปละ 50,000 บาท โดยมีโควตาทั้งหมด 90,000 กรุ๊ป

สะท้อนถึงวิธีการทำตลาดของไต้หวันที่เร่งกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังยุคโควิด-19 จบลง!