สบายดีหรือเปล่า? ‘ไทยแอร์เอเชีย’ ตอบคำถามมหาชน พ้นบ่วงโควิดแล้ว เอาไงต่อ?

สบายดีหรือเปล่า?  ‘ไทยแอร์เอเชีย’ ตอบคำถามมหาชน  พ้นบ่วงโควิดแล้ว เอาไงต่อ?

“พอเจอกัน ทุกคนต่างถามผมด้วยคำถามเดียวกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง ดีขึ้นหรือยัง และอนาคตจะเป็นอย่างไรบ้าง” นี่คือคำถามมหาชนที่มีถึง ธรรศพลฐ์ เเบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV และบริษัท ไทยแอร์เอเชีย จำกัด หลังโดนโควิดเล่นงานหนัก

“ก็ต้องตอบว่าตอนนี้เริ่มดีขึ้น เครื่องบินกลับมาทำการบินได้มากขึ้น ตัวเลข Load Factor (อัตราการขนส่งผู้โดยสาร) ค่อนข้างดี ราคาตั๋วบินดีขึ้น บางท่านถามว่าจีนเปิดประเทศแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ก็ดีครับ แต่อยากให้ดีกว่านี้ ตอนจีนเปิดประเทศ เขาก็เปิดขึ้นมาเลย ไม่ได้บอกคนในประเทศว่าจะเปิด”

“ในช่วงโควิดระบาด ไทยแอร์เอเชียเก็บนักบิน ลูกเรือ และเอ็นจีเนียร์เอาไว้ นั่นหมายความว่าเมื่อโลกกลับมาเหมือนเดิม เราสามารถกดปุ่มแล้วบินได้เลย เหมือนเราดูหนังใน Netflix อยู่แล้วกดปุ่ม Pause พอโลกเปิด เราก็กดปุ่ม Play ต่อ นั่นคือสาเหตุว่าทำไมไทยแอร์เอเชียถึงกลับมาทำการบินได้เร็ว คิดว่าปีนี้จะกลับมาบินได้ครบเหมือนปี 2562 ก่อนโควิด จากนั้นจะเดินหน้าต่อไป” ธรรศพลฐ์ กล่าวภายในงาน AAV Investor Day 2023 เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา

 

++ ปี 2566 : ปีแห่งการแก้ปัญหาอย่างหมดจด...เบ็ดเสร็จ!

สันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AAV และสายการบินไทยแอร์เอเชีย เล่าถึงการเดินหน้าขยายธุรกิจของไทยแอร์เอเชียว่า “สิ่งที่ต้องทำ” ในปี 2566 คือการ “ฟื้นเที่ยวบินและที่นั่งโดยสาร” กลับมาให้ได้ เพื่อเป้าหมายจำนวนผู้โดยสาร 20 ล้านคน ฟื้นตัว 90% เมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนโควิดระบาด และเพิ่มขึ้นจาก 9.95 ล้านคนในปีที่แล้ว

และจากเทรนด์ “ราคาตั๋วเครื่องบินแพงขึ้น” เฉลี่ย 20% ตามต้นทุนราคาน้ำมันและซัพพลายเที่ยวบินที่ยังมีจำกัด ตั้งเป้ามี Load Factor เฉลี่ย 87% จะทำให้ปีนี้ไทยแอร์เอเชียมีรายได้สูงขึ้น อยู่ที่ประมาณ 42,000 ล้านบาท สูงกว่าปี 2562 ซึ่งทำรายได้ 41,551 ล้านบาท จากการใช้งานฝูงบินซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 53 ลำ ยังมากกว่าฝูงบินของคู่แข่งรองลงมาถึง 3 เท่า

“เรามองว่าปี 2566 เป็นปีแห่งการแก้ปัญหา ต้องแก้ให้หมดภายในปีนี้ โดยเฉพาะปัญหาซัพพลายเชน เอาเครื่องบินกลับมา ดึงพนักงานกลับมาทำงาน ก่อนก้าวสู่ปี 2567 เข้าสู่สภาวะเดินหน้าอย่างเต็มที่”

 

++ จีน : ตลาดถนัด รุกขยายเน็ตเวิร์กเส้นทางบินเชิงลึก

“การกลับมาของตลาดนักท่องเที่ยวจีนคือตัวแปรหลักในการฟื้นตัวปีนี้” ซีอีโอไทยแอร์เอเชียย้ำ

เมื่อจีนเปิดประเทศ ทำให้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปรับเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2566 เพิ่มเป็น 25-30 ล้านคน โดยเป็นนักท่องเที่ยวจีนกว่า 7-8 ล้านคน

และจากสถิติตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 23 มี.ค. 2566 พบว่ามีจำนวนสะสมกว่า 5.5 ล้านคน โดยเป็น “นักท่องเที่ยวจีน” กว่า 3.9 แสนคน มากเป็นอันดับ 4 รองจากมาเลเซีย รัสเซีย และเกาหลีใต้

“คนจีนจะมาท่องเที่ยวไทยเยอะแน่นอนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เหมือนกับภาพคนไทยแห่ไปเที่ยวญี่ปุ่นตอนเปิดประเทศ โดยมองด้วยว่าในช่วงแรกๆ คนจีนจะยังไม่ไปเที่ยวยุโรปและสหรัฐ เพราะค่าใช้จ่ายสูง จึงเลือกมาเที่ยวประเทศไทยมากเป็นอันดับ 1”

ปัจจุบันไทยแอร์เอเชียกลับมาให้บริการเส้นทางบิน ไทย-จีน แล้ว 8 เส้นทาง จากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่ กว่างโจว ฉงชิ่ง ฉางชา หางโจว คุนหมิง เซินเจิ้น อู่ฮั่น และหนานจิง คิดเป็นจำนวนเที่ยวบิน 40 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ไตรมาส 2 จะเปิดอีก 3 เส้นทาง จากกรุงเทพฯ สู่ เฉิงตู ซีอาน และซานโถว (ซัวเถา) พร้อมเพิ่มจำนวนเที่ยวบินรวมเป็น 100 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และในไตรมาส 3 และ 4 จะเปิดอีก 4 เส้นทาง จาก “เชียงใหม่” เมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีน สู่ ฉางชา ปักกิ่ง เซินเจิ้น และหางโจว พร้อมเพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้ได้ใกล้เคียงของเดิมก่อนเกิดโควิดที่ 140 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

“เราพร้อมบุกตลาดเมืองจีน นี่คือตลาดที่เราถนัด จะเปิดให้ครบทุกเส้นทางภายในปีนี้แน่นอน สเต็ปต่อไปคือต้องไปแบบลึกขึ้น ขยายเครือข่ายเส้นทางบินตรงจากจีนเข้าเมืองท่องเที่ยวในต่างจังหวัดของไทยมากขึ้น เช่น เชียงใหม่ และภูเก็ต”

ตอนนี้ไทยแอร์เอเชียเตรียมแผนสอง (Plan B) เอาไว้ว่า อาจจะเช่าเครื่องบินอีก 5 ลำใหม่ในไตรมาส 4 นี้ เพื่อนำมารองรับดีมานด์นักท่องเที่ยวจีนทะลักเข้าไทย ทำให้สิ้นปี 2566 ไทยแอร์เอเชียจะมีฝูงบินเพิ่มจาก 53 ลำ เป็น 58 ลำ และสามารถขยับเป้าหมายจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดเพิ่มจาก 20 ล้านคน เป็น 22 ล้านคน โดยเป็นผู้โดยสาร “ชาวจีน”  20% ของผู้โดยสารทั้งหมด ทำรายได้ในสัดส่วน 30% ของรายได้ทั้งหมด

“ในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือปี 2570 มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยแตะ 20 ล้านคน จากเคยทำสถิติสูงสุด 11 ล้านคนเมื่อปี 2562 โดยคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยที่ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาตั้งเป้าไว้ 80 ล้านคนในปี 2570”

 

++ ตั้งเป้าโกยรายได้ปี 69 เฉียด 6 หมื่นล้านบาท

ด้านเป้าหมายใหญ่ในปี 2569 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า ไทยแอร์เอเชียหมายมั่นปั้นมือ มีรายได้ 58,000 ล้านบาท จากแผนการขยายฝูงบินเพิ่มเป็น 72-73 ลำ โดยในช่วงปี 2567-2569 จะทยอยรับมอบอีกปีละ 5 ลำ เพื่อนำมาเปิดเส้นทางบินแบบ “เชิงลึก” ยิ่งขึ้น! ในตลาดจีน ญี่ปุ่น และเอเชียใต้ ตั้งเป้ามีจำนวนผู้โดยสาร 26 ล้านคนในปี 2569

“อย่างในปี 2567 เราวางแผนจะรับมอบเครื่องบินแอร์บัส A321 และ A321 XLR ที่สามารถทำการบินได้ไกล 5-6 ชั่วโมง มีจำนวนที่นั่งโดยสาร 230 ที่นั่งต่อลำ มากกว่า A320 ที่มีราว 180 ที่นั่ง แน่นอนว่าเราต้องพิจารณาเส้นทางบินไม่ให้ทับซ้อนกับตลาดของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (Thai Airasia X) ซึ่งอาจไปได้ไกลขึ้น เช่น บินตรงสู่ยุโรป จากปัจจุบันทำการบินเส้นทางสู่ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย” สันติสุข กล่าว

สบายดีหรือเปล่า?  ‘ไทยแอร์เอเชีย’ ตอบคำถามมหาชน  พ้นบ่วงโควิดแล้ว เอาไงต่อ?